ตอนที่ 900
ซานเหยียเยี่ย
“หลายปีก่อน ท่านปรมาจารย์ที่ไปนั่งเข้าฌาณอยู่ตามลำพังในตอนนี้ ได้กล่าวไว้ว่าผลเนี่ยผานนี้จะต้องส่งคืนให้กับฮ่าวเอ๋อร์ เมื่อมันกลับมายังตระกูล สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของมัน ก็จะเป็นของมันตลอดไป!”
“ไม่สำคัญว่ามันเพิ่งจะมาถึง หรือยังไม่คุ้นเคยกับตระกูลหรือไม่ หรือว่าพื้นฐานฝึกตนของมันยังไม่อยู่ในขั้นที่เหมาะสมที่จะดูดซับผลเนี่ยผานไว้ได้ หรือว่ามันยังไม่ได้กระทำความดีใดๆ ให้กับตระกูล!”
“แต่…มันคือหลานปู่คนโตของสายโลหิตหลัก และเคยเป็นบุตรอันเจิดจ้าของตระกูลฟางในครั้งหนึ่ง มันต้องอดทนต่อความยากลำบากมามากมายในหลายปีที่ผ่านมานี้ ด้วยเช่นนั้นเมื่อมันกลับมายังตระกูลแล้วในตอนนี้ สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ก็เหมือนกับว่าไม่เคยจะเกิดขึ้นมาก่อน!”
“ผลเนี่ยผานทั้งสองผลนี้เป็นของมัน!”
“วันนี้ เหล่าฟูจะส่งมอบผลเนี่ยผานให้กับมัน! ถ้าท่านปรมาจารย์ออกมาจากการเข้าฌาณในวันข้างหน้า และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เหล่าฟูจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดเอง!” คำพูดของผู้เฒ่าสูงสุดกล่าวออกมาด้วยความแน่วแน่เด็ดขาด และใบหน้าก็เคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพูดเกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อในอดีต มันก็ต้องถอนหายใจออกมา
ผู้อาวุโสมากมายที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ และบางคนที่มาจากสายโลหิตหลัก ตอนแรกก็ดูเหมือนว่าจะตกตะลึง แต่จากนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เมิ่งฮ่าวกำลังหอบหายใจ ขณะที่มองไปยังผู้เฒ่าสูงสุดที่กำลังกล่าวคำพูดอันอบอุ่นขึ้น เขาไม่เคยคาดคิดว่าผู้เฒ่าสูงสุดจะกล่าวคำพูดเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายด้วยเช่นกัน
“อย่าบอกนะว่า…ข้าเข้าใจผิดมาโดยตลอด? เป็นไปไม่ได้! มันต้องมีบางสิ่งมากไปกว่านั้น” เมิ่งฮ่าวคิด สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และทำจิตใจให้เยือกเย็นลง
“ฟางฮ่าว!” ผู้เฒ่าสูงสุดกล่าวขึ้นในทันที ดวงตาสาดประกายขึ้นขณะที่มองมายังเมิ่งฮ่าว “จดจำไว้ เจ้าคือคนของตระกูลฟางตลอดไป สายโลหิตของตระกูลฟางไหลเวียนอยู่ทั่วร่างเจ้า เจ้าสามารถเลือกอนาคตของตัวเองได้ แต่ไม่อาจจะเลือกเกิดได้!”
“เจ้า…แซ่ฟาง!”
“พวกเราเหล่าผู้อาวุโสอายุมากแล้ว และท่านปรมาจารย์ก็ยิ่งแก่ชรามากขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าพวกท่านจะยังคงมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ แต่ก็คงจะตายไปในที่สุด แต่เจ้า…เจ้าคือดวงตะวันอันเจิดจ้าในวันข้างหน้าของตระกูลฟาง! เจ้าคือความหวังแห่งอนาคต”
“เจ้าต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อฝึกตน วันที่เจ้าจะเติบโตขึ้นกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่ขยายกิ่งก้านยืดยาวขึ้นไปในวรรค์จะต้องมาถึงอย่างแน่นอน!” ผู้เฒ่าสูงสุดฟางตงเทียนดูเหมือนจะตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย มันยกมือขึ้นไป ประสานเข้าด้วยกัน จากนั้นก็โค้งตัวลงไปยังด้านหลังของวิหาร
“ท่านปรมาจารย์ที่เคารพ วันนี้ข้า, ฟางตงเทียน ได้ขอให้สมาชิกของตระกูลทั้งหมดเหล่านี้มาช่วยเป็นสักขีพยาน ในการส่งมอบผลเนี่ยผานให้กับฟางฮ่าว!” ด้วยเช่นนั้น มันก็ยกมือขวาขึ้นไปในอากาศ และทำท่าคว้าจับ
ทันใดนั้น เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจก็เต็มอยู่ในท้องฟ้า ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในกลางอากาศ ขณะที่กระแสน้ำวนนั้นหมุนวนไปมา ก็ค่อยๆ เผยให้เห็นที่อยู่อาศัยของเทพเซียนบางอย่าง
มองเห็นเจดีย์สูง กำลังส่องแสงอันเจิดจ้าไร้ขอบเขต กลายเป็นจุดสนใจของสายตาทุกคู่ เมื่อสมาชิกตระกูลฟางที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นมองเห็นเจดีย์ ก็เริ่มร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
“มันคือเจดีย์วิเศษบรรพบุรุษ!!”
“ในตระกูลฟาง มีแต่ของวิเศษอันล้ำค่าเท่านั้นที่จะถูกเก็บไว้อยู่ภายในเจดีย์วิเศษบรรพบุรุษนี้!!”
“ตัวเจดีย์เองก็เป็นของวิเศษอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจากท่านปรมาจารย์รุ่นแรก!”
“ถึงแม้ว่าสวรรค์และปฐพีจะถูกทำลายลงไป แต่เจดีย์วิเศษบรรพบุรุษนี้จะยังคงอยู่ต่อไป แม้แต่ท่านผู้เฒ่าสูงสุดก็สามารถจะควบคุมและดึงเอาสิ่งของมาได้อย่างจำกัด เมื่อท่านพูดถึงชื่อสิ่งของ เจดีย์ก็จะส่งของสิ่งนั้นออกมา”
เมิ่งฮ่าวแทบไม่อยากจะเชื่อ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้แตกต่างไปจากความคิดเห็นของเขาโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาเคยคาดคิดไว้ ตอนนี้จิตใจเขากำลังเริ่มเต้นรัวด้วยความตกตะลึง
เขามีความเชื่อมั่นต่อวิจารณญาณของตนเอง แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้ยากที่จะเชื่อถือได้
ผู้เฒ่าสูงสุดสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็ขยับมือร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ ในที่สุดก็ร้องตระโกนขึ้นว่า “เจดีย์วิเศษบรรพบุรุษ ได้โปรดส่งมอบผลเนี่ยผานออกมา!”
ฉับพลันนั้น เสียงกระหึ่มก็ได้ยินมา และสำแสงอันเจิดจ้าก็พุ่งออกมามากยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น กล่องหยกก็ลอยออกมาจากเจดีย์ ในชั่วพริบตา มันก็พุ่งออกมาจากกระแสน้ำวน และตกลงไปอยู่ในมือของผู้เฒ่าสูงสุด
หลังจากนั้น กระแสน้ำวนที่ด้านบน ก็ค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ ปิดบังเจดีย์วิเศษไว้ ทำให้หายลับตาไปในที่สุด
เมิ่งฮ่าวกำลังหอบหายใจออกมา ขณะที่จ้องมองไปยังกล่องหยก แม้แต่ในตอนนี้ เขาก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เฒ่าสูงสุด จะส่งมอบผลเนี่ยผานให้กับเขาอย่างง่ายดายเช่นนี้
เขาคิดว่าคงจะเป็นเรื่องยากที่จะได้มันมา แต่ก็กลายเป็นว่าเหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง
ผู้เฒ่าสูงสุดเปิดกล่องออกโดยไม่ลังเล และยกมันขึ้นไปให้กลุ่มคนในตระกูลทั้งหมด ที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นสามารถมองเห็นได้
ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็มองเห็นผลไม้ที่แห้งเหี่ยวอยู่สองผล พวกมันแห้งมากจนดูเหมือนว่าแม้แต่สายลมเพียงแผ่วเบา ก็อาจจะทำให้พวกมันต้องจางหายไป ทันทีที่เขามองเห็นพวกมัน โลหิตของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นมา เกิดความรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังถูกเรียกอยู่ ฉับพลันนั้นเขาก็สามารถบอกได้ว่านี่คือ ผลเนี่ยผานของจริง
“ผลเนี่ยผาน!!”
“หลายปีก่อน ข้าเคยเห็นผลเนี่ยผานของฮ่าวเอ๋อร์ และต้องเป็นสองผลนี้อย่างแน่นอน!”
กลุ่มคนในตระกูลสายโลหิตหลักที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นมากมาย ต่างก็ตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสือจิ่วซูของเมิ่งฮ่าว
“นั่นคือผลเนี่ยผาน!”
เมิ่งฮ่าวหอบหายใจ ขณะที่ผู้เฒ่าสูงสุดมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เจิดจ้า ทันใดนั้นความคิดก็วิ่งผ่านเข้ามาในจิตใจเมิ่งฮ่าว
“บางทีที่มันส่งมอบมาให้ข้า ก็เพื่อที่จะส่งใครบางคนมาขโมยไปจากข้า?” เมิ่งฮ่าวยังคงเชื่อมั่นต่อวิจารณญาณของตนเอง และเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เฒ่าสูงสุดจะส่งมอบผลเนี่ยผานให้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ฉับพลันนั้นผู้เฒ่าสูงสุดได้โยนกล่องหยกขึ้นไปในอากาศ ให้พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ทันทีที่เขาแตะสัมผัสโดนตัวกล่อง ก็ดูเหมือนว่าโลหิตในเส้นเลือดกำลังเดือดพล่านขึ้นมา
“ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เหล่าฟูต้องกล่าวให้พวกท่านทั้งหมดได้รับรู้” ผู้เฒ่าสูงสุดเอ่ยขึ้น มองไปรอบๆ ด้วยประกายตาที่เย็นชา “ข้าขอบอกให้ชัดเจนว่า”
“ผลเนี่ยผานเหล่านี้เป็นของฮ่าวเอ๋อร์ และตอนนี้ก็อยู่ในมือของมันแล้ว ใครบางคนอาจจะมีเจตนาร้าย แต่ในดาวตงเซิ่งทั้งหมดนี้ ทั้งนิกายเซี่ยหลัน (กล้วยไม้โลหิต) และสำนักกุ่ยเสิน (เทพหุ่นเชิด) ต่างก็ไม่กล้าที่จะมาขโมยของวิเศษอันล้ำค่าจากตระกูลฟางไป ถึงแม้ว่าในตอนนี้ฮ่าวเอ๋อร์จะเป็นผู้ครอบครองแทนที่จะเป็นตระกูลฟางก็ตามที พวกมันก็ยังคงไม่กล้า”
“สำหรับสำนักอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ที่แห่งนี้ พวกมันก็ยิ่งไม่กล้ามากขึ้นไปอีก ถ้าเป็นผู้คนที่ไม่ได้มาจากดาวตงเซิ่ง พวกเราก็มีประตูสวรรค์ตะวันออก ซึ่งสามารถคัดกรองคนส่วนใหญ่ให้ผ่านเข้ามาได้ ดังนั้นถ้าผลเนี่ยผานของฮ่าวเอ๋อร์เกิดสูญหายไป ผู้ร้ายก็จะเป็นกลุ่มคนในตระกูลฟางเท่านั้น!”
“ดังนั้นอย่าได้ตำหนิข้า สำหรับการเตือนพวกท่านทั้งหมดว่า ถ้ามีใครมาขโมยผลเนี่ยผานไปจากฮ่าวเอ๋อร์ ข้าคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามเจตจำนงของท่านปรมาจารย์ และกำจัดสายโลหิตของคนผู้นั้นไปทั้งหมด! ฟางเฮ่อซาน ขอให้สายโลหิตของเจ้าจดจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี!” เมื่อมันกล่าวคำพูดสุดท้ายออกมา ดวงตาของผู้เฒ่าสูงสุดก็สาดประกายด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่จ้องมองไปยังปู่ของฟางเว่ย ใบหน้าของชายชราดูน่าเกลียดขึ้น และมันก็ก้มศีรษะลงเพื่อรับทราบ
“กฎของตระกูลต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด วันนี้ข้าขอสาบานว่า ถ้ามีใครกล้าบังอาจมาขโมยผลเนี่ยผานของฮ่าวเอ๋อร์ ข้าจะลงมือโดยไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าข้ามีความคิดที่เห็นแก่ตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ใดๆ ก็ขอให้สวรรค์ทำลายวิญญาณของข้าไปให้หมดสิ้น!” ทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของมัน เสียงกระหึ่มกึกก้องของสายฟ้าสาบานก็ได้ยินขึ้นมาจากด้านบน บ่งชี้ให้เห็นว่ามันกำลังสาบานด้วยเต๋าของตนเอง
สมาชิกของตระกูลคนอื่นๆ ต่างก็สั่นสะท้านใจ ก่อนหน้านี้ มีใครบางคนแอบคิดร้ายอยู่ในใจจริงๆ แต่ในตอนนี้จิตใจอันชั่วร้ายนั้นได้หายไปโดยสิ้นเชิง
จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านมากยิ่งขึ้น เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้จริงๆ แต่ความจริงก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าแล้ว และผู้เฒ่าสูงสุดก็ยังได้กล่าวคำสาบานออกมาอีกด้วย
“บางทีข้าอาจจะคิดผิดไปจริงๆ…แต่ทำไมข้ายังคงรู้สึกว่าผู้เฒ่าสูงสุดกำลังเสแสร้งอยู่…สิ่งที่มันกล่าวมาทั้งหมดนี้ อะไรคือความจริง อะไรคือเรื่องหลอกลวง?” เมิ่งฮ่าวคิด ไม่พูดอะไรออกมา สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เก็บผลเนี่ยผานไว้ จากนั้นก็โค้งตัวลงต่ำให้กับผู้เฒ่าสูงสุด
ผู้เฒ่าสูงสุดมองมายังเมิ่งฮ่าว รอยยิ้มใจดีมีเมตตาของมันกว้างมากขึ้นกว่าเดิม กล่าวขึ้นเป็นเสียงดังว่า
“ฮ่าวเอ๋อร์ ข้าได้จัดการเรื่องเม็ดยาสลายรุ้งเซียนเรียบร้อยแล้ว เจ็ดเม็ดถือว่ามากไปจริงๆ ดังนั้นเจ้าจะได้รับทั้งหมดห้าเม็ด!”
“สำหรับถ้ำแห่งเซียน เจ้าสามารถจะขอเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ ไม่สำคัญว่ามันจะถูกจัดการไปแล้วหรือไม่ เหล่าฟูมีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องเหล่านี้!” จิตใจของกลุ่มคนในตระกูลที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นสั่นสะท้าน
ตอนนี้พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยแววตาที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
“พวกเจ้าทั้งหลายไปได้แล้ว” ผู้เฒ่าสูงสุดกล่าว โบกสะบัดมือ “ฮ่าวเอ๋อร์ เจ้ามากับข้า” ขณะที่มันนำเมิ่งฮ่าวเข้าไปที่ด้านในวิหาร กลุ่มคนในตระกูลที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดก็ระเบิดเป็นเสียงพูดคุยกันขึ้นมา เหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ แน่นอนว่าจะต้องแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งตระกูลในช่วงเวลาสั้นๆ
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และสะกดข่มความสงสัยไว้ ขณะที่ติดตามผู้เฒ่าสูงสุดเข้าไปในวิหาร
วิหารเงียบสงบ และไม่มีใครอยู่ที่ด้านในนอกจากเมิ่งฮ่าวและผู้เฒ่าสูงสุด
ทันทีที่คนทั้งสองอยู่ด้านใน ผู้เฒ่าสูงสุดก็หันหน้ามามองยังเมิ่งฮ่าว สีหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชมและรำลึกถึงความหลัง ราวกับว่าการมองมายังเมิ่งฮ่าว ทำให้มันต้องหวนรำลึกไปถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อในอดีต
“ท่านผู้เฒ่าสูงสุด…” เมิ่งฮ่าวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
“เมื่อไม่มีใครอยู่รอบๆ เจ้าสามารถเรียกข้าว่าซานเหยียเยี่ย (ท่านปู่สาม)” ผู้เฒ่าสูงสุดกล่าว “ปู่ของเจ้าคือพี่ใหญ่ของข้า และมันก็เคยมีตำแหน่งเป็นผู้เฒ่าสูงสุดมาก่อน แต่มันก็หายสาบสูญไป เอ้อร์เหยียเยี่ย (ท่านปู่สอง) ของเจ้าและสายโลหิตของมันต่างก็ไม่ดี…” มันถอนหายใจออกมา
“ดังนั้นท่านปรมาจารย์จึงขอให้ข้ารับตำแหน่งผู้เฒ่าสูงสุด ตระกูลฟางไม่มีผู้นำตระกูล และเมื่อท่านปรมาจารย์กำลังนั่งเข้าฌาณตามลำพัง ผู้เฒ่าสูงสุดก็จะเป็นผู้รับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูล”
“ข้า…ก็เป็นคนในสายโลหิตหลักเช่นเดียวกัน” มันกล่าวอย่างเงียบๆ “ปู่ของเจ้าและข้า เป็นพี่น้องสายโลหิตเดียวกัน”
“อย่างไรก็ตาม เมื่อข้าต้องมารับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้เฒ่าสูงสุด ข้าก็ต้องวางตัวให้เป็นกลางไม่ขึ้นกับสายโลหิตใดๆ ข้าต้องดูแลกิจการของตระกูลทั้งหมด จึงต้องรักษาสมดุลย์ของสายโลหิตที่แตกต่างกันทั้งหมด”
“มีอยู่หลายสิ่งที่ข้า…ไม่มีพลังเพียงพอ จิตใจข้ายึดมั่นต่อสายโลหิตของพวกเรา แต่ตำแหน่งข้าบังคับให้ต้องวางตัวเป็นกลาง การตัดสินใจทั้งหมดของข้า…ต้องสอดคล้องกับกฎของตระกูล!”
“นี่คือโอกาสที่ข้าสามารถใช้สิทธิ์และตัดสินใจด้วยตนเอง เพื่อส่งมอบผลเนี่ยผานให้กับเจ้า!” ผู้เฒ่าสูงสุดมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความเมตตา แทบจะราวกับว่ามันกำลังมองดูหลานของตัวเอง
“ข้าไม่มีบุตร เมื่อปู่ของเจ้าคือพี่ใหญ่ที่เป็นสายโลหิตเดียวกันกับข้า ก็หมายความว่าหลานของมันก็คือหลานของข้าด้วยเช่นกัน”
“ท่านผู้เฒ่าสูง…” แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวเริ่มพูดออกมา ผู้เฒ่าสูงสุดก็ถลึงตาใส่ เมิ่งฮ่าวรีบกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว “ซานเหยียเยี่ย!”
จิตใจเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เขายังคงรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องกำลังเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะค้นหาได้ว่าอะไรที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเช่นนี้
“ฮ่าวเอ๋อร์ ผลเนี่ยผานทั้งสองนี้มีอายุสองสามร้อยปีแล้วในตอนนี้ และได้เหี่ยวแห้งมานานแล้ว แต่พวกมันก็เป็นของวิเศษอันล้ำค่า ที่ก่อตัวขึ้นมาจากสายโลหิตของตระกูลฟาง ดังนั้นพวกมันจะไม่แห้งเหี่ยวตลอดไป ตราบเท่าที่เจ้ามีน้ำยาวิญญาณสกัดบางส่วน เจ้าก็สามารถจะเปลี่ยนให้พวกมันกลับไปเหมือนกับในตอนแรกได้”
“ต่อจากนั้นเจ้าต้องฝึกฝนผลเนี่ยผานนี้ทุกวัน หลอมรวมน้ำยาวิญญาณสกัดเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพราะว่าพวกมันเป็นของเจ้า เจ้าจึงสามารถจะดูดซับผลเนี่ยผานนี้เข้าไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อไหร่ที่เจ้าดูดซับพวกมัน…พื้นฐานฝึกตนของเจ้าก็จะก้าวหน้าขึ้นแบบก้าวกระโดด เจ้าสามารถจะกลายเป็นผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งในตระกูลฟางได้อย่างง่ายดาย และกลายเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้าเหมือนที่เจ้าเคยเป็นมาก่อน!”
“จดจำไว้ว่าเจ้าต้องดูดซับพวกมันให้รวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่อาจจะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูล แต่ยิ่งเจ้ารอนานมากเท่าใด ก็จะยิ่งมีคนไม่หวังดีมาทำร้ายเจ้ามากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อไหร่ที่เจ้าดูดซับพวกมันเข้าไป คนเหล่านั้นก็ไม่อาจจะทำอะไรได้อีก”
“ฮ่าวเอ๋อร์ จดจำไว้ ดูดซับพวกมันให้เร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซานเหยียเยี่ยแค่ถ่วงเวลาให้เจ้าได้บ้าง แต่เกรงว่าคงจะได้ไม่นานมากนัก”
เมิ่งฮ่าวพยักหน้ารับทราบ ครุ่นคิดด้วยจิตใจที่เต้นรัว
“น้ำยาวิญญาณสกัด…เป็นไปได้หรือไม่ว่า สิ่งที่ข้ารู้สึกสงสัย มีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับน้ำยาวิญญาณสกัด?”
“ยังมีอีกเรื่อง” ผู้เฒ่าสูงสุดกล่าว “น้ำยาวิญญาณสกัดที่เจ้าต้องใช้ในการให้ผลเนี่ยผานดูดซับ ต้องใช้โลหิตของเจ้าเป็นส่วนผสม นั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถจะทำได้ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ต้องกังวลในแง่ของรูปลักษณ์ใดๆ เช่นนี้เป็นอย่างไร ข้าสังเกตเห็นว่าถ้ำแห่งเซียนที่เจ้าเลือกมีสวนต้นสมุนไพรอยู่ด้วย ข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเต๋าแห่งการปรุงยา”
“ทำไมเจ้าถึงไม่ไปยังแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาของตระกูลฟาง เจ้าสามารถใช้คะแนนความดีของเจ้าไปรับต้นสมุนไพรและสูตรวิญญาณสกัดมาได้ วิญญาณสกัดสามารถปรุงขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจะทำให้ตัวเจ้ามีความปลอดภัยมากขึ้น” ดูเหมือนว่าคำพูดของผู้เฒ่าสูงสุดจะมีความจริงใจเป็นอย่างยิ่ง บางทีสิ่งที่มันกล่าวออกมาเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ผลลัพธ์ก็คือว่า ความคิดทั้งหมดของเมิ่งฮ่าวกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ