Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 659

ตอนที่ 659

ร่ำรวยแล้ว

พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ เมิ่งฮ่าวหยุดลง และไม่ได้เข้าไปใกล้มากกว่านั้น

ชายชราขมวดคิ้ว และสบสายตากับหญิงสาวเยาว์วัย จากนั้นมันก็เพ่งสมาธิไปที่การควบคุมอาวุธเวทที่เบื้องหน้ามัน และทำให้ทะเลแห่งเปลวไฟตกลงไปอีกครั้ง

ม้าน้ำส่งเสียงคำราม และแสงสีฟ้าก็กระจายออกไปจากร่างมัน ดูเหมือนว่ามันกำลังทุ่มสุดตัว แสงนั้นระเบิดออกไปทั่วทุกทิศทาง และทุกที่ที่แสงนั้นผ่านไปก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง แม้แต่ทะเลแห่งเปลวไฟก็ตามที ผนึกน้ำแข็งทำให้ใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไข่มุกของมันถูกแช่แข็งไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่มันพุ่งออกไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว มันคว้าไปที่หญิงสาวเยาว์วัย และกำลังจะจากไป แต่โชคร้ายที่มันได้รับบาดเจ็บ และแสงสีฟ้านั้นก็รวดเร็วเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่อาจจะหลบหนีไปได้…

ท่าทางดิ้นรนปรากฏขึ้นในแววตาของชายชรา แต่ก็เป็นเพียงประกายสุดท้ายจากเศษชิ้นส่วนที่ปะทุขึ้นมาจากหินเหล็กไฟ มันมองไปยังหญิงสาวเยาว์วัย เตรียมที่จะโยนนางกลับไปในแสงสีฟ้าเพื่อปิดกั้นแสงนั้น

ในตอนนั้นเอง ที่เมิ่งฮ่าวยกมือขึ้นมา และชี้นิ้วออกไป แสงสีฟ้าที่กำลังขยายยืดยาวออกไป ทันใดนั้นก็หยุดนิ่งไม่ขยับ ปล่อยให้ชายชราและหญิงสาวเยาว์วัยหลบหนีออกไปจากบริเวณนั้น

ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมืออีกครั้ง ทำให้กระบี่ไม้แห่งกาลเวลาลอยออกมา พุ่งตรงไปราวกับเป็นสายฟ้ายังม้าน้ำตัวนั้น และแทงทะลุผ่านร่างมันไปในชั่วพริบตา นี่ก็คือกระบี่ที่มีพลังของเจ็ดวงจรหกสิบปีแห่งกาลเวลา ทันทีที่มันแทงเข้าไปในร่างม้าน้ำ เสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวก็ได้ยินมา และม้าน้ำก็เริ่มแห้งเหี่ยวไป

ดวงตามันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และเริ่มจมลงไปในน้ำ แต่ขณะที่เป็นเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็ปล่อยให้กลิ่นอายซึมออกมาเล็กน้อย ทำให้ดวงตาของม้าน้ำกลายเป็นสีแดง ฉับพลันนั้นก็พุ่งตรงมาที่เขาอีกครั้ง ชายชราและหญิงสาวเยาว์วัยมองดูด้วยความประหลาดใจ ขณะที่กระบี่ไม้แห่งกาลเวลาแทงผ่านร่างมันไปเจ็ดถึงแปดครั้ง

เสียงแผดร้องของม้าน้ำดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง ขณะที่ร่างมันแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วเวลาสั้นๆ มันก็กลายเป็นซากศพที่แห้งกรัง ลอยอยู่บนพื้นผิวของทะเล…

เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้ซากศพของม้าน้ำ จากนั้นก็กดลงไปบนร่างมันด้วยมือขวา ทันใดนั้นหัวใจอสูรก็ลอยเข้าไปในมือเขา สูงขึ้นไปในกลางอากาศ ชายชราและหญิงสาวเยาว์วัยมองดูเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าอันซับซ้อน พวกมันมีท่าทางราวกับกำลังเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกมันนึกไปถึงกระบี่อันน่าตกใจที่เขาใช้ออกมา

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปยังพวกมัน ชายชราก็ดึงหญิงสาวไปอยู่ที่ด้านหลังมัน และเริ่มโคจรหมุนเวียนพื้นฐานฝึกตนของมันไปด้วย จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับเมิ่งฮ่าว

“ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของท่าน, สหายเต๋า” มันกล่าว ค่อยๆ ถอยไปด้านหลังในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่ามันหวาดกลัวต่อกระบี่ของเมิ่งฮ่าว “หัวใจอสูรระดับกลางนั่นเป็นของท่าน ถ้าโชคชะตาทำให้พวกเราต้องมาพบกันอีกครั้ง เหล่าฟูต้องตอบแทนท่านอย่างแน่นอน”

เมิ่งฮ่าวส่ายหน้า “ไม่ต้องรีบจากไปเช่นนั้น” เขากล่าว จากนั้นก็ส่งหัวใจอสูรให้ลอยตรงไปยังชายชราที่ตกตะลึงอยู่ ซึ่งรีบยื่นมือมารับไว้โดยไม่ต้องแม้แต่จะคิด มันมองไปยังหัวใจอสูร และจากนั้นก็มองกลับไปยังเมิ่งฮ่าว จิตใจเต็มไปด้วยความกังวลและความสงสัย

หญิงสาวเยาว์วัยจ้องนิ่งไปยังหัวใจอสูรในมือชายชรา และเริ่มหอบหายใจออกมา ความเกลียดชังอย่างลึกล้ำในดวงตานางแวบขึ้นมาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่านางรู้ดีถึงสิ่งที่ชายชราเกือบจะกระทำกับนางเมื่อก่อนหน้านี้

“สหายเต๋า, ท่าน…” ชายชรากล่าวอย่างลังเล

เมิ่งฮ่าวเลือกที่จะไม่อ้อมค้อม กล่าวว่า “สองท่านมีพื้นฐานฝึกตนที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง หัวใจอสูรนั่นดูเหมือนจะเทียบเท่ากับหินลมปราณระดับกลางเท่านั้น ทำไมพวกท่านถึงได้สนใจมันนัก?”

คำพูดของเขาทำให้ชายชรางุนงงโดยสิ้นเชิง หญิงสาวเยาว์วัยก็มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าแปลกๆ ด้วยเช่นกัน

ชายชราเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวและกล่าวว่า “สหายเต๋า…อย่าบอกข้านะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ท่านมายังทะเลเทียนเหอแห่งนี้?”

เมิ่งฮ่าวพยักหน้า

ชายชราสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็พึมพำบางอย่างกับตนเอง ขณะที่มันเก็บหัวใจอสูรไว้และกล่าวว่า

“พลังลมปราณในหัวใจอสูรนี้เทียบเท่ากับหินลมปราณระดับกลาง แต่หินลมปราณระดับกลางหนึ่งก้อนไม่อาจจะนำมาซื้อหัวใจอสูรได้แม้แต่น้อย!”

“ในเมืองไห่เฉิงของสามสำนัก มีเขตพิเศษที่ใช้ซื้อขายหัวใจอสูร”

“แต่มันมีราคาที่ไม่แน่นอนตายตัว ถ้าเหล่าฟูจำไม่ผิด เมื่อข้าจากเมืองไห่เฉิงมาครั้งล่าสุด หัวใจอสูรระดับต่ำหนึ่งดวง มีค่าเท่ากับหินลมปราณระดับต่ำห้าร้อยก้อน!”

“สถานที่บางแห่งยังได้ยอมจ่ายถึงหนึ่งพันก้อนอีกด้วย!”

เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ไม่ว่าเขาจะมีพื้นฐานฝึกตนสูงส่งมากแค่ไหน แต่จิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้อง ถุงสมบัติของเขาประกอบด้วยหัวใจอสูรระดับต่ำประมาณแปดหมื่นถึงเก้าหมื่นก้อน ถ้าคิดคำนวนออกมา พวกมันก็จะมีค่าเท่ากับ…หินลมปราณระดับต่ำแปดสิบถึงเก้าสิบล้านก้อน

ด้วยจำนวนที่มากมายเช่นนั้น ทำให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่กระแทกลงไปที่จิตใจเมิ่งฮ่าว สมองเขาสั่นสะเทือน และแทบไม่อยากจะเชื่อ ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยได้ครอบครองหินลมปราณมากมายนัก ทำให้ต้องสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วงในทันที

“ท่านบอกว่าเท่าไหร่นะ?” เขาพูดโพล่งออกมาโดยไม่ต้องแม้แต่จะขบคิด

“หัวใจอสูรระดับต่ำมีราคาตั้งแต่จากหลักร้อยไปจนถึงหลักพันหินลมปราณ…” ชายชรากล่าว ดูเหมือนมันไม่ได้คิดว่าเมิ่งฮ่าวมีปฏิกิริยาแปลกๆ ใครก็ตามที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรกก็จะต้องประหลาดใจ

“แล้วหัวใจอสูรระดับกลางเป็นอย่างไร?” เมิ่งฮ่าวกล่าวต่อในทันที

ชายชราลังเลอยู่ชั่วครู่ และลูบไปที่ถุงสมบัติของมัน แต่ก็อธิบายต่อไป “มันมีราคาไม่แน่นอนด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่มากนัก หัวใจอสูรระดับกลางหนึ่งดวงมีค่าประมาณหนึ่งหมื่นหินลมปราณระดับต่ำ!”

ปากคอเมิ่งฮ่าวแห้งผากจนไม่อาจจะพูดออกมาได้ ภายในถุงสมบัติของเขามีหัวใจอสูรระดับกลางมากกว่าสามหมื่นดวง หลังจากที่คิดคำนวน จิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง

ตอนนี้ เขาก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมผู้คนถึงได้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อมายังที่แห่งนี้

“ข้ารวยแล้ว! ข้ารวยมากๆ แล้วจริงๆ!” เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะควบคุมความตื่นเต้นซึ่งระเบิดออกมาจากภายในจิตใจไว้ได้ ความปรารถนาตลอดชีวิตของเขาทันใดนั้นก็ถูกเติมเต็ม ทำให้จิตใจเริ่มเต้นรัวอย่างรวดเร็ว

ชายชรามองไปยังเมิ่งฮ่าวและกล่าวต่อ “แน่นอนว่า ยังมีแม้แต่หัวใจอสูรที่หายาก ซึ่งเป็นหัวใจอสูรระดับสูง แต่เหล่าฟูก็ไม่มั่นใจว่าจะมีราคาเท่าใด เพราะพวกมันปรากฏขึ้นแต่ในงานประมูลเท่านั้น”

“แต่เหล่าฟูก็จำได้ว่าในงานประมูลครั้งล่าสุดที่ข้าไปเข้าร่วมมา หัวใจอสูรระดับสูงถูกขายด้วยราคาที่น่าเหลือเชื่อถึงหกแสนเจ็ดหมื่นหินลมปราณ!”

เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ยินเช่นนั้น เขาก็ยิ่งมีความยินดีจนแทบคลุ้มคลั่ง เขามีหัวใจอสูรระดับสูงเช่นนั้นเกือบหนึ่งหมื่นดวงอยู่ในถุงสมบัติ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่ามีก้อนทองคำขนาดใหญ่ได้หล่นทับลงมาบนร่าง

ไม่นานต่อมา สีหน้าเขาทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อจำได้ว่าท่ามกลางหัวใจอสูรเจ็ดถึงแปดดวง ที่เขาใช้เพื่อทดสอบพลังการคัดลอกของกระจกทองแดง มีอยู่สี่ดวงที่เป็นหัวใจอสูรระดับสูง

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับถูกแทงอย่างเจ็บปวดอยู่ภายในจิตใจ

“นั่นหมายความว่า…ข้า…เพิ่งจะสูญเสียหินลมปราณไปมากกว่าสองล้านก้อน? ท่านย่ามันเถอะ! นั่น…” ทันใดนั้นเขาอยากจะแผดร้องและสาปแช่งออกมา หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาก็บอกตนเองว่ามันไม่ได้เลวร้ายมากไปกว่า หินลมปราณระดับสูงพิเศษถึงสองพันก้อน หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เขาก็ทำจิตใจให้เยือกเย็นลง

“ยังมีหัวใจอสูรระดับไหนอีกที่ล้ำค่ามากกว่าที่ท่านได้กล่าวมา? ซึ่งเป็นสิ่งที่เทียบเท่ากับหินลมปราณระดับสูงพิเศษ?” เขาถาม เนื่องจากว่ามีหัวใจอสูรเช่นนั้นอยู่ในถุงสมบัติ ซึ่งได้มาจากยักษ์ดอกไป๋กู่

ชายชราครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็กล่าวตอบ “ไม่มีเรื่องเช่นนั้น แต่บางทีพื้นฐานฝึกตนของเหล่าฟูยังไม่สูงเพียงพอ หรือบางทีเหล่าฟูก็ไม่เคยพบเห็นใครที่จะมีของเช่นนั้น แต่ในวงแหวนที่สาม มีบางสิ่งที่ถูกเรียกว่าหัวใจอสูรไป๋กู่ พวกมันเป็นของวิเศษล้ำค่าที่หายากเป็นอย่างยิ่ง เป็นบางสิ่งที่น่าจะประเมินค่าไม่ได้”

จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน เขาแทบจะมั่นใจว่า หัวใจอสูรที่อยู่ในถุงสมบัติ ซึ่งมีขนาดเท่ากับกำปั้นเด็กทารกนั้นก็คือ หัวใจอสูรไป๋กู่ ซึ่งชายชราเพิ่งจะกล่าวถึง

“ยังมีอีกเรื่อง” ชายชรากล่าวต่อ “และบางทีก็อาจจะสำคัญมากที่สุด ในเมืองไห่เฉิงของสามสำนัก สิ่งของส่วนใหญ่ต้องซื้อด้วยหัวใจอสูรเท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเหล่าฟูถึงได้คิดว่าพวกมันถึงได้มีค่ามากมายเช่นนั้น”

“ด้วยหัวใจอสูรระดับกลาง ตอนนี้ข้าก็น่าจะซื้อยาผงป้อมปราการได้ ช่วยให้ศิ…ศิษย์ของข้าสามารถทะลวงผ่านขั้นสร้างแกนลมปราณได้อย่างปลอดภัย เมื่อกล่าวจบ ชายชราก็ถอยไปด้านหลังและโค้งตัวลงอีกครั้งให้กับเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวยิ้มน้อยๆ ออกมา และพยักหน้าให้ ตอนนี้เขามีอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง และมีเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดได้ ก็คือไปยังเมืองไห่เฉิง เพื่อแลกหัวใจอสูรเป็นหินลมปราณ

“ด้วยหินลมปราณมากมาย ข้าเชื่อว่าน่าจะสามารถ…คัดลอกกระบี่ไม้แห่งกาลเวลา ที่ประกอบด้วยเจ็ดวงจรหกสิบปีแห่งกาลเวลาได้นับร้อยเล่ม จากนั้นข้าก็สามารถปลดปล่อยรูปแบบที่สามของค่ายกลกระบี่ดอกบัวออกมาได้!” เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และสะกดข่มความตื่นเต้นไว้ รู้ดีว่าไม่มีใครนอกจากตัวเองที่สามารถครอบครองกระบี่ไม้แห่งกาลเวลาได้ถึงหนึ่งร้อยเล่ม ไม่ว่าในอดีตที่ผ่านมา หรือในอนาคต มันเป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็นได้โดยสิ้นเชิง บางทีอาจจะเป็นเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำเช่นนี้ได้

นั่นก็เนื่องมาจาก…กระจกทองแดงและความสามารถที่ต่อต้านสวรรค์ของมันในเรื่องการคัดลอกเท่านั้น ถ้าไม่มีกระจกทองแดง ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างกระบี่ไม้แห่งกาลเวลาออกมาได้ถึงหนึ่งร้อยเล่ม ทุกครั้งที่เขาพยายามจะผนึกเวลาเข้าไปในกระบี่ ความล้มเหลวก็จะทำให้กระบี่ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการล้มเหลวก็ยิ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

“อันที่จริง ข้าอาจจะสามารถคัดลอกปลายกระบี่แห่งกาลเวลาขึ้นมาด้วยก็ได้!” เขาคิด แสงเจิดจ้าในดวงตาเริ่มสว่างมากขึ้น เขากำลังจะหันหลังและจากไป แต่ทันใดนั้นหญิงสาวเยาว์วัยก็กัดฟันแน่นและดูเหมือนจะโยนทุกอย่างทิ้งไปกับสายลม ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับเมิ่งฮ่าว

“ผู้เยาว์ขอน้อมพบท่านผู้อาวุโส”

เมิ่งฮ่าวเริ่มจะจากไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวเยาว์วัย จึงได้มองกลับไป

ในเวลาเดียวกันนั้น สีหน้าชายชราก็เปลี่ยนไป และมันก็ยื่นมือออกมาจับหญิงสาวเยาว์วัยไว้ รังสีสังหารอันเย็นเยียบปรากฏขึ้นในดวงตามัน

“สหายเต๋า ศิษย์เหล่าฟูยังเยาว์นัก ได้โปรดยกโทษให้นางด้วย ลาก่อน!” ด้วยเช่นนั้น มันก็จับหญิงสาวเยาว์วัยไว้ และเตรียมตัวจะจากไป มันได้ผนึกพื้นฐานฝึกตนของนางไว้แล้ว ทำให้นางไม่อาจจะพูดจาออกมาได้ แต่ดวงตานางสาดประกายด้วยความสิ้นหวัง แทบจะราวกับว่านางปรารถนาจะตกตายไป ขณะที่ชายชราฉุดดึงตัวนางจากไป

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว เขาตระหนักดีว่าคนทั้งสองไม่ใช่ศิษย์และอาจารย์ อันที่จริง จากประสบการณ์ของเขา ทำให้สามารถคาดเดาเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของชายชราผู้นี้ได้

เดิมที เขาไม่ต้องการจะเข้าไปแทรกแซง แต่หลังจากที่มองเห็นความสิ้นหวังในดวงตาของหญิงสาวเยาว์วัย ทันใดนั้นเขาก็ระลึกได้ถึงภาพของหญิงสาวอีกคน

“แววตาของนางตอนที่อยู่ในดินแดนสงบสุขสำนักชิงหลัว ก็เหมือนกับแววตานี้เป็นอย่างยิ่ง” เมิ่งฮ่าวคิด

“รอสักครู่” เขากล่าว ถอนหายใจให้กับตัวเอง ทันใดนั้นก็ไปปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าชายชรา

สีหน้าชายชราเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อครู่นี้ไร้วี่แววใดๆ เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวอยู่ที่ด้านหลังมัน แต่ตอนนี้ทันใดนั้นเขาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ทำให้จิตใจของชายชราเริ่มเต้นรัว

“ให้นางกล่าวให้จบก่อน” เมิ่งฮ่าวกล่าว ชายชราเพิ่งจะให้ข้อมูลที่มีค่าต่อเขา ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงไม่ต้องการจะลงมือกับมันอย่างง่ายดาย

ชายชรายืนอย่างเงียบๆ ชั่วครู่ จากนั้นก็ปล่อยมือออก

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างหญิงสาวเยาว์วัย ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของนางฟื้นฟูกลับคืนมา แสงเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนปรากฏขึ้นในดวงตานาง แสงนั้นเต็มไปด้วยความหวัง นางโค้งตัวลงต่ำให้กับเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง

“ท่านผู้อาวุโส นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านมายังทะเลเทียนเหอ จึงมีอยู่หลายสิ่งที่ท่านไม่ทราบ และเมืองไห่เฉิงของสามสำนักก็มีกฎที่เข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับสถานที่ ที่จะเข้าพัก บุคคลภายนอกยากที่จะรู้เรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเอง”

“ผู้เยาว์เติบโตขึ้นมาจากในเมืองไห่เฉิง และรู้เกี่ยวกับสถานที่ทั้งภายในและภายนอก ถ้าท่านผู้อาวุโสไม่รังเกียจ ผู้เยาว์ยินดีจะเป็นผู้นำทาง ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาให้กับท่านได้มาก”

——————–

หมายเหตุ : ดินแดนสงบสุขในสำนักชิงหลัว เมิ่งฮ่าวไปช่วยสวี่ชิงได้ทันเวลาก่อนที่จะโดนข่มขืน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!