Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1303

ตอนที่ 1303

ยึดครองและกลืนกิน

“ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าจี้ตงหยาง หรือว่า…ปรมาจารย์ตระกูลจี้?!”

ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองไปยังจี้ตงหยาง ดวงตาก็หดเล็กลงและจิตใจก็เต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดที่รับรู้ได้อย่างชัดเจนกว่าตอนที่กำลังต่อสู้กับไป๋จู่ซะอีก

นอกจากนั้น ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็อ่อนแอลงอย่างถึงที่สุด การที่จี้ตงหยางมาปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้ก็เป็นการพิสูจน์ได้ถึงเรื่องหนึ่ง มันเฝ้าจับตาดูมานานแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่มันจะมาพบกับเขาโดยบังเอิญเช่นนี้

และเรื่องนี้ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริงของจี้ตงหยาง มันสามารถจะแอบเฝ้าดูตนเองเป็นเวลานานโดยที่ไม่ถูกตรวจพบได้อย่างไร ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงลองพูดคาดเดาว่าตัวตนที่แท้จริงของมันคือใคร

นอกจากนี้จี้ตงหยางก็เคยเปิดเผยให้เห็นถึงข้อมูลที่สำคัญมาบ้างเล็กน้อย บางทีอาจจะเนื่องมาจากความตื่นเต้นของมัน ในที่สุดก็ได้พบกับโอกาสที่เฝ้ารอมานาน ถ้ามันรู้ถึงความจริงที่ว่าเมิ่งฮ่าวคาดเดาว่ามันเป็นใครจากคำพูดเพียงประโยคเดียวแล้วละก็ มันคงจะตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิงเป็นแน่

จี้ตงหยางอ้าปากค้างอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะหึๆ และตระหนักว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใดที่เมิ่งฮ่าวรู้ว่ามันคือใคร

”จี้เทียน คือนามก่อนหน้านี้ แต่ข้าชอบจี้ตงหยาง…มากกว่า!”

ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากจี้ตงหยาง ม่านตาเมิ่งฮ่าวก็หดเล็กลง

จี้เทียนก็คือปรมาจารย์ตระกูลจี้ เป็นผู้แข็งแกร่งทรงพลังในรุ่นเดียวกันกับปรมาจารย์รุ่นแรกตระกูลฟาง ในช่วงของการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า มันได้รับชัยชนะเหนือคนอื่นๆ

“ไม่จำเป็นต้องพยายามถ่วงเวลา อาการบาดเจ็บของเจ้าสาหัสนักเกินกว่าที่จะฟื้นฟูได้ในช่วงเวลาสั้นๆ พลังการต่อสู้ของไป๋จู่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ข้าก็ยังต้องวิตกกังวล อันที่จริงถ้าข้าไปต่อสู้กับมัน ก็คงจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน”

“แต่เจ้า ก็ทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริง…”

“การให้เจ้ากลายเป็นร่างที่เก้าของข้า ช่างเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างแท้จริง…มาเถอะ เมิ่งฮ่าว มาเป็นหนึ่งเดียวกับข้า กลายเป็นชีวิตที่เก้าของข้า จากนั้นข้าก็จะทำเรื่องราวให้ถูกต้อง ข้าจะนำขุนเขาทะเลที่เก้าต่อสู้กลับไปยังสามสิบสามสวรรค์ เพื่อต่อต้านการกลับมาของพวกมัน”

“การเสียสละของเจ้านี้ ไม่ได้ช่วยแค่ข้าเท่านั้น แต่เป็นอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง! ข้าขอให้สัญญากับเจ้าว่า ข้าจะดูแลตระกูลฟางเป็นอย่างดี…”

“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเจ้า…จะกลายเป็นของข้า” จี้ตงหยางหัวเราะเป็นเสียงดัง และดวงตาก็สาดประกายขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าว การต่อสู้ที่มันเพิ่งจะได้เห็นกับสองตาตนเองจากที่ห่างไกล ทำให้ต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวบึ้งตึงเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่กล่าวตอบไป แค่ลอยตัวอยู่ที่นั่น มองไปยังจี้ตงหยางด้วยสายตาที่เย็นชา

เมิ่งฮ่าวไม่ขยับตัวเคลื่อนไหว จี้ตงหยางก็ไม่รีบร้อนผลีผลาม

คนทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกันเกือบสิบลมหายใจ จากนั้นจี้ตงหยางก็ขมวดคิ้ว เดินตรงไปยังเมิ่งฮ่าวสามก้าวในทันที

ขณะที่ก้าวที่สามเหยียบย่างลงไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร และเริ่มเดินตรงไปยังจี้ตงหยาง การเคลื่อนที่อย่างกะทันหันนี้ ทำให้จิตใจ

จี้ตงหยางต้องสั่นสะท้านขึ้นด้วยความประหลาดใจ โดยที่ไม่ต้องขบคิดใดๆ มันรีบถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามในตอนที่มันล่าถอยออกไป จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็กระทำเช่นเดียวกัน และในชั่วพริบตาก็อยู่ห่างออกไปไกล

ดวงตาจี้ตงหยางสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา และไล่ตามไป พร้อมกับแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา ขณะที่เข้าไปใกล้ ก็ยกมือขวาขึ้นมาขยับร่ายเวท และชี้ออกไป ทันใดนั้นลำแสงสีดำก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวก็แอบถอนหายใจด้วยเช่นกัน รู้ตัวดีว่าการจัดการกับจี้ตงหยางเป็นเรื่องที่ยุ่งยากอย่างมาก สำหรับเขาแล้ว จี้ตงหยางเป็นคนที่ต้องทดสอบก่อนแล้วค่อยลงมือ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เมิ่งฮ่าวก็อยู่ในสถานะที่ไม่อาจจะสูญเสียพลังได้อย่างฟุ่มเฟือย อาการบาดเจ็บของตนเองสาหัสมากเป็นอย่างยิ่ง และเพิ่งเริ่มจะฟื้นฟูกลับคืนมาเท่านั้น เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วดวงตาสาดประกายขึ้นขณะที่ฟาดฝ่ามือตรงไปยังลำแสงสีดำ ทำให้มันกระจัดกระจายออกไป

เสียงระเบิดดังก้องขึ้น เกิดเป็นพลังสะท้อนกลับทำให้โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก จี้ตงหยางที่อยู่ด้านหลังหัวเราะออกมาเบาๆ

“พี่เมิ่งไม่ต้องวิตกไป พวกเรายังมีเวลาอีกเล็กน้อย อาการบาดเจ็บของท่านสาหัสนัก และข้าก็มีความอดทนเพียงพอ แค่รอจนกระทั่งท่านไม่อาจจะอดทนได้อีกและหมดสติไปเท่านั้น”

“แน่นอนว่าท่านสามารถจะหันกลับมาต่อสู้ได้ถ้าต้องการ ข้ารับประกันได้ว่า…ก่อนที่ท่านจะสังหารข้า ท่านคงจะหมดสติไปก่อน ดังนั้นก็น่าจะคิดให้ดีๆ ว่า…จะต่อสู้กับข้าหรือไม่?”

ดวงตาจี้ตงหยางสาดประกายขึ้น ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าวอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ใช้มือขวาขยับร่ายเวท ทำให้ลำแสงสีดำสิบสายพุ่งตรงออกไป แต่ละลำแสงเหล่านั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งกรรม

เมิ่งฮ่าวไม่ตอบโต้ นอกจากพุ่งตัวออกไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น ในชั่วพริบตาก็อยู่ห่างไกลออกไปมากขึ้นกว่าเดิม และกำลังพุ่งตรงไปที่ไม่ใช่ทิศทางของพันธมิตรเทพสวรรค์ แต่เป็น…รอยแตกระหว่างขุนเขาทะเลที่เจ็ดและแปด!

ตอนนี้เขากำลังเดินไปตามเส้นทางเดียวกับไป๋จู่ ตอนที่มันหลบหนีจากไป

เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ พุ่งผ่านชายชราผมแดงและผู้ฝึกตนอื่นๆ จากขุนเขาทะเลที่เจ็ด ซึ่งกำลังมองมาด้วยความตกตะลึง

จี้ตงหยางไล่ตามมาอย่างเร่งร้อน สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ มันคิดไว้แล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะโจมตีมาหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่โจมตี มันก็จะบังคับให้เขาต้องลงมือ ถ้าโจมตีมา มันก็จะเล่นสนุกด้วย

แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวเลือกที่จะผ่านเข้าไปในรอยแตกนี้

ถ้าเขาทำเช่นนั้น ก็จะต้องถูกเคลื่อนย้ายทางไกลเข้าไปยังขุนเขาทะเลที่เจ็ด ทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างถึงที่สุด แต่ก็ดูเหมือนเมิ่งฮ่าวจะคิดว่ามีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าอยู่เล็กน้อย

แน่นอนว่าจี้ตงหยางก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วยเช่นกัน โอกาสที่มันจะรอดชีวิต…น่าจะน้อยมาก นอกจากนั้นถ้ามันไปยังขุนเขาทะเลที่เจ็ด ร่างจำแลงก็จะอยู่ห่างไกลจากร่างจริงถึงสองขุนเขาทะเล ทำให้เพิ่มความหน่วงสำหรับปฏิกิริยาของมัน ซึ่งอาจจะจบลงด้วยเภทภัยอันร้ายแรง

ดังนั้นแผนการเดิมของมันก็คือ ต้องครอบครองร่างเมิ่งฮ่าวในขณะที่อยู่ในขุนเขาทะเลที่แปด แต่เมื่อขุนเขาทะเลที่เจ็ดบุกรุกเข้ามา และเมิ่งฮ่าวก็ไม่ยอมจากไป มันจึงต้องเลื่อนแผนการออกไป

“บัดซบ!” สีหน้าจี้ตงหยางเปลี่ยนไป และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมา ขณะที่พุ่งร่างตรงไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็วมากกว่าเดิม เมื่อเมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้กับรอยแตก รังสีสังหารก็แวบขึ้นมาในแววตาของจี้ตงหยาง

มันยื่นมือออกไปด้วยท่าคว้าจับ เส้นใยกรรมนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาเพื่อก่อตัวเป็นหัตถ์ยักษ์ ทำท่าคว้าจับตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

แต่หัตถ์ยักษ์นั้นก็ช้าเกินไป และเมิ่งฮ่าวก็เข้าไปอยู่ในรอยแตกครึ่งตัวแล้ว ดูเหมือนว่าเขาแทบจะหลบหนีจากไปได้แล้ว และในช่วงวิกฤตนี้เอง จี้ตงหยางไม่มีเวลาครุ่นคิด ไม่ว่ามันจะมีความระมัดระวังตัวมากแค่ไหนก็ตาม ถ้ามันลังเลเพียงแค่เล็กน้อย เมิ่งฮ่าวก็จะหายไป มันจึงกัดฟันแน่น พลังการฝึกตนพุ่งขึ้นมา หลอมรวมเข้ากับพลังจากขุนเขาทะเลที่เก้า และพลังอันโอ่อ่าเกรียงไกรของราชันแห่งขุนเขาทะเลก็ปะทุขึ้น

ในชั่วพริบตาพลังที่พิเศษนี้ก็ปรากฏขึ้น กลายเป็นภาพซ้อนทับขณะที่มันพุ่งร่างตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ซึ่งตอนนี้ร่างได้หายเข้าไปในรอยแตกถึงแปดในสิบส่วนแล้ว

“ครอบครอง!” จี้ตงหยางร้องตวาดขึ้น ดูเหมือนว่าร่างของมันกำลังจะหลอมละลายไป และวิญญาณก็แทบจะลอยออกมาครอบครองร่างเมิ่งฮ่าว แต่ทันใดนั้นเอง…ขณะที่มันอ้าปากขึ้นเพื่อพ่นวิญญาณของตนเองออกมา จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็หมุนตัวกลับมาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ปากบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มอันเย็นชา เท่าที่เห็นบนใบหน้าของเขาในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยคิดที่จะหลบหนีจากไป กลายเป็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะล่อลวงให้จี้ตงหยางตกอยู่ในกับดักเท่านั้น!

นี่คือกลยุทธ์ที่เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะเรียนรู้มาจากไป๋จู่

ดวงตาจี้ตงหยางเบิกกว้างขึ้น

“สุนัขป่ากลืนกินโลกหล้า!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำราม จริงๆ แล้วเขามีเศษเสี้ยวพลังเหลืออยู่ภายในร่างน้อยมาก และเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่าจะใช้เศษเสี้ยวพลังนี้อย่างไรดี และเศษเสี้ยวพลังส่วนสุดท้ายนี้ก็จะเป็นตัวตัดสินว่า เขาจะชนะหรือพ่ายแพ้ให้กับจี้ตงหยาง

สิ่งที่เมิ่งฮ่าวกระทำก็คือ ใช้เศษเสี้ยวพลังนี้ไปกระตุ้นแก่นแท้พลังชีวิตของเทียนหลาง (สุนัขป่าสวรรค์) ซึ่งคงอยู่ภายในผลไม้เต๋าของตนเองขึ้นมา ทันใดนั้นภาพของสุนัขป่าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะท้าน ก็ปรากฏขึ้นมาตรงด้านหลัง มันแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา!

ขณะที่จี้ตงหยางพยายามจะยึดครองร่างเมิ่งฮ่าว

สุนัขป่าก็พยายามจะกลืนกินจี้ตงหยางเข้าไป!

คนหนึ่งพยายามยึดครอง อีกคนหนึ่งพยายามกลืนกิน และยากที่จะบอกได้ว่าใครจะทำได้สำเร็จ วิญญาณจี้ตงหยางผ่านเข้ามาในร่างเมิ่งฮ่าว พุ่งตรงไปยังทะเลแห่งสติเพื่อจะยึดครองให้จงได้ และเวลาเดียวกันนั้น ร่างจี้ตงหยางก็กลายเป็นแก่นพลังชีวิตที่ถูกเทียนหลางกลืนกินเข้าไป

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อจี้ตงหยางหายตัวไป ร่างเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง เกิดเป็นพลังระเบิดพุ่งขึ้นมาจากภายในร่าง ผลักดันให้ร่างเขาพุ่งห่างออกไปจากรอยแตกในทันที จนกระทั่งหายลับไปในชั่วพริบตา

ความตั้งใจกลืนกินของเมิ่งฮ่าวและการยึดครองร่างของจี้ตงหยาง เกิดขึ้นที่เบื้องหน้าของผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด คนทั้งสองต่างก็ถูกเคลื่อนย้ายทางไกลออกไปในเวลาเดียวกัน ในชั่วพริบตาทั้งคู่ก็หายตัวไป ไปปรากฏกายขึ้นอีกครั้งในที่ห่างไกลของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งขุนเขาทะเลที่แปด

เมิ่งฮ่าวดูเหมือนเป็นซากศพขณะที่ลอยตัวอยู่ที่นั่น ร่างกายกระจายพลังชีวิตออกมาเป็นระยะ พร้อมกับเสียงกระหึ่มที่ดังก้องขึ้น เวลาเดียวกันนั้นอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาจากการต่อสู้กับไป๋จู่ก็ถูกรักษาไปด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากพลังที่ฟื้นฟูกลับมา เมื่อเมิ่งฮ่าวกลืนกินพลังชีวิตของจี้ตงหยางเข้าไป

เวลาเดียวกันนั้น อาการบาดเจ็บภายในก็ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน!

อย่างไรก็ตาม ภายในทะเลสติของเมิ่งฮ่าว การต่อสู้ที่ฟ้าสะท้านดินสะเทือน กำลังเกิดขึ้นระหว่างพลังที่พยายามกลืนกินและยึดครองร่าง! ความพยายามดิ้นรนนี้ได้บรรลุถึงจุดวิกฤตแล้วในตอนนี้ ใครก็ตามที่พ่ายแพ้ก็จะต้องตายไปอย่างแน่นอน!

ยิ่งไปกว่านั้น…นอกจากค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายด้วยการตกตายไปหนึ่งคนแล้ว อีกคนก็จะถูกช่วยให้มีพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น

ด้วยความเจ้าเล่ห์และชั่วร้ายของจี้ตงหยาง มันเฝ้ารอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อโจมตีเมิ่งฮ่าว เมื่อพื้นฐานฝึกตนและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาอ่อนแอลงอย่างถึงที่สุด ดังนั้นถ้าทุกอย่างดำเนินไปตามแผนของมัน จี้ตงหยางก็จะครอบครองร่างเขาได้อย่างง่ายดาย

จี้ตงหยางเตรียมตัวสำหรับช่วงการยึดครองร่างนี้มานานมากแล้ว มันเฝ้าศึกษาเรียนรู้เมิ่งฮ่าวมาอย่างมากมาย และตระหนักดีถึงความน่ากลัวของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์และพื้นฐานฝึกตนที่ไม่ธรรมดาของเขา

มันรู้ว่าเขาคือราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลในอนาคตที่แท้จริง ดังนั้นถึงมันจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็เป็นแรงผลักดันให้มีความพยายามมากขึ้น เฝ้ารอคอยด้วยความอดทนที่จะได้ยึดครองร่างเมิ่งฮ่าว และเมื่อคิดว่าเมิ่งฮ่าวอาจจะหนีรอดไปจากเงื้อมมือมันได้ ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นไร้ประโยชน์ไป ในตอนนั้นเองช่วงเวลาที่มันเฝ้ารอคอยก็มาถึง เมิ่งฮ่าวไปต่อสู้กับไป๋จู่และจบลงด้วยการตกอยู่ในสถานะที่อ่อนแออย่างถึงที่สุด

นั่นคือช่วงเวลาที่มันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง!

อย่างไรก็ตาม ภายใต้แผนการอันรอบคอบทั้งหมดนี้ มีอยู่จุดหนึ่งที่มัน…ละเลยไป

ถึงแม้ว่ามันจะติดตามเมิ่งฮ่าวเข้าไปในสามสิบสามนรกก็ตาม แต่ก็ไม่อาจจะตามเข้าไปในเขตสุสานด้านในได้ ในช่วงวิกฤตที่คนทั้งหมดถูกดูดกลืนเข้าไปในสุสาน

มันก็เหมือนกับหัวหน้าผู้พิทักษ์เต๋าแห่งพันธมิตรเทพสวรรค์ เลือกที่จะหลบหนีจากไป ดังนั้นมันจึงไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตันหลางบ้าง

ดังนั้นมันจึงไม่รู้เกี่ยวกับพลังที่เมิ่งฮ่าวใช้ออกมาในตอนท้ายสุดนี้ ซึ่งเป็นแก่นแท้พลังชีวิตของตันหลาง แก่นแท้ของตันหลางสามารถจะกลืนกินได้ทุกสรรพสิ่ง รวมทั้งพลังชีวิตและวิญญาณของจี้ตงหยาง แม้แต่พลังแก่นแท้ที่มันปลดปล่อยออกมา ก็ยังถูกกลืนกินเข้าไป!

“ไม่!!” ไม่กี่วันต่อมา บางสิ่งที่คล้ายกับเสียงกู่ร้องด้วยโทสะก็ดังก้องอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว ร่างเขาสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย ลืมตาขึ้นมาในทันที พร้อมด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ยอยู่ตรงมุมปาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!