Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 891

ตอนที่ 891

ไฟเทพเผาไหม้เซียน!

ฉับพลันนั้นสีหน้าของคนทั้งสองก็สลดลง พวกมันต้องการจะหลบหนีจากไปในทันที รู้ตัวดีว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันร้ายแรง แต่เมื่อพิจารณาถึงระดับพื้นฐานฝึกตนของพวกมัน ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยงไปทางด้านข้าง อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยแสงอันดุร้าย

ทันใดนั้นเขาก็ส่งข้อความออกไปด้วยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ “ร่างจริงที่สอง ระเบิดตนเอง!!”

ดวงตาร่างจริงที่สองแวบขึ้น แขนมันหยุดชะงักนิ่ง ในชั่วพริบตามันก็ทำการระเบิดตนเองขึ้น นี่เป็นการระเบิดตนเองของวิญญาณแห่งเซียนแท้ และกายเนื้อของเมิ่งฮ่าว รวมทั้งจิตมารที่อยู่ภายใน แรงระเบิดขนาดใหญ่นั้นทำให้หมู่ดาวสั่นสะเทือน และแสงอันเจิดจ้าก็กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง แทบจะคล้ายกับเป็นดวงตะวัน

ตูมมมมม!

การระเบิดตนเองขึ้นอย่างฉับพลันของร่างจริงที่สอง เป็นการตัดสินใจที่น้อยคนนักจะสามารถคิดได้ แต่เมิ่งฮ่าวได้ฝึกฝนตนเองมานานหลายปี และเคยผ่านประสบการณ์อันร้ายแรงมาแล้วอย่างโชกโชน เนื่องจากบุคลิกภาพที่เด็ดขาดของเขานี้ ทำให้ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะให้ร่างจริงที่สองระเบิดตัวเองขึ้น

สองผู้ฝึกตนชุดดำแทบจะหลบหนีออกไปได้แล้ว แต่เมื่อเกิดการระเบิดตนเองขึ้น ก็ทำให้แม้แต่พวกมันก็ยังต้องสั่นสะท้าน โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ขณะที่พวกมันสูญเสียโอกาสที่จะหลบหนีจากไป

ในเวลาเดียวกันนั้น รังสีสังหารอันเข้มข้นก็มองเห็นได้ในดวงตาเมิ่งฮ่าว เขายกตะเกียงสัมฤทธิ์โบราณขึ้นมาและเป่าลมหายใจเข้าไป ลมหายใจที่บางเบานั้นพุ่งไปปะทะกับตะเกียง ทำให้เปลวไฟที่อยู่ด้านในจู่ๆ ก็ขยายตัวขึ้น ทันใดนั้นทะเลแห่งเปลวไฟก็พุ่งออกมาอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว

หมู่ดาวสั่นสะท้านขณะที่ทะเลแห่งเปลวไฟเดือดพล่านขึ้นมา

มันไม่ได้กระจายออกไปจนไกลมากนัก เพียงแค่ไม่กี่สิบจ้างเท่านั้น แต่ภายในระยะทางนั้น เปลวไฟอันน่าตกใจได้ทำให้ทุกสรรพสิ่งกระจายเป็นระลอกคลื่นและบิดเบี้ยวไปมา ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล จะเห็นว่าทะเลแห่งเปลวไฟนั้นดูคล้ายกับเป็นผีเสื้อที่ลุกโชนขึ้นด้วยเปลวไฟขนาดใหญ่ กระจายการทำลายล้างออกไป ขณะที่มันกระพือปีกไปมา

บุรุษในชุดดำทั้งสองคนส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา พวกมันพยายามใช้อาวุธเวทเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ถึงกระนั้นแม้แต่ของวิเศษของบุรุษชุดดำคนที่สามก็ยังต้องถูกทำลายไปในทันที เปลวไฟกลืนกินร่างของพวกมันเข้าไป ผิวหนังพวกมันแตกร้าวและถูกเผาไหม้ไป

พลังของเปลวไฟนี้เกินกว่าที่เมิ่งฮ่าวเคยคาดคิดไว้ ในที่สุดเพียงไม่กี่อึดใจ เปลวไฟนั้นก็เผาไหม้บุรุษชุดดำทั้งสองที่มีความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อจนกลายเป็นเถ้าถ่าน หนึ่งในพวกมัน ในช่วงก่อนที่จะตายไป ได้จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางอย่างทำให้ร่างกายของมันแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว และส่งพลังที่กำลังระเบิดขึ้นนี้ออกมา

“พวกเรามาตายไปด้วยกัน!” มันแผดร้องออกมา พลังพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวปกคลุมเขาไว้อยู่ภายใน

ทั่วทั้งร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้าน พลังขนาดใหญ่นั้นเริ่มฉีกผิวหนังเขาออกไป ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นร่างกายเขาก็ระเบิดขี้น อาณาจักรความเป็นนิรันดร์มีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือตะเกียงสัมฤทธิ์ ในตอนนั้นบุรุษชุดดำคนที่สองในที่สุดก็กลายเป็นเถ้าธุลี วิญญาณของมันกระจัดกระจายออกไป ในช่วงสุดท้ายก่อนที่มันจะตายไป ไม่มีความเสียใจอยู่ในดวงตามัน มันได้กระทำภารกิจจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว

บุรุษทั้งสองถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน แม้แต่ถุงสมบัติของพวกมัน และกระดูกทั้งหมดก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป

สิ่งใดๆ ที่เคยคงอยู่ของพวกมันถูกลบล้างไปโดยสิ้นเชิง

ที่ห่างไกลออกไป บุรุษชุดดำคนแรกยังคงต่อสู้กันอย่างวุ่นวายกับจระเข้ เมื่อมันได้เห็นสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ ก็ต้องตื่นตระหนกขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อและหวาดกลัว

“นั่นคือไฟอะไรกัน!?!?”

มันไม่เคยคาดคิดเลยว่าบุคคลที่มันกำลังมาโจมตีนี้จะน่ากลัวถึงเพียงนี้ เพื่อที่จะสังหารเขา สหายของมันสองคนที่อยู่ในเซียนขั้นเจ็ดทั้งคู่ ต้องถูกสังหารไป และยังได้พยายามบังคับให้ตนเองต้องจบชีวิตลงไป ด้วยการทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง

เปลวไฟเหล่านั้นทำให้ใบหน้าของบุรุษชุดดำคนแรกต้องซีดขาวไปโดยสิ้นเชิง จิตใจมันเต้นรัว ตอนนี้มันยิ่งมีความตกใจไปมากกว่าก่อนหน้านี้ และรู้สึกยินดีที่ไม่ได้รีบร้อนโจมตีไปเมื่อครู่นี้ ไม่เช่นนั้นมันก็คงจะตายไปแล้วในตอนนี้

“เมิ่งฮ่าวผู้นี้โหดเหี้ยมอย่างแท้จริง! มันให้ร่างจำแลงระเบิดตนเองไปเพื่อสังหารศัตรูของมัน! ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะความเด็ดเดี่ยวของมัน คนทั้งสองก็คงจะสามารถหลบหลีจากไปได้แล้ว ด้วยพื้นฐานฝึกตนของพวกมัน ก็ไม่ควรที่จะถูกทำลายไปทั้งร่างกายและวิญญาณเช่นนั้น”

“ถ้าเด็กผู้นี้ไม่ได้พบจุดจบแต่เนิ่นๆ มันก็คงจะต้องมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้าอย่างแน่นอน!”

“น่าเสียดายที่มันได้ตายไปแล้ว!” สีหน้าละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของมัน ขณะที่ต่อสู้อยู่กับจระเข้ มันก็มองไปยังตะเกียงสัมฤทธิ์ ซึ่งมีทั้งเศษชิ้นเนื้อและโลหิตกำลังวางซ้อนทับอยู่ ด้านข้างเป็นถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าว

“ของวิเศษนั้นเป็นของข้าแล้วในตอนนี้! รวมทั้งกระถางสายฟ้าที่มีพลังเคลื่อนย้ายนั้นด้วย!”

“ตอนนี้ข้าก็จะได้ความดีความชอบในการสังหารเมิ่งฮ่าวไปทั้งหมด!” อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เองที่สีหน้าตื่นเต้นของมัน จู่ๆ ก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เป็นไปไม่ได้!”

ในตอนนี้เองที่เศษชิ้นเนื้อของร่างกายเมิ่งฮ่าวได้เริ่มก่อตัวกลับเข้ามาอยู่ด้วยกัน กลิ่นอายอันเก่าแก่โบราณกระจายออกไป ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นนิรันดร์ ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ เมิ่งฮ่าวก็ก่อตัวกลับมาใหม่โดยสิ้นเชิง!

ใบหน้าเขาซีดขาว แต่ดวงตาก็แวบรังสีสังหารขึ้นมา มองขึ้นไปยังบุรุษชุดดำ ด้วยใบหน้าที่เย็นชาราวน้ำแข็ง ราวกับว่าเขากำลังมองไปยังคนที่ตายไปแล้ว สีหน้าบุรุษชุดดำสลดลง ถึงแม้ว่ามันจะมีระดับพื้นฐานฝึกตนเช่นในตอนนี้ แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและต้องการจะหลบหนีจากไป แต่ก็โชคร้ายที่จระเข้ได้ขัดขวางมันไว้อย่างบ้าคลั่ง

เมิ่งฮ่าวตบไปยังถุงสมบัติเพื่อหยิบเอาเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เก็บตะเกียงสัมฤทธิ์กลับเข้าไปในถุงสมบัติ เห็นได้ชัดว่าประจุไฟที่อยู่ด้านในเริ่มสลัวเลือนลางลงไปมากขึ้น มันอาจจะใช้ได้อีกเพียงแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งเท่านั้น

หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อย เมิ่งฮ่าวก็มองไปยังจุดที่ร่างจริงที่สองทำการระเบิดตนเอง เขาโบกสะบัดมือทำให้เศษเลือดเนื้อทั้งหมดลอยตรงมา วิญญาณแห่งเซียนแท้ยังไม่ได้กระจัดกระจายไปจนหมดสิ้น แต่ก็ลดลงไปหนึ่งในสิบส่วนจากพลังดั้งเดิมของมัน ทั้งหมดที่เหลืออยู่เป็นเศษชิ้นเนื้อ ซึ่งภายในมีจิตมารที่รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น จนดูคล้ายกับเป็นหัวใจสีดำ

หลังจากที่ผนึกมันไว้และเก็บเข้าไปในถุงสมบัติ เมิ่งฮ่าวก็มุ่งหน้าตรงไปยังจระเข้และบุรุษชุดดำ

เขาได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมากในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ก็มีชีวิตรอดมาได้เพราะอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ถ้าเขาไม่ยอมสละร่างจริงที่สองเมื่อครู่นี้ เขาก็ต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอนในตอนนี้

บุรุษชุดดำมองมายังเขา จิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมิ่งฮ่าวดูคล้ายกับเป็นอสูรโบราณขณะที่เขาค่อยๆ ใกล้เข้ามา

บุรุษชุดดำเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก มันได้รับบาดเจ็บไปแล้ว จิตใจตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย ขณะที่จระเข้จู่ๆ ก็กัดลงไปที่ขาข้างขวาของมัน ทำให้เสียงแตกร้าวดังกระจายออกมา เมื่อขาของมันแหลกละเอียดไป ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวมาถึง กระแสน้ำวนสีแดงปรากฏขึ้นที่ด้านล่างเท้าของเขา กระแสน้ำวนนั้นมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดูคล้ายกับเป็นทะเลแห่งโลหิต

“อย่าเข้ามาใกล้มากไปกว่านี้!” บุรุษชุดดำแผดร้องคำราม พยายามจะล่าถอยออกไป แต่จระเข้ก็ตรึงมันไว้ และมันก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ในตอนนี้มันไม่อาจจะปลดปล่อยพลังพื้นฐานฝึกตนออกมาได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้มันอยู่ในระดับเซียนขั้นห้าเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงมาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ทะเลโลหิตที่ด้านล่างขยายขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายทะเลแห่งโลหิตก็พุ่งพล่านปั่นป่วน จนกลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ ห้อมล้อมอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว จนกระทั่งไม่อาจจะมองเห็นเขาได้อีกต่อไป

ตูม!

บุรุษชุดดำขยับมือร่ายเวท ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา กระแทกเข้าไปในทะเลแห่งโลหิต ซึ่งเริ่มแยกออกจากกัน แต่จากนั้นก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ ใบหน้าบุรุษชุดดำกลายเป็นสีขาวซีด ขณะที่มันขยับมือร่ายเวทและโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง มันพยายามจะล่าถอยจากไป แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บจากจระเข้อยู่ตลอดเวลา

ความต้องการต่อสู้ของมันได้หายไปนานแล้ว เมื่อได้เห็นสหายสองคนตกตายไปอย่างค่อนข้างจะง่ายดาย และจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็กลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ทำให้มันรู้สึกตกใจอย่างรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่ามันจะโจมตีไปอย่างไร ก็ไม่อาจจะทำลายกระแสน้ำวนทะเลแห่งโลหิตของเมิ่งฮ่าวได้ ทุกครั้งที่กระแสน้ำวนเริ่มแยกออกจากกัน มันก็จะฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่อึดใจกระแสน้ำวนทะเลแห่งโลหิต ก็พุ่งไปถึงร่างบุรุษชุดดำ และจากนั้นก็เริ่มปกคลุมมันไว้ภายใน

เสียงระเบิดดังก้องออกไป ตามมาด้วยเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนของบุรุษชุดดำ กระแสน้ำวนพังทลายลงไป และจากนั้นก็ระเบิดขึ้น ทุกครั้งที่มันพังทลายลง ก็จะก่อตัวขึ้นมาใหม่ จนกระทั่งในที่สุด เสียงแผดร้องนั้นเริ่มแผ่วเบาลง หลังจากธูปไหม้หมดหนึ่งดอกผ่านไป เสียงร้องนั้นก็จางหายไป

หลังจากนั้นทะเลแห่งโลหิตก็เริ่มหดตัวเล็กลง กลายเป็นเมิ่งฮ่าวขึ้นมาอีกครั้ง ที่เบื้องหน้าเขาเป็นซากศพที่แห้งเหี่ยวของบุรุษชุดดำ ซึ่งจ้องมองขึ้นไปข้างบนด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าเบิกกว้าง เลือดเนื้อ, พื้นฐานฝึกตน และแม้แต่วิญญาณของมัน ถูกดูดออกไปจนเหือดแห้ง

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวมีสีเลือดขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ลอยตัวอยู่ที่นั่นในท่ามกลางหมู่ดาว หลับตาลง หลังจากที่ผ่านไปนาน ก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ ดูท่าทางเหนื่อยล้า แต่ภายในความเหนื่อยล้านั้นมองเห็นความต้องการสังหารอยู่ข้างใน

“อย่างที่คาดไว้…เป็นตระกูลฟางจริงๆ!!” ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็ใช้หนึ่งในความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของรูปแบบสุดท้ายเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต เป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวที่อาจจะมีผลกระทบถึงแก่ชีวิต ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นในการใช้มันออกมา

มันเป็นความสามารถที่ทำให้เขาสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากภายนอก จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงไม่เคยใช้มันมาก่อน ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ช่วยให้เขาสามารถดูดซับความทรงจำของเหยื่อได้ทั้งหมด

“หึ หึ ช่างเป็นตระกูลที่ดีจริงๆ ข้ายังไปไม่ถึง พวกมันก็ส่งคนมาสังหารข้าแล้ว…”

“มีใครบางคนไม่ต้องการให้ข้ากลับไปยังตระกูลฟางแบบมีชีวิตอยู่…”

“โชคร้ายที่ใครบางคนได้ใช้วิชากวาดล้างความทรงจำไปบนผู้ฝึกตนชุดดำนี้ ทำให้ไม่อาจจะรู้ว่าใครเป็นคนออกคำสั่งให้มาสังหารข้า เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นหวาดกลัวข้าอย่างแท้จริง” เมิ่งฮ่าวยิ้มออกมา ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวก็ตามที

ในตอนนี้ เขาไม่ได้เป็นเมิ่งฮ่าวที่พร้อมด้วยบิดาและมารดา คอยแต่พึ่งพาความช่วยเหลือของพวกท่านอีกต่อไป เขาได้กลับมาเป็นตัวของตัวเอง เต็มไปด้วยความป่าเถื่อนโหดร้าย ที่พึ่งพาแต่เพียงตนเองเท่านั้น

“ยิ่งมีใครบางคนไม่อยากให้ข้ากลับไปแบบมีชีวิตอยู่ ข้าก็ยิ่งต้องการจะไปยังตระกูลฟางมากขึ้นเท่านั้น” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาแวบขึ้นด้วยความต้องการสังหารอันเข้มข้น อย่างช้าๆ รังสีสังหารได้จางหายไปในซอกหลืบส่วนลึกของจิตใจ เขาเปิดถุงสมบัติของบุรุษชุดดำออก แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ข้างในนอกจากเป็นยานบิน

ยานบินนั้นใช้งานด้วยหินลมปราณ และสามารถนำเมิ่งฮ่าวผ่านหมู่ดาวเหล่านี้ไปได้ ตราบเท่าที่เขายังมีหินลมปราณอยู่ มันน่าจะใช้งานได้ แต่เนื่องจากคุณภาพในสร้างขึ้นมาของมัน และเวทมนต์ที่ต้องใช้ควบคุม ทำให้ประสิทธิภาพของมันมีจำกัด อย่างไรก็ตามหินลมปราณคุณภาพสูงก็สามารถจะทำให้มันเคลื่อนที่ไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่เห็นยานบินนี้ เมิ่งฮ่าวก็ตรวจสอบมันโดยละเอียด เมื่อเห็นว่าไม่ใช่เป็นกับดักหรือมีอันตรายใดๆ ซุกซ่อนอยู่ เขาก็ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ประทับลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกสะบัดมือ ทำให้ยานบินมีขนาดใหญ่มากขึ้น เมื่อมันมีความยาวถึงสิบจ้าง เขาก็ลงไปนั่งที่ด้านใน จากนั้นก็สะกดข่มความรู้สึกเจ็บปวดใจไว้ วางหินลมปราณระดับสูงลงไปบนพื้นผิวของลำยาน เสียงกระหึ่มได้ยินขึ้นมา และตัวยานก็เริ่มเคลื่อนที่ตรงไป

ในเวลาเดียวกันนั้น อีกตำแหน่งหนึ่งในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว บุรุษชุดดำอีกคนที่มีพื้นฐานฝึกตนอยู่สูงกว่าอาณาจักรเซียน จู่ๆ ก็หยุดชะงักนิ่ง ยกมือขวาขึ้นมา และแผ่นหยกที่แตกกระจายไปสามชิ้นก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ

“ตายไปแล้ว? ข้าส่งคนทั้งสามไปสังหารผู้ฝึกตนอาณาจักรวิญญาณ แต่พวกมันก็จบลงด้วยการถูกสังหารไป…? มีใครบางคนสอดมือเข้ามาหรือไม่?” หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ บุรุษชุดดำก็มุ่งหน้าต่อไปด้วยความรวดเร็ว ด้วยความตั้งใจที่จะค้นหาเมิ่งฮ่าวด้วยตัวเอง

“เพื่อที่จะสังหารเมิ่งฮ่าว จู่ซ่าง (นายท่าน) ยังได้ส่งคนมารบกวนความคิดของสือจิ่วกงจื่อ (คุณชายที่สิบเก้า) อีกด้วย ทั้งหมดนั้นก็เพื่อโอกาสนี้ ต้องไม่มีความล้มเหลวใดๆ เกิดขึ้น เมิ่งฮ่าว…ต้องตาย! มันต้องไม่มีชีวิตรอดไปยังดาวตงเซิ่งได้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!