Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 442

ตอนที่ 442

พุ่งทะยานข้ามสามพันคน

“ไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงเรื่องนี้” จ้าวโยวหลันขบคิดต่อไป “ด้วยกำแพงของผู้ฝึกตนสามพันคน มันคงจะโดนรุมโจมตีก่อนที่จะเข้ามาใกล้ข้า นอกจากว่ามันจะสามารถใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อยได้ ด้วยการพึ่งพาวิชาปราณโลหิตเช่นนั้น ทำให้มันไม่มีทางจะข้ามมาในระยะที่ห่างไกลเช่นนั้นได้!”

“ถ้ามันบินมา ก็คงต้องใช้ความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ที่จะทะลวงผ่านผู้ฝึกตนทั้งสามพันคนมาได้ เมื่อได้เห็นความเร็วของมันเมื่อครู่นี้ ก็บอกได้เลยว่ามันยังไม่เพียงพอ” เมื่อขบคิดถึงตอนนี้ จ้าวโยวหลันก็มองเห็นเมิ่งฮ่าวเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงกู่ร้องอย่างยาวนานออกมา

ด้วยการตอบสนองต่อเสียงกู่ร้องนั้น ยักษ์เถื่อนเริ่มออกวิ่ง มันคำรามออกมา ขณะที่กล้ามเนื้อขยายตัวนูนออกมา และร่างของมันก็เริ่มสูงขึ้นไปจนถึงหนึ่งร้อยจ้าง กล้ามเนื้อตรงแขนขวาของมันเริ่มบิดเบี้ยว ราวกับว่าโลหิตทั่วทั้งร่างของมันกำลังถูกรวบรวมอยู่ที่นั่น แขนเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างน่าแปลกประหลาดและผิดปกติ ในที่สุดแขนข้างนั้นก็ใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งของร่างกายยักษ์เถื่อน!

แขนข้างนั้นมีสัดส่วนที่ผิดปกติไปจากร่างกายส่วนที่เหลือของมันทั้งหมด เส้นโลหิตนูนออกมา กระจายไปทั่วทั้งแขน และดูคล้ายใกล้จะระเบิดออกมา ดูท่าทางจะมีพลังที่น่ากลัวเต็มอยู่ในแขนข้างนั้น ลักษณะของมันดูน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ยักษ์เถื่อนจับเมิ่งฮ่าวไว้ด้วยแขนข้างนั้น และขว้างเขาขึ้นไปในอากาศ มุ่งตรงไปยังทิศทางของจ้าวโยวหลัน

พลังที่น่ากลัวทั้งหมดซึ่งอยู่ในร่างของยักษ์เถื่อน ตอนนี้ได้ส่งต่อมายังเมิ่งฮ่าว ทำให้เขาพุ่งผ่านอากาศไปราวกับเป็นสายฟ้า ขณะที่เขาพุ่งฝ่าอากาศไป พลังของยักษ์เถื่อนก็ช่วยเกื้อหนุนความรวดเร็วภายในตัวเขา ทำให้เงาร่างของเขาตัดผ่านอากาศไปราวกับเป็น…ดวงตะวันอันเจิดจ้า!

ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มเมฆของยุงปีศาจก็หมุนวนไปรอบๆ ตัว กลายเป็นกระแสน้ำวน อีกาดำก็อยู่ด้วยเช่นกัน เปลี่ยนเป็นกลุ่มหมอก จระเข้สีแดงก็เช่นกัน กลายเป็นปีกยักษ์ จิ้งเหลนขนาดใหญ่ก็กลายเป็นร่างกาย และค้างคาวดำก็กลายเป็นปีกอีกข้าง ความเร็วของเมิ่งฮ่าวระเบิดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ฝูงสัตว์ปีศาจช่วยให้เขาพุ่งตรงไป

เสียงหึ่งๆ อย่างน่าตกใจ กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านท้องฟ้า โดยมีฝูงสัตว์ปีศาจจำนวนมากห้อมล้อมอยู่รอบๆ กาย พุ่งทะยานผ่านผู้ฝึกตนทั้งสามพันคน ซึ่งกำลังจ้องมองขึ้นไป จิตใจหมุนคว้าง ตกตะลึงจนเกินกว่าจะทันมีปฏิกิริยาใดๆ ในตอนนี้เองที่…

ฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวได้กลายเป็นลูกศรขนาดยาวอันแหลมคม โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นหัวลูกศร พวกเขาพุ่งตรงไป เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นสังหาร และกระจายรังสีสังหารอันดุร้ายออกมา เป็นการระเบิดความเร็วออกมา ซึ่งช่วยให้พวกเขาพุ่งผ่านท้องฟ้าตรงไปยังจ้าวโยวหลัน จนดูเหมือนกับจะผ่าสวรรค์ให้เปิดออกได้

ในตอนนี้ กลุ่มคนของทั้งห้าเผ่าที่อยู่ภายในเกราะป้องกัน ไม่อาจแม้แต่จะสูดลมหายใจเข้าไป หัวหน้าเผ่าอูปิง ตอนนี้ได้ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บเรียบร้อยแล้ว จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างแดงก่ำ ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งอีกเจ็ดคน ที่อยู่ข้างกายมันก็กำลังหอบหายใจอ้าปากค้าง

ในตอนนี้ ผู้ฝึกตนสามพันคนของสาขาแมงมุม มองไปด้วยดวงตาแดงก่ำซึ่งเต็มไปด้วยความตกใจ

ในตอนนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสวิญญาณแรกก่อตั้งที่อยู่ด้านนอกเกราะป้องกัน รวมถึงผู้เฒ่าสูงสุด ต่างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

ดวงตาหงส์ของจ้าวโยวหลันเบิกกว้าง และนางก็เริ่มหอบหายใจ ขณะที่จ้องไปยังเมิ่งฮ่าว ในตอนนี้ ร่างของเมิ่งฮ่าวสามารถมองเห็นได้จากภาพสะท้อนในดวงตาของนาง ขณะที่เงาร่างนั้นได้ประทับลึกลงไปในจิตใจของนาง

เงาร่างนั้นกำลังพุ่งทะยานมา กระโจนข้ามผู้ฝึกตนทั้งสามพันคน,

ลูกศรอสูร, กำลังพุ่งตรงมายังจ้าวโยวหลัน!

ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ข้ามผ่านระยะทางหลายร้อยจ้างระหว่างคนทั้งสอง ทันใดนั้นก็เหลือน้อยกว่าหนึ่งร้อยจ้าง! ผู้ฝึกตนที่มีรอยสักสีเขียว ซึ่งรายล้อมอยู่รอบๆ จ้าวโยวหลัน ได้เสนอตัวออกมาเพื่อต่อสู้กับศัตรูผู้น่ากลัวนี้ ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยรังสีสังหาร

จ้าวโยวหลันถือดอกจิตปีศาจพิสดารอยู่เหนือศีรษะของนาง ขณะที่จ้องไปยัง

เมิ่งฮ่าว สีหน้านางเริ่มเยือกเย็นลง และดวงตาก็เต็มไปด้วยความเย็นเยียบ ในตอนนี้ นางไม่ได้ขยับตัวเคลื่อนไหว ถ้านางขยับตัวก็จะทำให้พลังของดอกจิตปีศาจพิสดารสูญหายไป เมื่อไหร่ที่เกิดขึ้นเช่นนั้น ผู้ฝึกตนที่เหลืออยู่ของห้าชนเผ่าภายในเกราะป้องกัน ก็จะพุ่งออกมา รวมถึงหัวหน้าเผ่าอูปิง และยังมีผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งอีกเจ็ดคน ซึ่งเพียงพอที่จะต่อสู้พัวพันกับผู้อาวุโสของสาขาแมงมุมได้อย่างวุ่นวาย

ถ้าเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น ก็จะทำให้พวกนางตกอยู่ในอันตรายอันร้ายแรงอย่างแท้จริง

“ข้าพนันว่า…มันไม่อาจจะทำได้!” จ้าวโยวหลันคิด ตัดสินใจได้เรียบร้อยแล้ว

ผู้อาวุโสที่เหลือของสาขาแมงมุมในตอนนี้ ละทิ้งความพยายามที่จะทำลายเกราะป้องกันและสังหารกลุ่มคนทั้งห้าเผ่าไป สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านี้ของพวกมันก็คือ สตรีศักดิ์สิทธิ์ของสาขาพวกมัน

สามในเก้าผู้อาวุโส ใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อยตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที ร่างของพวกมันระเบิดพลังออกมา อีกหกคนที่เหลือก็เริ่มบินตรงมาโดยไม่ลังเลใดๆ

สามผู้อาวุโสทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้นที่ข้างกายรูปลักษณ์อันน่าตกใจของเมิ่งฮ่าว พวกมันเริ่มขยับมือร่ายเวทขึ้นในทันที ทำให้ภาพศักดิ์สิทธิ์เรืองแสงออกมาจากร่าง กลายเป็นเงาร่างภาพลวงตาขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

“ถอยกลับไป!” เสียงแผดร้องของสามผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งราวกับเสียงฟ้าผ่า

“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ ตามมาด้วยเสียงคำรามแผดร้องที่หลอมรวมมาจากเสียงแผดร้องของสัตว์ปีศาจทุกตัวที่อยู่รอบๆ ร่างเขา เสียงนั้นทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และกดทับลงไปบนร่างของสามผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง ทันใดนั้น ฝูงอีกาดำ, กลุ่มเมฆของยุงปีศาจ รวมถึงจระเข้สีแดง ทั้งหมดต่างก็เปลี่ยนทิศทาง และพุ่งตรงไปยังคนทั้งสาม

ท่ามกลางเสียงแผดร้องราวกับสายฟ้าฟาด เมิ่งฮ่าวมุ่งหน้าต่อไป ไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย ฝูงสัตว์ปีศาจกีดขวางเส้นทางของสามผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง ช่วยให้เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านพวกมันไปอย่างไร้อุปสรรค

ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากจ้าวโยวหลันเจ็ดสิบจ้าง!

เสียงแผดร้องอย่างมีโทสะได้ยินมา ขณะที่ผู้อาวุโสวิญญาณแรกก่อตั้งอีกหกคน ปรากฎขึ้นใกล้กับเมิ่งฮ่าว พวกมันใช้พลังฝึกตนทั้งหมดออกมา ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของภาพศักดิ์สิทธิ์สำแดงออกมา เสียงคำรามดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่พลังของคนทั้งหกรวมเข้าด้วยกัน สร้างเป็นระฆังสีทองขนาดใหญ่ พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว เตรียมพร้อมที่จะบดขยี้เขา

ขณะที่ระฆังสีทองพุ่งตรงไป แรงกดดันอย่างมากมายก็เต็มอยู่ในอากาศ ตามมาด้วยเสียงกึกก้องจนแก้วหูแทบฉีกขาด ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย ขณะที่ทันใดนั้นเขาก็โบกสะบัดมือทั้งสอง ต้าเหมาและจิ้งเหลนยักษ์ รวมถึงสัตว์ปีศาจตัวอื่นๆ ทั้งหมด พุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังระฆังสีทองที่ใกล้เข้ามา

เมื่อมองมาจากที่ห่างไกล ก็จะเห็นฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าว กลายเป็นบางอย่างที่คล้ายกับสายลมสีดำ กวาดออกไปจากร่างของเขา

ตอนนี้สามารถมองเห็นเมิ่งฮ่าวได้อย่างชัดเจนอยู่ที่นั่นในกลางอากาศ

โดยไม่ลังเล เขายกมือขวาขึ้น ซึ่งมีหน้ากากสีโลหิตอยู่ วางมันลงไปบนใบหน้า และเสียงกระหึ่มกึกก้องก็ได้ยินมา ขณะที่ปราณโลหิตอันไร้รูปร่างระเบิดออกมาจากร่างของเขา พุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่ดูอยู่ทั้งหมด

ปราณโลหิตพลุ่งพล่านปั่นป่วน กลายเป็นกระแสน้ำวนสีแดงขนาดใหญ่ โดยมีเมิ่งฮ่าวอยู่ตรงกลาง เขาขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น กระแสน้ำวนที่หมุนไปมาอย่างรวดเร็วก็เปลี่ยนเป็นภาพของใบหน้า

ใบหน้านั้นพุ่งออกมาจากด้านหลังฝูงสัตว์ปีศาจ พุ่งตรงไปยังระฆังสีทองและหกผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง

เสียงระเบิดขนาดใหญ่อย่างน่าตกใจทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน ฝูงสัตว์ปีศาจกระจัดกระจายออกไป และระฆังสีทองก็แตกสลายไป ใบหน้าของคนทั้งหกก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวด้วยความประหลาดใจ ขณะที่พวกมันล่าถอยไปด้านหลังในทันที

เมิ่งฮ่าวพ่นโลหิตออกมาจากปาก ความเร็วของเขาในตอนนี้ก็เพิ่มขึ้น ขณะที่ใช้วิชาระเบิดโลหิตในพริบตาเคลื่อนห่างออกไปจากผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งหก ไปอยู่ห่างจากจ้าวโยวหลันเพียงแค่สามสิบจ้าง คนทั้งสองสามารถมองเห็นหน้าตาซึ่งกันและกันได้อย่างชัดเจน แม้แต่เส้นใยของเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่

สีหน้าของจ้าวโยวหลันสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ ถึงแม้เมิ่งฮ่าวจะชื่นชมจิตใจเช่นนั้นของนาง แต่รังสีสังหารของเขาก็เพิ่มรุนแรงมากขึ้น ขณะที่เขาแวบฝ่าอากาศตรงไปยังนาง

ผู้ฝึกตนมากกว่าสิบคนที่มีรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์สีเขียว ทันใดนั้น ก็พุ่งตรงมา กลายเป็นลำแสงสีเขียวพุ่งมายังเมิ่งฮ่าว

สีหน้าจ้าวโยวหลันไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ขณะที่นางมองไปยังเมิ่งฮ่าวที่ใกล้เข้ามา นางมองเห็นหน้ากาก ชุดยาวสีเขียว และเส้นผมสีขาวของเขาสะบัดพริ้วไปมาอยู่ในสายลม แต่ดวงตาของนางก็คล้ายกับเป็นน้ำลึกที่สงบนิ่ง เต็มไปด้วยความเย็นชา

แม้จะถูกโอบล้อมด้วยศัตรูนับพันคน เขาก็มาแต่เพียงผู้เดียว เก้าผู้อาวุโสวิญญาณแรกก่อตั้ง ไม่อาจจะขัดขวางเขาได้แม้แต่น้อย ภาพของบุคคลเช่นนี้ ได้ประทับลึกลงไปในจิตใจของจ้าวโยวหลันตลอดกาลนาน

สามารถกล่าวได้ว่า ในแง่ของการทำสงครามอันยิ่งใหญ่ระหว่างชนเผ่าเช่นนี้ จ้าวโยวหลันได้คำนวนถึงความเป็นไปได้ทุกอย่างไว้แล้ว มีเพียงสิ่งเดียวที่นางคิดไม่ถึงก็คือ…เมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวยกหมัดขึ้น และกระแทกเข้าไปในหน้าอกของหนึ่งผู้ฝึกตนที่มีใบหน้าสีเขียว พื้นฐานฝึกตนของมันถูกสะกดไว้ในทันที ร่างกายไม่ได้ระเบิดออกในทันใด แต่ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง กระแทกเข้าไปในตัวคนที่อยู่ด้านหลังมัน และพวกมันทั้งสองก็ระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มเมฆของโลหิตและชิ้นเนื้อ

ร่างเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น และเขาก็ไปปรากฎตัวขึ้นใหม่ที่ด้านหลังของผู้ฝึกตนคนอื่นๆ เขาไม่ได้ต่อยหมัดออกไป แต่ร่ายเวทอาคมอย่างรวดเร็ว และเสียงที่คล้ายกับกระดูกแตกหักก็ดังออกมา แสงสีทองปรากฎขึ้น และทันใดนั้นสามคนที่เบื้องหน้าเขาก็กลายเป็นรูปปั้นทองคำ

เป็นการสังหารที่มีประสิทธิภาพ สะอาดปราศจากโลหิต เมื่อกระทำเสร็จสิ้น เมิ่งฮ่าวก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และเร่งความเร็วมากขึ้น พุ่งผ่านผู้ฝึกตนไปห้าคน ขณะที่เขาเข้าไปใกล้จ้าวโยวหลัน

ผู้ฝึกตนใบหน้าสีเขียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่งเสียงแผดร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่ตัดสินใจ…ระเบิดตัวเอง!

 

เสียงระเบิดเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ผู้ฝึกตนทั้งห้าซึ่งอยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่สร้างแกนลมปราณระเบิดออก พลังเช่นนั้นทำให้แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ต้องตกตะลึง ถ้าพลังนั้นกระแทกเข้ามา แต่สีหน้าเขาก็ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย แม้ในขณะที่พลังของการระเบิดตัวเองกวาดผ่านตรงมา เส้นใยไหมเป็นชั้นๆ ก็ปรากฎอยู่รอบๆ ตัว นี่ก็คือ…เส้นใยของดักแด้ไร้ตา!

เส้นไหมแหวกฝ่าอากาศเป็นเสียงแหลมเล็ก ขณะที่มันวนไปรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว เป็นเส้นใยที่ไม่อาจจะทำลายลงไปได้ ดังนั้น เมิ่งฮ่าวจึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เขาพุ่งต่อไปราวกับสายฟ้า ทะยานออกมาจากภายในแรงระเบิด ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากจ้าวโยวหลันเพียงแค่สิบจ้างเท่านั้น

ถึงจุดนี้ ทุกคนในพื้นที่บริเวณนั้นต่างก็ประหลาดใจโดยสิ้นเชิง

ในตอนนี้เองที่เงาร่างสูงใหญ่ ทันใดนั้น ก็มาปรากฎอยู่ตรงหน้าเขา เป็นบางสิ่งที่คล้ายกับเป็นศิลาสีเขียว และกิ่งไม้สีดำ ซึ่งดูเหมือนจะก้าวเท้าออกมาจากความว่างเปล่า ชี้ไม้เท้าตรงมายังเมิ่งฮ่าว

“ไปให้พ้น!” เป็นเสียงที่เก่าแก่โบราณและดังก้องไปทั่ว ซึ่งไม่ใช่เสียงของใครอื่นนอกจากเป็นผู้เฒ่าสูงสุดของสาขาแมงมุม มันจ้องมายังเมิ่งฮ่าว ยกไม้เท้าในมือซึ่งประกอบด้วยพลังที่ดูเหมือนจะสามารถบดขยี้ภูเขาให้พังทลายลงมาได้ขึ้น เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะหลบเลี่ยงไปได้ และพลังของไม้เท้าก็กระแทกเข้าไปในเส้นไหมของดักแด้ไร้ตา

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น ขณะที่ผู้อาวุโสวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งเก้าที่อยู่ด้านหลังเขา ได้สลัดหลุดออกมาจากฝูงสัตว์ปีศาจ และเข้ามาใกล้พร้อมกับสายตาอาฆาตมาดร้าย

เมื่อจ้าวโยวหลันเห็นผู้เฒ่าสูงสุดปรากฎกายขึ้น นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา การที่เมิ่งฮ่าวสามารถเข้ามาใกล้นางภายในเขตสิบจ้างได้ ก็ทำให้นางรู้สึกถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ และร่างเมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้าน ขณะที่เส้นไหมของดักแด้ไร้ตา ได้ต่อสู้กลับไปยังพลังที่ระเบิดออกมาจากพื้นฐานฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นกลางของผู้เฒ่าสูงสุด โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากของเมิ่งฮ่าว และถูกบังคับให้ต้องถอยหลังไปสองสามก้าว

แต่ในขณะที่โลหิตไหลซึมออกมา และต้องถอยไปด้านหลังสองสามก้าวนั้น ทั้งหมดนี้ได้เกิดขึ้นจากการโจมตีอย่างเต็มกำลังของขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้ง

ม่านตาของผู้เฒ่าสูงสุดสาขาแมงมุมหดเล็กลง

“นั่นเป็นสิ่งของเวทอะไรกัน!? แต่ก็ไม่สำคัญว่าเจ้าจะมีสิ่งของเวทอันทรงพลังมากแค่ไหน ถ้าเจ้าคิดว่าจะสามารถผ่านข้าไปได้ เจ้ากำลังฝันไป!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!