ตอนที่ 1529
พุ่งทะยานผ่านดินแดนกว้างใหญ่
ดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง ดูรกร้างว่างเปล่ากว่าดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรกจนถึงแห่งที่สาม อันที่จริงเมิ่งฮ่าวยังได้สังเกตเห็นซากศพอีกด้วย!
ซากศพเหล่านั้นแห้งกรังมานานหลายปีแล้ว ไม่มีแม้แต่ซากเดียวที่จะสมบูรณ์ ต่างก็แยกส่วนกระจัดกระจายออกไปทั่ว จนยากที่จะบอกได้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี และไม่อาจจะบอกได้ถึงระดับพื้นฐานฝึกตนของพวกมันในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่กระนั้นก็ยังดูน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเมิ่งฮ่าวบินฝ่าอากาศไปเหนือซากศพทั้งหมด ก็อดไม่ได้ที่จะต้องนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ดรรชนีแห่งหลัวเทียนทำลายโลกแห่งนี้ไป
“สามดินแดนกว้างใหญ่ก่อนหน้านี้ประกอบด้วยเศษซากปรักหักพังเท่านั้น”
เจ้าสำนักอธิบาย ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน “ไม่มีซากศพในที่แห่งนั้น เริ่มเห็นได้จากดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่นี้เป็นต้นไป สิ่งที่เห็นอยู่ในที่แห่งนี้ถือได้ว่าแทบจะไม่มีอะไร ยิ่งพวกเราเข้าไปลึกมากเท่าใด ก็จะยิ่งมองเห็นซากศพมากขึ้นเท่านั้น เมื่อบรรลุถึงดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด พวกเราก็จะมองเห็นซากศพ…ได้ทั่วทุกที่ บางซากยังสมบูรณ์ครบถ้วนอีกด้วย” จากการเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ก่อนหน้านี้ของพวกมัน รวมทั้งข้อมูลที่เก็บรวบรวมอยู่ในบันทึกโบราณ ทำให้เจ้าสำนักมีความเข้าใจเกี่ยวกับสุสานแห่งนี้ได้ลึกซึ้งมากขึ้นในตอนนี้
“ท่านยังจะได้เห็นอาวุธเวทบางส่วนอีกด้วย ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี แต่อย่าปล่อยให้ตนเองเกิดความโลภขึ้นมาได้ เมิ่งเต้าโหย่ว ท่านอย่าไปแตะต้องสิ่งของใดๆ ที่มองเห็นเหล่านั้น…”
ในตอนนี้จินหยุนซานก็พูดแทรกเข้ามา “ครั้งแรกที่พวกเรามองเห็นของวิเศษเหล่านั้น มีอยู่คนหนึ่งเกิดความโลภขึ้น พยายามจะไปหยิบฉวยมันขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับขึ้นมา
พลังอันน่ากลัวระเบิดออกมาจากเขตสุสานทั้งปวง คนที่ทำเช่นนั้นกลายเป็นแอ่งน้ำโลหิตต่อหน้าพวกเราทั้งหมด” ถึงแม้ว่าจะมองเห็นแววตาอันหวาดกลัวของมันได้อย่างชัดเจน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันรู้สึกเสียดาย ที่ไม่อาจจะหยิบฉวยของวิเศษใดๆ ออกไปได้ด้วยเช่นกัน
เมิ่งฮ่าวพยักหน้า ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป และสามารถจะรู้สึกได้ถึงเหล่าภูตผีนับไม่ถ้วนในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่นี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามายังที่แห่งนี้ และในทันทีที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระจายออกไป ซากศพที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นก็เริ่มสั่นสะท้าน และจากนั้นภูตผีก็ลอยออกมาจากภายในซากศพ รวมทั้งจากภายในเศษซากปรักหักพังต่างๆ เหล่านั้น ในที่สุดทั่วทั้งดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่ก็พลุ่งพล่านปั่นป่วนขึ้นมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าคนทั้งหมดนี้ ทำให้เจ้าสำนักและคนอื่นๆ ต่างก็มองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย แต่ก็ทำให้ความหนาวเย็นอย่างรุนแรงที่พวกมันกำลังพบเจออยู่นี้ต้องเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
เสียงกระหึ่มดังเต็มไปทั่วทั้งแผ่นฟ้าและผืนดิน เมื่อเหล่าภูตผีนับไม่ถ้วนที่รับรู้ได้ถึงการคงอยู่ของเมิ่งฮ่าวบนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่ เริ่มตื่นขึ้นมา ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง
“กลิ่นอายแห่งจักรพรรดิ…”
“นั่นคือองค์จักรพรรดิ…”
เหล่าภูตผีทั้งปวงบนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่ปกคลุมไปทั่วในอากาศ และพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ขณะที่ความหนาวเย็นอย่างน่าตกใจพุ่งกระจายออกมา
ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป โดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย ขยับร่างเคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่พุ่งตรงไป เหล่าภูตผีจากดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่เริ่มลอยตรงมามากขึ้น ในทันทีที่พวกมันมองเห็นเมิ่งฮ่าวจากที่ห่างไกล ต่างก็ก้มศีรษะลงเพื่อแสดงความเคารพ ทะเลแห่งภูตผีรอบๆ ตัวเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งดินแดนอันกว้างใหญ่ ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็บรรลุถึงหน้าผาที่นำไปสู่ดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้า
ในที่แห่งนี้มีรูปปั้นขนาดใหญ่สูงหนึ่งหมื่นจ้างตั้งตระหง่านอยู่รูปหนึ่ง ช่างเป็นภาพที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ราวกับเป็นภูเขาขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางที่จะเข้าไปในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้าไว้
“ไม่มีการต่อสู้กันกับภูเขานี้ พวกเราพยายามค้นหาวิธีเข้าไปในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้านี้เป็นเวลานาน ในที่สุดก็พบว่าต้องรอคอยอยู่ประมาณครึ่งปี” เจ้าสำนักกล่าว
“ช่วงเวลานั้น ภูเขาก็จะค่อยๆ หดตัวเล็กลงไปจนกระทั่งมีความสูงแค่หนึ่งร้อยจ้าง จากนั้นเมื่อมันมีขนาดเล็กมากที่สุด ก็สามารถจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย”
“ถ้าท่านพยายามพุ่งผ่านไปในตอนนี้ มันก็จะมีโทสะขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะด้วยระดับพื้นฐานฝึกตนของพวกเรา ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ นอกจากนั้นรูปปั้นนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาตอนที่ดินแดนแห่งนี้เจริญรุ่งเรือง ทำให้มันมีความแข็งแกร่งอย่างไร้ขอบเขต…เมิ่งเต้าโหย่ว เหล่าฟูขอแนะนำว่าพวกเราน่าจะรอคอยอยู่ในที่แห่งนี้สักพัก” ถึงแม้ว่าเจ้าสำนักจะเคยเห็นภูเขานี้มาก่อน แต่ทุกครั้งที่มองไปยังความสูงใหญ่เช่นนี้ ก็ยังต้องแอบสั่นสะท้านอยู่ภายในใจ
“ครึ่งปี? ข้าไม่อาจจะรอนานได้” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ก่อนที่เจ้าสำนักจะทันได้พูดอะไรออกมาอีก ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบประกายขึ้น และชี้นิ้วตรงไปยังภูเขามหึมานั้น
“เคลื่อนย้ายภูเขานี้ให้กับข้า!” เขากล่าวเสียงราบเรียบ ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในคำพูด เหล่าภูตผีในทะเลอันกว้างใหญ่ที่อยู่รอบๆ ตัว เริ่มกรีดร้องและพลังก็ปะทุขึ้นมาในทันที กลิ่นอายที่เริ่มกระจายออกไป ทำให้เจ้าสำนักและคนอื่นๆ ต่างก็ขนลุกตั้งชี้ชัน
ภูตผีจำนวนมากพุ่งตรงไปยังภูเขามหึมา เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ภูเขาแห่งนั้นเริ่มสั่นสะเทือน แม้แต่ก้อนศิลายังได้เริ่มสั่นกระเพื่อมอีกด้วย
เจ้าสำนักและคนอื่นๆ อ้าปากค้าง เมื่อสังเกตเห็นว่าภูเขาลูกนั้นสั่นไหวไปมา คาดไม่ถึงว่า…มันเริ่มลอยขึ้นไปในอากาศอย่างช้าๆ
พื้นดินสั่นสะเทือน ขณะที่ภูเขาถูกยกออกไป
เมิ่งฮ่าวสามารถมองเห็นเหล่าภูตผีห้อมล้อมอยู่รอบๆ ภูเขา กรีดร้องออกมา ขณะที่ปลดปล่อยพลังอันน่าตกใจเพื่อกระทำในสิ่งที่เมิ่งฮ่าวเรียกร้อง นั่นก็คือเคลื่อนย้ายภูเขา!
เสียงกึกก้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ภูเขามหึมาถูกยกขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเจ้าสำนักและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง เมื่อภูเขาลูกนั้นลอยขึ้นมาจากพื้นดินสิบจ้าง!
เวลาเดียวกันนั้น เสียงกู่ร้องก็ดังก้องออกมาจากยอดเขา ก้อนศิลาและเศษซากปรักหักพังนับไม่ถ้วน ร่วงหล่นลงมาขณะที่ภูเขาลืมตาขนาดใหญ่ของมันขึ้นมา จมูกปรากฏขึ้น และจากนั้นก็เป็นปาก อย่างน่าตกใจยิ่งเริ่มมองเห็นใบหน้าได้ทั้งหมด
มันคือใบหน้าเก่าแก่โบราณที่ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยโทสะ
“ใคร…มารบกวนการหลับใหลของข้า…หือ?” เสียงนั้นประกอบด้วยแรงกดดันและความเย่อหยิ่งอย่างน่าเหลือเชื่อ และยังมีพลังแห่งกฎธรรมชาติอยู่ด้วยเช่นกัน ราวกับว่าสามารถจะเปลี่ยนสวรรค์แปลงปฐพีได้ แต่ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ ก็ต้องนิ่งเงียบไปในทันที
ใบหน้านั้นจ้องมองไปยังเหล่าภูตผีนับไม่ถ้วน และความเป็นศัตรูอันไร้ขอบเขตที่พวกมันกระจายออกมา คล้ายกับเป็นเจตจำนงที่ระเบิดขึ้นไป กลายเป็นเสียงร้องตะโกนว่า
“หุบปาก!”
พื้นดิน, ภูเขา, ท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังสั่นสะเทือนไปมา
“บัดซบ ภูตผีเหล่านี้มาจากที่ไหนกัน!?” ใบหน้านั้นโพล่งออกมา จากนั้นปากมันก็ปิดสนิทไป
มันมองไปยังเมิ่งฮ่าว ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากนั้นชั่วขณะ ก็หลับตาลงและจมกลับเข้าไปในภูเขา ไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่จะมาขัดขวางไม่ให้เหล่าภูตผีเคลื่อนย้ายภูเขาออกไปอีก
ดวงตาเจ้าสำนักเบิกกว้าง ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่รอบๆ บริเวณนั้นสบตากันไปมาด้วยความตกตะลึง เมื่อพวกมันมายังที่แห่งนี้ด้วยตนเอง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องกระทำด้วยความระมัดระวังตัวและใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมิ่งฮ่าวกลับไม่สนใจสิ่งทั้งหมดเหล่านั้น อย่างมากที่สุด…ก็แค่พูดออกมาเพียงไม่กี่คำเพื่อแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญหน้าอยู่นั้น
ใบหน้าจินหยุนซานบิดเบี้ยวขึ้น และจากนั้นก็มองไปยังภูเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย มันไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งแรก ตอนที่มาถึงจุดนี้ และพยายามจะพุ่งผ่านภูเขานี้ไป แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าภูเขานี้ประกอบด้วยพลังที่คล้ายกับเป็นอำนาจแห่งสวรรค์
จินหยุนซานรู้สึกดูถูกมากขึ้น เมื่อเห็นได้ชัดว่า…ภูเขารู้สึกหวาดกลัวต่อความปลอดภัยของตัวเอง จนต้องหดตัวเล็กลงเพื่อทำให้เหล่าภูตผีสามารถจะเคลื่อนย้ายมันออกไปได้ง่ายขึ้น ทำให้จินหยุนซานไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้แม้แต่น้อย
ซาจิ่วตงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และไป๋อู้เฉินก็ยกเลิกความคิดที่ไม่ยอมแพ้จากเมื่อหลายปีก่อนไปโดยสิ้นเชิง
ในที่สุดภูเขาก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไปอย่างสมบูรณ์ และเมื่อถูกวางลงไปยังด้านข้าง เหล่าภูตผีก็ม้วนกวาดไปมา สร้างเป็นเส้นทางเข้าไปในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้าจนมองเห็นอย่างได้ชัดเจน
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่บินตรงไป ชั่วขณะต่อมาก็ไปอยู่บนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้า หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็มุ่งหน้าต่อไป
จากช่วงเวลาที่คนทั้งหมดผ่านเข้ามาในเขตสุสานจนกระทั่งตอนนี้ ยังไม่ถึงสิบวัน
คนทั้งหมดพุ่งผ่านดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้าไปอีกไม่กี่วัน ดินแดนแห่งนี้ยังได้เปล่าเปลี่ยวอ้างว้างกว่าดินแดนกว้างใหญ่อื่นๆ เมิ่งฮ่าวมองไปยังซากศพที่ด้านล่าง ขณะที่บินตรงไปยังจุดสิ้นสุดของดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้า ที่ซึ่งมีคลื่นขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น ทำการแยกสองดินแดนกว้างใหญ่ออกจากกันโดยสิ้นเชิง
ครั้งนี้เจ้าสำนักไม่พูดอะไรออกมา เมื่อคิดว่าเมิ่งฮ่าวมีเหล่าภูตผีคอยรับใช้ จึงตัดสินใจที่จะติดตามเมิ่งฮ่าวไปอย่างเงียบๆ น่าจะดีกว่า
มันคิดถูกแล้ว เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป และทะเลแห่งภูตผีก็พุ่งตรงไป ตอนนี้เหล่าภูตผีจากดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้ามาเข้าร่วมด้วย ทำให้ทะเลแห่งภูตผียิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม กระแทกลงไปยังคลื่นยักษ์ ทำให้คลื่นยักษ์ไร้พลังที่จะต่อต้านได้ แตกกระจายออกไป และเมิ่งฮ่าวก็นำเหล่าภูตผีบินตรงไปยังดินแดนกว้างใหญ่อีกแห่งที่หกเบื้องหน้า
ภายในช่วงเวลาสิบวัน คนทั้งหมดเดินทางผ่านจากดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่หกเข้าไปในแห่งที่เจ็ด และหลังจากนั้นก็เป็นแห่งที่แปด!
ทะเลแห่งภูตผีของเมิ่งฮ่าวมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาที่บรรลุถึงดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด ก็คล้ายกับเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ที่หมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัว ทรงพลังเป็นอย่างยิ่งจนเจ้าสำนักและคนอื่นๆ ได้แต่ต้องมองมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเท่านั้น
มีเหล่าภูตผีมากมายเป็นอย่างยิ่งกำลังหมุนวนอยู่รอบๆ กระแสน้ำวน พวกมันรวมตัวเข้าด้วยกัน…จนกลายเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับภาพลวงตาของศีรษะภูตผีขนาดใหญ่ ทำให้คนทั้งหมดสามารถจะมองเห็นได้!
ถ้าทั้งหมดนั้นเป็นเช่นนี้ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่าซากศพนับไม่ถ้วนบนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปดต่างก็ลุกขึ้นมายืน และดวงตาที่ว่างเปล่าของพวกมันก็ดูเหมือนว่าจะลุกโชนขึ้นด้วยเปลวไฟ
พวกมันทั้งหมดพุ่งตรงไปยังเขตชายขอบของดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปดนี้