Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 668

ตอนที่ 668

รู้สึกดีจริงๆ

เหวยหลีมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความวิตกกังวล

นางรู้สึกเป็นห่วงอย่างแท้จริง เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเขาแพ้ ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงจะมากมายเป็นอย่างยิ่ง…

สีหน้าเมิ่งฮ่าวไร้ความรู้สึก ขณะที่หยิบเอาถุงสมบัติออกมา และโยนลงไปบนตาชั่งหัวใจอสูรเก้ามังกร ทันทีที่ถุงสมบัติแตะสัมผัสไปโดยพื้นผิวของแผ่นศิลา หนึ่งในมังกรแกะสลักก็เริ่มส่องประกายเจิดจ้า

ทุกคนมองดูอย่างใกล้ชิด ขณะที่ภาพนั้นปรากฏขึ้น โดยเฉพาะเจ็ดชายชรา สีหน้าพวกมันเปลี่ยนไป และจากนั้นก็เริ่มส่องประกายด้วยความยินดีออกมาอย่างรวดเร็ว

พวกมันไม่ค่อยเป็นห่วงเกี่ยวกับการได้เสียมากนัก แต่เป็นห่วงว่าถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าว จะมีหัวใจอสูรไม่มากนัก เมื่อได้เห็นว่าถุงสมบัติของเขามีถึงหนึ่งหมื่นดวง พวกมันก็รู้ว่าหลังจากที่แบ่งกันแล้ว คนทั้งเจ็ดก็จะได้กำไรอย่างแน่นอน

ขณะที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งเจ็ด ดวงตาผู้พิทักษ์โจวก็เบิกกว้าง และมันก็รู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย ก่อนหน้านี้มันคาดเดาว่าเมิ่งฮ่าวอาจจะมีหัวใจอสูรอยู่เพียงไม่กี่ร้อยดวง หรืออย่างมากก็ไม่กี่พันดวง แต่กลายเป็นว่าเขามีถึงหนึ่งหมื่นดวง

ความเสียใจของมันหายไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่มันตระหนักว่าเมิ่งฮ่าวไม่มีทางจะชนะได้ เขาต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด และจากนั้นเจ็ดจ่างกุ้ยก็จะมีหัวใจอสูรมาแลกเปลี่ยนมากขึ้น

ในตอนนี้เองที่มังกรตัวที่สองเริ่มเรืองแสงขึ้นมา จนกระทั่งสว่างจ้าขึ้นมาครึ่งตัว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าวมีหนึ่งหมื่นห้าพันหัวใจอสูรอยู่ข้างใน

“ท่านแพ้แล้ว!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นในทันที ความดีใจและตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้า ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามที่จะสะกดข่มมันไว้

“ใครว่ากัน?” ชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาหัวเราะออกมา “นี่เป็นการแข่งขันระหว่างเจ้ากับพวกเราทั้งเจ็ด การแข่งขันยังไม่จบลง ขณะที่ทำการแข่งขัน ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาสอดแทรก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องส่งมอบหัวใจอสูรทั้งหมดให้กับอีกฝ่ายในตอนท้ายสุด” ชายชราอีกหกคนต่างก็เริ่มพยักหน้าเห็นด้วย

ชายชราคนแรกถอยไปด้านหลังสองสามก้าว และชายชราคนที่สองก้าวตรงมาด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง มันหยิบเอาถุงสมบัติออกมา จากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความเหยียดหยาม ขณะที่โยนถุงสมบัติลงไปบนแผ่นศิลา

เสียงหึ่งๆ ได้ยินมา และแผ่นศิลาก็เริ่มสั่นสะเทือน มังกรที่อยู่บนพื้นผิวของมัน แทบจะดูเหมือนกับมีชีวิตขึ้นมา และกระจายระลอกคลื่นออกมาเป็นระยะ มังกรตัวที่สองในตอนนี้เริ่มส่องแสงออกมาเต็มตัว ทำให้ดูเหมือนกับมีชีวิตเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น มังกรตัวที่สามก็เรืองแสงออกมาเต็มที่ด้วยเช่นกัน

“ทั้งหมดสามหมื่นหัวใจอสูร!” ผู้พิทักษ์โจวกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“เจ้ามีมากกว่านี้หรือไม่?” ชายชราถาม มองไปยังเมิ่งฮ่าว

อีกหกชายชราก็กระทำเช่นเดียวกัน พวกมันทั้งหมดกำลังคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะมีหัวใจอสูรมากกว่านี้อีกเล็กน้อย แต่ก็คงไม่มากนัก และการแข่งขันนี้ก็คงจะจบลงด้วยความไม่ค่อยน่าตื่นเต้นมากนัก

สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่ง ขณะที่สอดมือขวาเข้าไปในอกเสื้ออย่างช้าๆ จากนั้นก็หยิบเอาถุงสมบัติอีกใบออกมา และโยนไปบนแผ่นศิลา ทันทีที่วางลงไป มังกรตัวที่สามก็เปล่งแสงออกมาเต็มตัว และมังกรตัวที่สี่ก็มีแสงเกิดขึ้นหนึ่งในสิบส่วน

ผู้พิทักษ์โจวอ้าปากค้าง และมองไปยังเมิ่งฮ่าว “สามหมื่นหนึ่งพัน…”

ดวงตาซุนอวิ๋นเลี่ยงเบิกกว้าง มันแทบไม่อยากจะเชื่อ จนต้องแอบหัวเราะอย่างขมขื่นอยู่ภายในใจ ถ้ามันรู้ว่าเมิ่งฮ่าวมีหัวใจอสูรมากมายเช่นนี้ ก็คงไม่มีทางที่จะเกิดความวุ่นวายเช่นนี้ขึ้น

แม้แต่เจ็ดชายชราก็ยังต้องตกตะลึง พวกมันแต่ละคนมีหัวใจอสูรมากกว่าหนึ่งหมื่นดวง แต่ก็ไม่มีใครที่จะมีมากกว่าสองหมื่นดวง แต่คู่ต่อสู้ของพวกมันกลับมีถึงสามหมื่นดวง ในตอนนี้พวกมันได้แต่เริ่มคาดเดาเกี่ยวกับตัวเขาไปต่างๆ นาๆ ขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

ในตอนนี้เองที่ชายชราทั้งเจ็ดสบตากันไปมา ดวงตาพวกมันเริ่มลุกไหม้ขึ้นด้วยความหลงใหล ขณะที่ตระหนักว่า จริงๆ แล้วพวกมันก็มีความสนใจในการแข่งขันนี้เป็นอย่างมากกว่าที่เคยเป็นมา เมื่อคิดว่าคู่แข่งของพวกมันมีหัวใจอสูรอยู่ประมาณสามหมื่นดวง ถ้าพวกมันชนะ ก็หมายความว่าแต่ละคนจะได้หัวใจอสูรเพิ่มขึ้นห้าพันดวง ยิ่งพวกมันคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้จิตใจเริ่มเต้นรัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

จากนั้น พวกมันทั้งเจ็ดก็เริ่มหัวเราะหึๆ ออกมา ในตอนนี้เองที่ชายชราคนที่สองถอยหลังกลับไป และคนที่สามก็เดินตรงมา โบกสะบัดมือขวา ทำให้ถุงสมบัติลอยออกมา ทันใดนั้น มังกรตัวที่สี่และห้าก็เปล่งแสงขึ้น ถึงแม้ว่าตัวที่ห้าจะมีแสงแค่เก้าในสิบส่วนก็ตามที

“สี่หมื่นเก้าพันหัวใจอสูรระดับต่ำ!” ผู้พิทักษ์โจวกล่าว จากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าว ไม่เพียงแต่มันเท่านั้น ตอนนี้คนทั้งหมดรวมทั้งเหวยหลี ต่างก็จ้องไปยังเมิ่งฮ่าว

“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถแข่งขันได้ต่อ” ชายชราคนที่สามกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ

เมิ่งฮ่าวไม่กล่าวอะไรออกมา ดูราวกับว่าเขามีถุงสมบัติอย่างไม่มีวันหมดสิ้น หยิบอีกใบหนึ่งออกมา เมื่อโยนออกไป ก็ทำให้มังกรตัวที่สี่, ห้า และหกเปล่งแสงออกมาอย่างสมบูรณ์!

กลายเป็นว่าถุงสมบัตินั้นมีหัวใจอสูรสามหมื่นดวงอยู่ด้านใน!

จิตใจของผู้พิทักษ์โจวหมุนคว้าง จนต้องสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง มันจ้องมองไปยังมังกรหกตัวที่เปล่งแสงเรืองรองอยู่บนแผ่นศิลาด้วยความงุนงง

“หกหมื่น…หัวใจอสูร!”

สีหน้าของเจ็ดชายชราเปลี่ยนไป และพวกมันก็จ้องนิ่งไปยังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็สบตากันไปมา และมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ตรงกัน ในความคิดของพวกมัน นี่เป็นถุงสมบัติถุงสุดท้ายที่คู่แข่งของพวกมันจะนำออกมาได้

“หกหมื่นหัวใจอสูร! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมันถึงได้เขื่องโขเช่นนั้น!”

“ข้าไม่เคยจะคาดคิดว่า มันจะมีหัวใจอสูรมากมายเช่นนั้น แต่เมื่อเทียบกับพวกเราทั้งเจ็ด มันไม่มีทางจะเทียบได้อย่างแน่นอน!”

“ให้ดีที่สุด มันควรจะมีถึงเจ็ดหมื่น ทำให้พวกเราได้รับคนละหนึ่งหมื่น ถือว่าเป็นกำไรที่มากโขเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าคนผู้นี้จะมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่ง แต่มันคิดว่าจะมาต่อสู้กับพวกเราทั้งเจ็ดได้จริงๆ?!”

ชายชราทั้งเจ็ดหัวเราะหึๆ ขณะที่คนที่สี่และห้าของพวกมัน ก้าวเท้าออกไปในเวลาเดียวกัน คนทั้งสองโยนถุงสมบัติออกไป ทันทีที่พวกมันวางลงไปบนแผ่นศิลา ก็ทำให้เกิดเป็นแสงเจิดจ้ากระจายออกมา ไม่เพียงแต่มังกรตัวที่หกจะเปล่งแสงออกมาเท่านั้น ตัวที่เจ็ดก็เช่นเดียวกัน แม้แต่ตัวที่แปดก็ยังเปล่งแสงออกมาครึ่งหนึ่ง

“เจ็ดหมื่นห้าพันหัวใจอสูรระดับต่ำ!” ผู้พิทักษ์โจวกล่าว ด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจดังก้องออกไป

ชายชราคนที่ห้าหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา “สหายเต๋า, เจ้ามีหัวใจอสูรระดับต่ำอยู่มากมายเท่าใดกัน นำพวกมันออกมา พวกเราจะเล่นกับเจ้าจนถึงที่สุด” สีหน้ามันเย่อหยิ่ง และจิตใจก็เต็มไปด้วยความยินดี ซึ่งไม่อาจจะปกปิดไว้ได้

คนอื่นๆ ก็ยิ้มด้วยความอิ่มเอมใจด้วยเช่นเดียวกัน ขณะที่พวกมันครุ่นคิดว่าจะแบ่งหัวใจอสูรของเมิ่งฮ่าวอย่างไรดี

เมิ่งฮ่าวกระพริบตา จากนั้นก็สอดมือเข้าไปในอกเสื้ออีกครั้ง สายตาของเจ็ดชายชราหดเล็กลง ขณะที่เมิ่งฮ่าวหยิบเอาถุงสมบัติอีกใบออกมา โยนลงไปบนแผ่นศิลา

เสียงกระหึ่มดังก้องออกไป ขณะที่มังกรตัวที่เจ็ดและแปดเปล่งแสงออกมา มีเพียงมังกรตัวที่เก้าเท่านั้นที่ยังคงมืดอยู่

เมื่อได้เห็นเช่นนี้ เจ็ดชายชราก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ แม้แต่ผู้พิทักษ์โจวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา เห็นได้ชัดว่า เมิ่งฮ่าวมีหัวใจอสูรแค่แปดหมื่นดวงเท่านั้น มิเช่นนั้นมังกรตัวที่เก้าก็คงจะเริ่มส่องแสงออกมาแล้ว

ซุนอวิ๋นเลี่ยงเริ่มหอบหายใจมานานแล้ว จิตใจมันกำลังเต้นรัว เมื่อได้เห็นสีหน้าของผู้พิทักษ์โจว มันก็แทบอยากจะเดินออกไป และตบไปที่ใบหน้าของผู้พิทักษ์โจว “ช่างโง่เขลานัก! ผู้ที่มีหัวใจอสูรแปดหมื่นดวง ไม่ใช่คนที่ใครจะมาตอแยได้อย่างง่ายดาย บางทีมันอาจจะไม่กล้าต่อสู้กับพลังของเจ็ดจ่างกุ้ย แต่ตอนนี้สำนักหยางหุนเต้าของพวกเราตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่ามันต้องไม่ยอมรามืออย่างง่ายดาย!”

“เรื่องสนุกได้จบลงแล้ว” ชายชราคนที่หกกล่าว “สหายเต๋า, วันนี้เหล่าฟูจะสอนบทเรียนให้กับเจ้า อย่าได้ลืมเลือนไป เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า” มันไม่แม้แต่จะก้าวเท้าเดินออกมา เพียงแค่โยนถุงสมบัติให้ตกลงไปบนแผ่นศิลา ทำให้มังกรตัวที่แปดเปล่งแสงออกมาโดยสมบูรณ์ ตามมาด้วยเจ็ดในสิบส่วนของมังกรตัวที่เก้า

“แปด…แปดหมื่นเจ็ดพัน หัวใจอสูรระดับต่ำ!” ผู้พิทักษ์โจวอ้าปากค้าง

คิ้วเมิ่งฮ่าวขมวดมุ่น และเขาก็ตบมือไปรอบๆ เสื้อผ้า แต่ก็ไม่อาจจะหยิบถุงสมบัติออกมาได้อีก หัวใจอสูรระดับต่ำที่เขามี ถูกเก็บไว้ในเสื้อผ้าชุดนี้

เมื่อเหวยหลีเห็นสีหน้าของเมิ่งฮ่าว จิตใจนางก็เริ่มเต้นรัว สีหน้าของชายชราทั้งเจ็ดมีความพึงพอใจโดยสิ้นเชิง หนึ่งในพวกมันก้าวเท้าออกมา และยื่นมือออกไปยังถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าวที่วางอยู่บนแผ่นศิลา

“ข้าบอกท่านแล้วหรือว่าให้หยิบไปได้?” เมิ่งฮ่าวกล่าว โบกสะบัดมือขวา ทำให้เกิดเป็นแรงโจมตีอันแผ่วเบากดดันให้ชายชราต้องถอยไปด้านหลัง สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว ชายชราอีกหกคนก็ก้าวเท้าออกมา สีหน้าไม่พอใจปกคลุมไปทั่วบนใบหน้าของพวกมัน

“ยังไม่ยอมแพ้อีก, สหายเต๋า?” ชายชราผู้หนึ่งถาม

“ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ยอมแพ้ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อแข่งขันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ตอนนี้เจ้าแพ้แล้ว หัวใจอสูรเหล่านั้นเป็นของพวกข้า”

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย จากนั้นก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่มีความเขินอายอยู่จางๆ

“การแข่งขันยังไม่จบ แล้วข้าจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?” คำพูดของเขาทำให้จิตใจของชายชราทั้งเจ็ดจมดิ่งลงไปในทันที และพวกมันก็สบตากันด้วยความตกตะลึง

“เจ้ายังมีหัวใจอสูรระดับต่ำอยู่อีก?”

“หัวใจอสูรระดับต่ำ? ข้าไม่มีแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ ในตอนนี้เองที่เขาตบไปที่ถุงสมบัติที่ด้านข้าง ภายในนั้นมีถุงสมบัติอีกใบปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิด นี่เป็นถุงสมบัติแบบพิเศษที่เขาซื้อมาจากเมืองไห่เฉิง

เมิ่งฮ่าวชั่งน้ำหนักมัน มองไปยังตาชั่งหัวใจอสูรเก้ามังกร “ทำไมพวกเราถึงไม่ใช้สิ่งอื่นแทนแผ่นศิลานี้? มันคงจะน่าละอายใจนักถ้าทำให้ของวิเศษเช่นนี้ต้องเสียหาย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจ็ดชายชราก็ได้แต่จ้องมองมาด้วยความตกตะลึง ยังถุงสมบัติที่อยู่ในมือเมิ่งฮ่าว อย่างไรก็ตาม หนึ่งในกลุ่มชายชราได้พูดเยาะเย้ยออกมา “แผ่นศิลามีมังกรเพียงแค่เก้าตัวเท่านั้น แต่ถ้ามีจำนวนมากกว่าหนึ่งแสน พวกมันก็จะเปลี่ยนสี จนกระทั่งถึงวันนี้ ข้าก็ยังไม่เคยได้ยินมาว่า จะมีใครสามารถใช้หัวใจอสูร มาทำให้ตาชั่งหัวใจอสูรเก้ามังกรต้องเสียหายได้”

เมิ่งฮ่าวมองไปยังซุนอวิ๋นเลี่ยง มันลังเลอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมา และพยักหน้าให้

“เช่นนั้นก็ดี” เมิ่งฮ่าวกล่าว โยนถุงสมบัติออกไป เมื่อถุงสมบัติไปวางอยู่บนแผ่นศิลา ก็ทำให้เกิดเป็นเสียงดังกึกก้องออกมา ได้ยินลงไปถึงชั้นล่าง ในเวลาเดียวกันนั้น มังกรตัวที่เก้าก็เปล่งแสงออกมาโดยสมบูรณ์

ท่าทางตั้งอกตั้งใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชราทั้งเจ็ด

จากนั้น มังกรตัวแรกก็เริ่มเปลี่ยนสี กลายเป็นสีน้ำเงิน

ภาพที่เห็นนี้ทำให้สีหน้าของเจ็ดชายชราสลดลงในทันที

หลังจากนั้น มังกรตัวที่สอง, มังกรตัวที่สาม อันที่จริง มังกรทั้งเก้าตัวได้กลายเป็นสีน้ำเงิน

จากนั้นพวกมันก็เปลี่ยนสีขึ้นอีกครั้ง เริ่มจากตัวแรก ไปจนกระทั่งถึงตัวที่เก้า ทั้งหมดเปล่งประกายเป็นสีม่วงเจิดจ้า

ชายชราทั้งเจ็ดสั่นสะท้าน มีท่าทางตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อปกคลุมไปทั่วทั้งใบหน้า แม้แต่บางคนยังได้กล่าวขึ้น “เป็นไปไม่ได้!”

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยังไม่หยุดอยู่ที่แสงสีม่วง อีกครั้งที่มังกรเริ่มเปลี่ยนสี ครั้งนี้เป็นสีส้ม

“แสงสีส้ม…นั่น…นั่นคือแสงสีส้ม!” จิตใจของเจ็ดชายชรากำลังหมุนคว้าง ราวกับว่ากำลังถูกฟาดด้วยสายฟ้า พวกมันสั่นสะท้าน ดวงตางุนงงด้วยความประหลาดใจ

อย่างไรก็ตาม แสงนั้นก็ยังไม่ได้หยุดการเปลี่ยนแปลง อีกครั้งที่มันเริ่มเปลี่ยนไป เป็นครั้งที่ห้าที่ทำให้มังกรตัวแล้วตัวเล่า เปล่งแสงเจิดจ้าด้วยสีแห่งโลหิต!

การเปลี่ยนสีเช่นนี้ทำให้กลุ่มคนในบริเวณนั้นตกตะลึงอย่างถึงที่สุดโดยสิ้นเชิง พวกมันจ้องมองไปด้วยปากที่อ้าค้าง จิตใจส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่มังกรทั้งเก้าตัวเปลี่ยนเป็นสีโลหิตโดยสิ้นเชิง และจากนั้น…

เก้ามังกรก็แวบแสงเจิดจ้าขึ้น ราวกับว่า…พวกมันกำลังจะเปลี่ยนเป็นอีกสี

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าตาชั่งหัวใจอสูรเก้ามังกรได้มาถึงขีดจำกัดของมันแล้ว และไม่อาจจะเปลี่ยนสีได้อีกต่อไป เสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วทั้งอาคาร และในไม่ช้าก็ได้ยินออกไปแม้แต่ด้านนอก อย่างน่าตกใจยิ่ง เสียงนั้นดังออกมาจากตาชั่งหัวใจอสูรเก้ามังกร เสียงแตกร้าวได้ยินมา ในสายตาของคนทั้งหมดที่มองไป ทันใดนั้นมันก็…แตกกระจายไปโดยสิ้นเชิง!

เมิ่งฮ่าวกระแอมไอออกมา ขณะที่มองไปรอบๆ ยังคนทั้งหมดที่ตกตะลึงอยู่รอบๆ บริเวณนั้น เขาคิดกับตัวเองว่า การเป็นคนรวยนั้น…ช่างรู้สึกดีจริงๆ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!