Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1297

ตอนที่ 1297

การต่อสู้ที่ไร้เทียมทาน

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น!

ไป๋จู่ ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด พร้อมด้วยพื้นฐานฝึกตนห้าแก่นแท้ขั้นสูงสุด เคยพบเจอกับการเข่นฆ่าสังหารมาอย่างมากมาย แต่ก็ไม่เคยจะคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าว…จะดุร้ายได้เช่นนี้!

เมิ่งฮ่าวโจมตีไปครั้งแล้วครั้งเล่า ปล่อยให้ตัวเองมีบาดแผลมากมาย ศิลาดวงดาวแตกกระจายไป วิหคยักษ์สีฟ้าถูกทำลายลง และตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างสาหัส จนถึงจุดที่โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก

ทั้งหมดนั้นก็เพื่อ…โอกาสที่จะปลดปล่อยหอกอันน่าตกใจนี้เท่านั้น!

เมิ่งฮ่าวไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะได้รับบาดเจ็บเพื่อโอกาสในครั้งนี้ นั่นเป็นเพราะว่าเขาเข้าใจดีถึงช่องว่างระหว่างตนเองและไป๋จู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่องว่างที่ไม่ใหญ่โตมากนัก แต่สำหรับผู้ฝึกตนระดับนี้ ก็เป็นสิ่งที่สามารถจะหมายถึงความแตกต่างระหว่างชัยชนะหรือพ่ายแพ้ ระหว่างความเป็นและความตาย!

และสิ่งที่เมิ่งฮ่าวต้องการไม่ใช่เพียงแค่ชัยชนะหรือพ่ายแพ้เท่านั้น แต่ต้องการจะ…สังหารคู่ต่อสู้ไปโดยที่ตนเองยังคงมีชีวิตอยู่!

ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องกระทำเพราะความเป็นศัตรูหรือเกลียดชัง แต่เป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะจบสงครามในครั้งนี้ก็คือต้องสังหารไป๋จู่ให้จงได้ เมื่อมันตายไป ไว่กงก็จะปลอดภัย นอกจากนั้นระลอกคลื่นที่ระเบิดออกมาก่อนที่มันจะตายไป ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อทำให้วิญญาณของไว่กงกลับคืนสู่ร่าง

ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงเลือกที่จะใช้หอกเล่มนี้ อันที่จริงด้วยบุคลิกส่วนตัวของเมิ่งฮ่าว เพื่อไว่กงแล้วเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะยอมเสียหอกอันล้ำค่าที่ตันหลางช่วยปลดผนึกให้!

ด้วยการหลอกว่าหอกได้ถูกทำลายลงไปแล้ว

ทำให้สามารถจะปลดปล่อยเยาปิงฮวงจ่ง (อาวุธอสูรสุสานเดียวดาย) ออกมาได้ ซึ่งในตอนนี้กำลังพุ่งตรงไปยังหน้าผากของไป๋จู่ ระเบิดเป็นพลังออกไป ไป๋จู่ไม่ทันจะมีปฏิกิริยาใดๆ หรือกระทำสิ่งอื่นใด…หอกก็พุ่งแทงเข้าไปในชั่วพริบตา!

เสียงฉีกขาดได้ยินมา ขณะที่ผิวหนังของมันถูกแยกออก และจากนั้นเสียงแตกร้าวก็ดังก้องขึ้น ขณะที่กะโหลกศีรษะของมันแตกกระจายไป เยาปิงฮวงจ่งแทงตรงเข้าไปในหน้าผากของไป๋จู่!

อย่างไรก็ตามขณะที่เกิดเรื่องเช่นนี้ ท่าทางโล่งอกก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว แต่สีหน้ากลับเปลี่ยนไป และม่านตาก็หดเล็กลง

นั่นเป็นเพราะว่า แม้ในขณะที่หน้าผากของไป๋จู่ถูกแทงทะลุเข้าไป และดวงตามันก็เริ่มมืดสลัวลง แต่ก็พูดขึ้นมาในทันที

“เวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ (จักรพรรดิเขียว)” ในเวลาเดียวกับที่คำพูดหลุดออกมาจากปากมัน กลิ่นอายของมันก็ปะทุออกมา ซึ่งเมิ่งฮ่าวรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี

คาดไม่ถึงว่ากลิ่นอายนั้นจะคล้ายคลึงกับ…กลิ่นอายของอาณาจักรความเป็นนิรันดร์!

ขณะที่กลิ่นอายนั้นปะทุออกมา ผิวเนื้อบนหน้าผากของไป๋จู่ก็เริ่มบิดตัวไปมา เวลาเดียวกันนั้น กลิ่นอายนั้นก็กระจายออกไปยังเยาปิงฮวงจ่ง และจากนั้นก็ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

สำหรับไป๋จู่แล้ว กลิ่นอายนั้นคือพลังแห่งการฟื้นฟู แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวมันเหมือนกับเป็นสัตว์อสูรที่พุ่งเข้ามา เวลาเดียวกันนั้นอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเขาก็ส่งเสียงกระหึ่มอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่ากลิ่นอายที่แตกต่างกันทั้งสองนี้ ไม่อาจจะอยู่ร่วมกันได้ราวกับเป็นน้ำและไฟ!

นอกจากนี้อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเมิ่งฮ่าวก็ได้มาจากการเดินไปบนเส้นทางแห่งความสมบูรณ์แบบจนสุดทาง จากนั้นถึงแม้ว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย แต่เขาก็ได้หลอมรวมมันเข้ากับดักแด้ไร้ตา อย่างไรก็ตามจากรูปแบบพื้นฐานมากที่สุดนี้ ก็มีการเชื่อมต่อบางอย่างกับคัมภีร์ขุนเขาทะเลด้วยเช่นกัน

ขณะที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะเก็บหอกกลับไป ไป๋จู่ก็คว้าจับมันไว้ จากนั้นก็จ้องมองเข้าไปในดวงตาเมิ่งฮ่าว มองเห็นแววตาอันดุร้ายอยู่ในดวงตาของมัน และกลิ่นอายความเป็นนิรันดร์ที่หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมันก็เริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อย่างน่าตกใจยิ่งภาพลวงตาของคัมภีร์โบราณจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังมัน ซึ่งมีตัวอักษรถูกเขียนไว้สามตัว!

ซานไห่จิง! (คัมภีร์ขุนเขาทะเล)

ขณะที่คัมภีร์โบราณเปิดออก กลิ่นอายของไป๋จู่ก็เริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เกราะป้องกันของคัมภีร์โบราณก็ปรากฏขึ้น อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเมิ่งฮ่าวเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งมากกว่าเดิม ทันใดนั้นเสียงแผดร้องแหลมเล็กที่คล้ายกับเสียงของตัวไหมก็เริ่มดังก้องออกมาจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว และที่ด้านหลังก็มีภาพลวงตาปรากฏขึ้นอย่างน่าตกใจ

มันคือ…ดักแด้ไร้ตา!

นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ดักแด้ไร้ตากลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ได้ปรากฏตัวขึ้นเช่นนี้ ในทันทีที่เริ่มมองเห็นมันได้ มันก็หันหน้าไปยังไป๋จู่และแผดร้องออกมา

สีหน้าไป๋จู่เปลี่ยนไปด้วยความตกใจ ขณะที่จู่ๆ ก็ตระหนักว่าเมิ่งฮ่าว…ได้ฝึกฝนคัมภีร์ขุนเขาทะเลมาด้วยเช่นกัน!

“คัมภีร์ขุนเขาทะเลที่ไม่สมบูรณ์?” ไป๋จู่กล่าวขึ้นพร้อมกับแค่นเสียงเย็นชา แต่มันก็ยังคงรู้สึกตกใจ รับรู้ได้ถึงพลังระเบิดอย่างรุนแรงที่อยู่ภายในเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ของมัน รวมทั้งความต้องการจะโจมตีไปยังดักแด้ไร้ตาที่อยู่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว และต่อสู้กันจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น เมื่อตระหนักว่าคู่ต่อสู้ได้ยื่นมือมาหยิบฉวยเยาปิงฮวงจ่งไป เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจึงปล่อยมันไปและพูดออกมาสองคำ

“ระเบิด!” ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปาก เยาปิงฮวงจ่งก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง อีกครั้งที่ไป๋จู่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลิ่นอายตราบนิรันดร์ของมันก็ทำงานขึ้น และเริ่มฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

ไป๋จู่มองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างลึกซึ้ง โดยไม่พูดอะไรออกมา มันถอยไปทางด้านหลังเพื่อให้ตัวเองมีเวลารักษาอาการบาดเจ็บ และถ่วงเวลาเพิ่มได้บ้าง ก่อนหน้านี้มันไม่มีความเข้าใจในตัวเมิ่งฮ่าว

แต่ตอนนี้…มันต้องการสังหารเขามากกว่าสิ่งอื่นใด เป็นเวลานานมากแล้วที่มันไม่เคยพบเจอกับความรู้สึกที่ใกล้ชิดกับความตายมากเท่านี้มาก่อน

ถ้าไม่ใช่ว่ามันมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกล้ำแล้วละก็ ด้วยการที่ถูกแทงเข้าไปตรงหน้าผากเมื่อครู่นี้ ถึงแม้ว่าไม่อาจจะสังหารมันไปได้ แต่ก็คงจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส

หลังจากที่เยาปิงฮวงจ่งระเบิดขึ้น ก็กลายเป็นกระแสหมอกสีดำ หมุนวนกลับไปรวมตัวเข้าด้วยกันอยู่ที่ด้านข้างเมิ่งฮ่าว

“คัมภีร์ขุนเขาทะเล…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูน่าเกลียด จากสิ่งที่เขาเข้าใจ คัมภีร์ขุนเขาทะเลคือการรวมตัวกันของสามสุดยอดคัมภีร์แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล

เห็นได้ชัดว่าไป๋จู่เคยฝึกฝนคัมภีร์ขุนเขาทะเลมาจริงๆ และมีระดับที่สูงกว่าของเมิ่งฮ่าวมากนัก นอกจากนี้เมิ่งฮ่าวก็มีแค่บางส่วนจากคัมภีร์ของจริงเท่านั้น และเขาก็พึ่งพาพลังการคาดเดาของตนเองเพื่อสร้างเป็นทางเลือกอื่นที่เห็นว่าเหมาะสมออกมา

อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวก็มีความรู้สึกว่า ถ้าอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของตนเอง สามารถจะหลอมรวมเข้ากับเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ของคู่ต่อสู้ ถ้าเช่นนั้น…อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ!

“หลังจากความเป็นนิรันดร์แล้วจะมีอะไรต่อไป…?” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าขึ้น ทันใดนั้นเขาก็มีเหตุผลอื่นอีกที่จะสังหารไป๋จู่!

บาดแผลบนหน้าผากของไป๋จู่ถูกรักษาจนหายดีอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าใช้เวลาเพียงชั่วขณะเท่านั้น ก่อนที่มันจะฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น และเดินตรงไปสองก้าว ซึ่งจะเป็นก้าวที่หกและเจ็ดอย่างต่อเนื่อง

ในทันทีที่ก้าวที่เจ็ดถูกเหยียบย่างลงไป พลังของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งทะยานขึ้น จนเกิดเป็นเสียงดังกระหึ่มกึกก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และทันใดนั้นเท้ายักษ์อันน่ากลัวก็ปรากฏขึ้น คล้ายกับเป็นดวงดาวที่กำลังตกลงมาจากด้านบน ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่ว ขณะที่บดขยี้ลงมายังไป๋จู่!

นี่คือความสามารถที่เมิ่งฮ่าวเรียนรู้มาจากซูเยียน ซึ่งยังคงอยู่ในถุงสมบัติของเขา…เจ็ดก้าวเทพ!

ในทันทีที่เท้ายักษ์ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว สีหน้าของไป๋จู่ก็สลดลงอีกครั้ง เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“เจ็ดก้าวเทพ? เป็นไปไม่ได้!!” อย่างน่าตกใจยิ่ง มันรู้จักเวทแห่งเต๋าของเมิ่งฮ่าวนี้ ทันใดนั้นไป๋จู่ก็กัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ

โลหิตนั้นกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นทะเลแห่งโลหิตในทันที พลุ่งพล่านปั่นป่วนไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เพื่อกระแทกเข้าไปยังเท้ายักษ์ที่ใกล้เข้ามา

เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น พลังของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไป และรังสีสังหารในดวงตาก็เข้มข้นขึ้น จากนั้นก็ใช้มือซ้ายขยับร่ายเวท และผีโต้งก็ปรากฏขึ้น พูดพึมพำออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม กลายร่างเป็นชุดเกราะปกคลุมไปบนร่างเมิ่งฮ่าว ต่อมาเมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือขวาออกไป และกระจกทองแดงก็กลายเป็นลำแสงหลากสี พร้อมกับนกแก้วที่บ่นพึมพำ กลายเป็น…อาวุธสงครามสีดำสนิท!

ในทันทีที่อาวุธสงครามปรากฏขึ้น ความต้องการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวก็ระเบิดออกไป ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวมืดสลัวลง และความว่างเปล่าก็สั่นสะท้าน กลิ่นอายอันน่ากลัวของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปอย่างน่าตกใจ ขณะที่กรีดเฉือนใบมีดตรงไปยังไป๋จู่ที่กำลังหลบหนีไปทางด้านหลัง

“ตาย!!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาดขึ้น

ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงระเบิดขึ้นมาในจิตใจไป๋จู่อย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ อันที่จริงก็เป็นความรู้สึกที่มากเกินกว่าความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้น ในตอนที่

เมิ่งฮ่าวโจมตีมาด้วยเยาปิงฮวงจ่งมากนัก

แต่ก็มีบางสิ่งที่แตกต่างกันออกไป เยาปิงฮวงจ่งปรากฏขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ทำให้มันไม่ทันจะตั้งตัว แต่ในตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีความรู้สึกถึงวิกฤตมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างน้อยก็ยังมีช่วงเวลาในการเตรียมตัวรับมือ

แต่โชคร้าย…ที่ไป๋จู่ยังคงอยู่ในท่ามกลางการฟื้นฟูตนเองด้วยเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ ทำให้ไม่อาจจะปลดปล่อยพลังระดับสูงสุดออกมาได้ แสงอันดุร้ายสาดประกายขึ้นมาในดวงตาของมัน

ขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวก็แผดร้องคำรามขึ้นมา “ทำลายล้าง!”

ในตอนนั้นเอง ที่ความผันผวนแห่งแก่นแท้ก็ปรากฏขึ้น ซึ่งก็คือระลอกคลื่นแก่นแท้แห่งการทำลายล้าง!

“พลังแก่นแท้!” แต่มันก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในทันทีที่แก่นแท้แห่งการทำลายล้างปรากฏขึ้น กลิ่นอายแก่นแท้อันน่าตกใจชนิดที่สองก็พุ่งขึ้นมาจากภายในร่างมัน ความว่างเปล่ารอบๆ ตัวมันบิดเบี้ยวไปมา และระลอกคลื่นอันไร้ขอบเขตก็พุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจากแก่นแท้ที่สองของมัน…แก่นแท้แห่งพลัง!

นี่ไม่ใช่พลังจากกายเนื้อของมัน แต่เป็น…พลังที่รวมรวมมาจากภายในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!

“คำสาปแช่ง!”

“พื้นดิน!”

“เวลา!!” ไป๋จู่รู้ว่านี่คือช่วงเวลาวิกฤตอย่างถึงที่สุด และในตอนนี้ก็ตระหนักแล้วว่ายากที่จะจัดการเมิ่งฮ่าวได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังตระหนักด้วยเช่นกันว่า ตนเองสูญเสียโอกาสได้เปรียบไปแล้ว ต้องยอมรับว่าเมิ่งฮ่าวสามารถสะกดข่มตัวมันได้ เมื่อไหร่ที่เขาโจมตีมา ก็จะโจมตีต่อไปอย่างไม่ยอมหยุด!

ไป๋จู่ไม่เคยพบเจอใครที่มีวิธีการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน แต่ก็สามารถจะบอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่เมิ่งฮ่าวสร้างเป็นพลังกดดันที่มากพอ ก็เป็นเรื่องยากที่จะหยุดเขาได้ และมีแต่จะแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

“ห้าแก่นแท้เต๋า!” ไป๋จู่แผดร้องคำราม กวาดมือออกไปเป็นวงกว้างยังทิศทางของเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็กดลงไป เสื้อผ้าเส้นผมของมันพลิ้วไปมา และพื้นฐานฝึกตนก็ระเบิดออกไป หลอมรวมเข้ากับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เชื่อมต่อเข้ากับสวรรค์ สร้างเป็นพลังอันไร้ขอบเขตแห่งฟ้าดิน ดูดซับเข้าไปในร่างมัน

คล้ายกับว่ามันคือหลุมดำขนาดใหญ่ ที่กลืนกินพลังแห่งฟ้าดินเข้าไป ไหลเข้าไปในร่างมัน จนกลายเป็นพลังที่มันส่งออกมา…เพื่อกลายเป็นห้าแก่นแท้ที่แตกต่างกัน!

นี่คือวิธีการใช้แก่นแท้ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง แทนที่จะใช้พลังจากโลกและปลดปล่อยมันออกมา กลับนำพลังมาจากฟ้าดินและเปลี่ยนให้อยู่ภายในร่างตนเอง ซึ่งต่อมาก็จะกลายเป็นพลังสะกดข่มที่มากขึ้นกว่าเดิม!

“จะยอมตาย หรือว่าจะไสหัวไป!!!” ไป๋จู่แผดร้องคำราม ห้าแก่นแท้ของมันกลายเป็นกฎธรรมชาติห้าชนิด เต็มอยู่ในโลกแห่งนี้ ม้วนกวาดไปทั่วทั้งสวรรค์ ปกคลุมไปยังร่างเมิ่งฮ่าวในทันที!

เป็นเจตจำนงแห่งการทำลายล้าง ที่สามารถจะกำจัดอารมณ์ความรู้สึก และกวาดล้างวิญญาณ!

เป็นพลังแห่งแก่นแท้ที่สามารถจะบดขยี้ร่างกายและจิตใจให้แหลกละเอียดไป!

เป็นคำสาปแช่งแห่งเต๋าที่สามารถจะทำให้โลหิตต้องเดือดพล่านและกำจัดเส้นโลหิตไป!

เป็นแก่นแท้แห่งพื้นดิน ที่สามารถจะฝังซากศพและตัดเส้นลมปราณ!

เป็นแก่นแท้แห่งกาลเวลา ที่เป็นสุดยอดของห้าแก่นแท้ ซึ่งสามารถจะบรรลุถึงช่วงเวลาที่สังหารศัตรู!

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน และภายในนั้นก็ประกอบไปด้วยโลกแห่งแก่นแท้ และกฎธรรมชาติ

โลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตา หู จมูกและปากของเมิ่งฮ่าว แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงสาดประกายเจิดจ้า และความต้องการต่อสู้ก็ไม่ได้น้อยลงไปจากก่อนหน้านี้ ยกอาวุธสงครามขึ้นมา จากนั้นก็…กรีดเฉือนโจมตีไป!

นี่คือการต่อสู้ที่ไร้เทียมทาน!

ชายชราผมแดงและคนอื่นๆ ล่าถอยออกไปจากตำแหน่งหนึ่งพันจ้างของพวกมันมานานแล้ว ตอนนี้พวกมันอยู่ห่างออกไปหนึ่งหมื่นจ้าง ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อสังเกตดูการต่อสู้อย่างดุร้ายที่กำลังเกิดขึ้น ระหว่างเมิ่งฮ่าวและไป๋จู่ สีหน้าของคนทั้งสี่ซีดขาวไปโดยสิ้นเชิง และจิตใจก็ถูกบดขยี้ด้วยคลื่นแห่งความตื่นตระหนก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!