ตอนที่ 1298
ผนึกกฎเกณฑ์
อาวุธสงครามสีดำสนิทกรีดเฉือนผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กลายเป็นลำแสงอันลี้ลับที่สามารถจะตัดทุกสรรพสิ่งให้ขาดสะบั้นลงไปได้ ทำลายกลิ่นอายทั้งหมดไป กรีดเฉือนลงไปยังห้าแก่นแท้ที่ไป๋จู่ปลดปล่อยออกมา เริ่มต้นจากแก่นแท้แห่งการทำลายล้าง เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ขณะที่ชุดเกราะผีโต้งดูดซับพลังการโจมตีอย่างรุนแรงนั้นเข้าไป อาวุธสงครามกรีดเฉือนไปคล้ายกับเป็นใบมีดอันคมกริบที่ผ่ากระบอกไม้ไผ่ ทำลายแก่นแท้แห่งการทำลายล้างและพุ่งต่อไป
ในชั่วพริบตาเวทแก่นแท้แห่งพลังของไป๋จู่ก็เข้ามาใกล้ มันสามารถจะทำลายพลังใดๆ ได้ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือพื้นฐานฝึกตน ราวกับเป็นแสงสว่างแห่งสวรรค์ และในเวลาเดียวกันนั้นก็เป็นสวรรค์แห่งแสงสว่างด้วยเช่นกัน ความแตกต่างอย่างมากมายนี้ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องกระอักโลหิตออกมากองโต ใบหน้าซีดขาวขณะที่ชุดเกราะผีโต้งสั่นสะท้านไปมา
“ตัด!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาดขึ้น ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำโดยสิ้นเชิง ไม่สนใจอาการบาดเจ็บใดๆ ใช้พลังทั้งหมดของอาวุธสงครามกรีดเฉือนลงไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งดูเหมือนว่าแทบจะถูกแยกส่วนออกไปได้ทุกเมื่อ อาวุธสงครามกรีดผ่านแก่นแท้แห่งพลังไปราวกับหั่นเฉือนก้อนเต้าหู้!
แต่แก่นแท้แห่งคำสาปแช่งก็กลายเป็นกลุ่มหมอกปกคลุมไปรอบๆ ตัวเขาเรียบร้อยแล้ว ร่างกายเมิ่งฮ่าวเริ่มแห้งเหี่ยวลงไป และชุดเกราะผีโต้งก็ส่งเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา เสียงแตกร้าวเริ่มดังก้องขึ้น ราวกับว่ามันแทบจะแตกกระจายออกไป
แก่นแท้ของไป๋จู่มีพลังมากกว่าจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ทั่วไป น่ากลัวจนถึงระดับที่เมิ่งฮ่าวไม่เคยพบเห็นมาก่อน!
“จริงๆ แล้วเจ้าไม่ได้อ่อนแอ แต่สุดท้ายแล้ว…เจ้ามีแก่นแท้น้อยมากเกินไป ในฐานะที่เป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า ถึงเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านสวรรค์อย่างแท้จริง ดังนั้นเจ้าจึงไม่อาจจะต่อต้านข้าได้!”
ไป๋จู่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว กลุ่มหมอกพลังสาปแช่งม้วนตัวไปมา หมุนวนอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าต้องการจะไหลซึมเข้าไปในรูขุมขนบนผิวหนังของเขา
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าดุร้ายขณะที่อาวุธสงครามกรีดเฉือนออกไป พร้อมกับประกายแสงอันลี้ลับ ไม่สนใจอาการบาดเจ็บสาหัสที่กำลังกำเริบอยู่ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวกรีดเฉือนผ่านพลังคำสาปแช่งตรงไปยังไป๋จู่!
แต่ระหว่างคนทั้งสองก็ยังคงเต็มไปด้วยพลังแก่นแท้ ต่อมาเป็นแก่นแท้แห่งพื้นดิน ทำให้ช่องว่างระหว่างคนทั้งสองเต็มไปด้วยสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นทวีปและดวงดาว
ในตอนนี้ชุดเกราะผีโต้งแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นก็รวมตัวกลับเข้ามาใหม่จนกลายเป็นผีโต้ง ดูเหมือนว่ามันจะอ่อนแออย่างถึงที่สุด และกลายเป็นแสงสีเทาพุ่งกลับเข้าไปในถุงสมบัติเมิ่งฮ่าวในทันที
เมิ่งฮ่าวสูญเสียชุดเกราะผีโต้งไปแล้ว แต่ก่อนที่มันจะหายตัวไป ก็ยังคงช่วยเขาต่อต้านพลังจากแก่นแท้แห่งพื้นดินได้บ้าง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว แต่ก็ยังคงพุ่งตรงไปราวกับเป็นสายฟ้า คล้ายกับดาวตก กระแทกเข้าไปยังแก่นแท้นั้น กรีดเฉือนด้วยอาวุธสงคราม โดยมีพลังแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าคอยเกื้อหนุนอยู่
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน และทุกสรรพสิ่งก็มืดสลัวลง ขณะที่อาวุธสงครามกรีดเฉือนออกไป แรงกดดันขนาดใหญ่ก็ระเบิดขึ้น ช่วยให้เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านดวงดาวและทวีปไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าไป๋จู่
แต่ในตอนนี้เองที่แก่นแท้สุดท้ายของไป๋จู่ปะทุขึ้น ซึ่งก็คือเวทแห่งกาลเวลา ทำให้โลกแห่งนี้บิดเบี้ยวไปมาและโคจรย้อนกลับ ราวกับเป็นสายลมแห่งกาลเวลา ทำให้อีกสี่แก่นแท้ที่เมิ่งฮ่าวกำราบไป…ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งในทันที!!
“ไม่มีจุดเริ่มต้นไร้จุดสิ้นสุด นั่นก็คือกาลเวลา เมื่อเจ้าไม่อาจจะเอาชนะเวทแก่นแท้ทั้งห้าของข้าได้ เจ้าก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า!”
ขณะที่เสียงของไป๋จู่ดังกระเพื่อมขึ้น เมิ่งฮ่าวก็กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง พร้อมทั้งอาการบาดเจ็บภายในที่พุ่งกระจายออกไป เขาไม่มีอาวุธสงครามอีกต่อไป มันหายไปแล้ว กลับไปอยู่ในรูปแบบของกระจกทองแดง ลอยกลับเข้าไปในถุงสมบัติอีกครั้ง
ในตอนนี้เวทแก่นแท้ทั้งห้ากลับคืนมา ก่อตัวเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับภาพของโลกที่อยู่สูงขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
นี่คือโลกแก่นแท้ทั้งห้าของไป๋จู่ เป็นโลกที่กระแสแห่งกาลเวลาบิดเบี้ยวไปมา พื้นดินสั่นสะท้าน พลังแห่งการทำลายล้างทำให้ทุกสรรพสิ่งตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย กระแสแห่งคำสาปแช่งและการทำลายล้างกระจายเต็มไปทั่วทั้งฟ้าดิน และประกอบด้วยแก่นแท้แห่งพลัง เป็นโลกที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งจนดูเหมือนว่าจะสามารถม้วนกวาดไปยังทุกสรรพสิ่ง
ทันใดนั้นมันก็เริ่มส่งเสียงดังกระหึ่มเต็มไปทั่วในอากาศ บดขยี้ลงมายังเมิ่งฮ่าว
ความรู้สึกถึงวิกฤติอันร้ายแรงพุ่งขึ้นมาในจิตใจเมิ่งฮ่าว ดวงตาแดงก่ำ และแอบถอนหายใจออกมา แต่ในตอนนี้เองที่เจตจำนงแห่งการต่อสู้ก็ลุกโชนขึ้นมาในดวงตา
“ถ้าการโจมตีอย่างกะทันหันไม่ได้ผล…ข้าก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบ!” เปลวไฟเต้นไปมาอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่โลกแก่นแท้อันน่าตกใจบดขยี้ลงมา เขารีบใช้สองมือขยับร่ายเวท ทำให้ความผันผวนของพันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูรพุ่งขึ้นมาอยู่ภายในร่างอย่างฉับพลัน
“พันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูรสามารถผนึกอสูรอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพี บางทีอาจจะสามารถ…ผนึกแก่นแท้ได้ด้วยเช่นกัน?” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่เริ่มมีความเชื่อมั่นว่าความคิดนี้น่าจะได้ผล โดยไม่ลังเลใดๆ เขารีบขยับมือร่ายเวทจากนั้นก็ชี้นิ้วตรงไปยังโลกแก่นแท้ที่ใกล้เข้ามา
เวทผนึกอสูรรุ่นแปด!
ตูม!
พลังการฝึกตนของเมิ่งฮ่าว, พลังชีวิต, วิญญาณ, ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไหลเข้าไปในเวทผนึกอสูรที่กำลังถูกปลดปล่อยออกมา
ดูเหมือนว่าโลกแก่นแท้ไม่อาจจะต่อสู้กลับมาได้ ทันใดนั้นก็ราวกับว่ามันจะเคลื่อนที่ช้าลง ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นได้ แต่เมิ่งฮ่าวก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ในทันทีที่เขาปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นแปดออกไป เส้นใยแสงนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นไปพันธนาการโลกแก่นแท้ไว้ ทำให้มันสะดุดลง
“มันได้ผล!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น แม้ในขณะที่สีหน้าไป๋จู่เต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาก็รีบขยับมือร่ายเวทและชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง
ผนึกอสูร เวทรุ่นเจ็ด!
ผนึกอสูร เวทรุ่นหก!
ผนึกอสูร เวทรุ่นห้า!
กรรม, ความเป็นตาย, ด้านในด้านนอก เวทผนึกทั้งสามปะทุขึ้นมาจากร่าง
เมิ่งฮ่าว ไหลผ่านปลายนิ้วออกไป ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เงียบกริบ และโลกแก่นแท้ก็สั่นสะเทือนไปมาราวกับจะพังทลายลงไป
มันหยุดชะงักนิ่ง และตอนนี้ก็ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกสีเทาอันไร้ขอบเขต สัญลักษณ์เวทที่บิดเบี้ยวและเดือดพล่านปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็คือการปรากฏขึ้นของเวทเป็นตาย
เวลาเดียวกันนั้นเส้นใยกรรมก็ปรากฏขึ้นบนโลกแก่นแท้ กระจายออกไปในความว่างเปล่า เชื่อมต่อกับผู้คนที่มันรู้จักนับไม่ถ้วน เส้นใยกรรมเหล่านั้นส่วนใหญ่แล้วก็เชื่อมต่ออยู่กับไป๋จู่ แต่ในตอนนี้เส้นใยกรรมกำลังหลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อกลายเป็นเครื่องหมายผนึกจำนวนมาก!
นี่คือเวทผนึกกรรม!
ในที่สุดพลังขับไล่อย่างรุนแรงก็ตกลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กระแทกลงไปยังโลกแก่นแท้ ทันใดนั้นโลกแก่นแท้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาดขึ้น ตอนแรกมันมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากนั้นก็หดเล็กลงไป ขณะที่พลังแห่งเวทด้านในด้านนอกระเบิดออกมา
“เป็นไปไม่ได้!” ไป๋จู่แผดร้องออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
เมิ่งฮ่าวเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน และตอนนี้ดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขณะที่เวทผนึกทั้งสี่ตกลงไปยังโลกแก่นแท้ ในตอนนี้เองที่แผ่นหยกผนึกอสูรที่อยู่ในถุงสมบัติเริ่มพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เก่าแก่โบราณ
“เวทผนึกอสูรสามารถผนึกอสูรอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพี นี่คือการผนึกความเที่ยงธรรม!”
“เวทผนึกอสูรสามารถผนึกเวทแห่งสิ่งมีชีวิตทั้งปวง นี่คือการผนึกกฎเกณฑ์!”
จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้าง ขณะที่เสียงนั้นดังก้องอยู่ข้างใน จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้น และดวงตาก็ทอประกายอย่างลี้ลับออกมา ผลักมือตรงไปยังโลกแก่นแท้และกล่าวว่า
“ผนึกกฎเกณฑ์!”
ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปาก เสียงกระหึ่มที่สวรรค์ต้องสะท้าน ปฐพีต้องสะเทือนก็ดังก้องออกมา ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นไหวไปมา เวลาเดียวกันนั้นสัญลักษณ์เวทขนาดใหญ่มหึมาก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็พุ่งลงไปยังโลกแก่นแท้ และผนึกมันไว้!
ผนึกแก่นแท้!!
ทันใดนั้นโลกแก่นแท้ทั้งหมดก็เงียบกริบไป ราวกับว่ามันได้กลายเป็นก้อนศิลาไปแล้ว ไม่มีระลอกคลื่นกระจายออกมา และกลิ่นอายของมันก็หายไป ไป๋จู่ที่ลอยตัวอยู่ไม่ไกลมากนัก ต้องพบกับพลังสะท้อนกลับ และกระอักโลหิตออกมากองโต
“นี่…” มันไม่รู้จักเวทผนึกอสูร แต่ก็ทำให้ต้องนึกไปถึงบางสิ่งที่ประทับลึกอยู่ในจิตใจเมื่อนานมาแล้ว และนั่นก็คือ…
“เต๋าแห่งหลีจู่ (ราชันหลี่)!!” สีหน้าไป๋จู่เปลี่ยนไป ขณะที่ตระหนักว่าการเชื่อมต่อกับแก่นแท้ของตนเองถูกตัดขาดไป ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างถาวร แต่ในตอนนี้มันก็ไม่อาจจะปลดปล่อยพลังแก่นแท้ออกมาได้โดยสิ้นเชิง
เมิ่งฮ่าวก็สะท้านใจขึ้นเช่นเดียวกัน มองไปยังโลกแก่นแท้ที่ถูกผนึกไว้ และรับรู้ได้ถึงความผันผวนอย่างรุนแรงของเวทผนึกอสูรที่อยู่ภายในร่าง ดวงตาเริ่มสาดประกายขึ้นอย่างช้าๆ
ตอนนี้ไป๋จู่กำลังมองไปยังเมิ่งฮ่าว ไม่เพียงแต่จะหวาดกลัวเท่านั้น แต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการสังหารอย่างเข้มข้นด้วยเช่นกัน
“ถึงแม้จะไร้ซึ่งแก่นแท้ ข้าก็สามารถจะสังหารเจ้าได้เช่นกัน!” มันพูดขึ้นโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวในท่ากรงเล็บ ทันใดนั้นรอยแตกห้าแห่งก็ฉีกขาดออกในทันที
“ห้าพิษแห่งทะเลที่เจ็ด หว่านความวุ่นวายอยู่ในท้องฟ้าแห่งขุนเขาทะเล ทำลายความสงบสุขของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง!” ไป๋จู่กัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ ทันใดนั้นก็กลายเป็นทะเลโลหิตพุ่งตรงขึ้นไปยังรอยแตกทั้งห้าแห่ง และจากนั้นก็ไหลเข้าไปด้านใน ต่อมาเสียงกระหึ่มก็เริ่มดังก้องออกมา
เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งมีชีวิตบางอย่างอยู่ด้านในรอยแตกเหล่านั้น กำลังจะทะลวงผ่านสิ่งกีดขวางออกมา พยายามผ่านออกมาจากรอยแตก พร้อมกับเสียงกระหึ่มแต่ละครั้ง ก็ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน ทันใดนั้นเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา ขณะที่หนวดสองเส้นพุ่งออกมาจากด้านในรอยแตก ตามมาด้วย…แมลงอันดุร้ายที่วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ในที่สุดตะขาบสีดำสนิทยาวนับหมื่นจ้างก็ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!
ในทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้น ก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าตกใจออกมา จนทำให้คนทั้งหมดต้องสั่นสะท้านอยู่ภายในใจ!
ต่อมาเสียงแตกร้าวก็ดังก้องออกมาจากรอยแตกที่สอง ขณะที่อสรพิษสามเขาสีแดงเข้ม ยาวหนึ่งพันจ้างพุ่งออกมา พร้อมกับลิ้นที่แลบเข้าออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาสาดประกายด้วยความเย็นชา ผงกศีรษะไปทางด้านหลังและส่งเสียงกรีดร้องออกมา ทันใดนั้นดวงตานับไม่ถ้วนก็ปรากฏอยู่บนร่างของมันทั้งหมด!
จากนั้นเสียงแตกร้าวก็ดังก้องออกมาจากรอยแตกที่สาม, สี่และห้า ขณะที่สิ่งมีชีวิตโผล่ออกมา มีทั้งแมงป่องขนาดใหญ่มหึมา ซึ่งถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกสีดำที่หมุนวนไปมา และคางคกสีม่วงที่ตัวใหญ่เท่าภูเขา
ตัวสุดท้ายก็คือ…กิ้งก่าที่ยาวหนึ่งหมื่นจ้าง พร้อมกับเกล็ดที่ขรุขระและเมือกที่ไหลเยิ้ม ดูน่าตกใจอย่างถึงที่สุด!
“ห้าพิษ สังหารคนผู้นี้!” ดวงตาไป๋จู่แวบประกายขึ้น และสัตว์พิษทั้งห้าตัวก็ส่งเสียงกรีดร้องขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว