ตอนที่ 901
การตรวจสอบอย่างละเอียด
เมิ่งฮ่าวประสานมือและโค้งตัวลงให้กับผู้เฒ่าสูงสุดอย่างเงียบๆ มันกำลังมองมาด้วยรอยยิ้มที่มีเมตตาขณะที่เมิ่งฮ่าวเดินจากไป
ในที่สุดผู้เฒ่าสูงสุดก็อยู่ในวิหารเพียงคนเดียว อย่างช้าๆ ท่าทางใจดีมีเมตตาก็ค่อยๆ จางหายไป ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เยือกเย็นสงบนิ่ง ลึกลงไปในดวงตาของมัน ความเย็นเยียบอย่างน่ากลัวแวบขึ้น เป็นบางสิ่งที่ไม่มีใครจะสามารถรับรู้ได้
มันหันหลัง และมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของวิหาร
เสียงอันเย็นชา จู่ๆ ก็ดังก้องออกมาจากภายในวิหาร ทำให้ผู้เฒ่าสูงสุดต้องหยุดชะงักนิ่งไปชั่วขณะ
“ขอบคุณ”
“ข้าไม่ได้กำลังช่วยเจ้า” ผู้เฒ่าสูงสุดกล่าวตอบ “ข้าเพียงแต่ทำตามกฎของตระกูล ทั้งหมดนั้น…ก็เพื่อตระกูลทั้งสิ้น!”
เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงอันเจิดจ้าพุ่งผ่านคฤหาสน์โบราณไป จนกระทั่งบรรลุถึงถ้ำแห่งเซียนของตัวเอง ทันทีที่เขาย่างเท้าเข้าไปในลานบ้าน ก็มองเห็นฟางซีกำลังนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ อยู่ที่เบื้องหน้าของผีโต้งและนกแก้ว
เมื่อได้เห็นมันกำลังหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่เช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็เดินผ่านพวกมันไป นั่งลงขัดสมาธิอยู่ในที่พัก ดวงตาสาดประกาย หยิบเอากล่องที่บรรจุผลเนี่ยผานออกมา และมองลงไป
“คิดไม่ถึงว่า…ผู้เฒ่าสูงสุดจะส่งมอบมันมาให้กับข้าจริงๆ…”
“ดูเหมือนว่าสิ่งที่มันกล่าวมาไม่ใช่เรื่องหลอกลวง แต่ข้าก็ยังคงไม่อาจจะสลัดความคิดที่ว่า…ต้องมีอะไรมากไปกว่านั้น สิ่งที่มันกล่าวมาเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น”
เมิ่งฮ่าวไม่ได้แสดงท่าทีหวาดระแวงใดๆ หลังจากที่ก้าวเข้ามาในโลกแห่งการฝึกตน สิ่งต่างๆ มักจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง รู้ดีว่าถ้าไม่ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เขาก็คงจะต้องถูกกำจัดไปได้อย่างง่ายดายมาหลายครั้งแล้ว
เขายังคงตระหนักว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย เมื่อมาอยู่ในตระกูลฟางแห่งนี้เช่นกัน ถ้าไม่ได้ระมัดระวังในทุกสิ่งทุกอย่าง เขาก็คงจะพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันน่ากลัวได้อย่างง่ายดาย
“ต้องมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับผลเนี่ยผานนี้!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกาย เขายังคงเคร่งครัดต่อวิจารณญาณเกี่ยวกับผู้เฒ่าสูงสุดของตนเองในตอนแรก ไม่ว่าชายชราจะกล่าวอะไรออกมาก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงมันได้ ในที่สุดเขาก็มองลงไปยังกล่องหยก และเปิดมันออกอย่างช้าๆ
แรงกดดันอันบางเบาเริ่มกระจายออกมาจากภายในกล่อง ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังผลไม้ที่แห้งเหี่ยวสองผลที่ด้านในอย่างครุ่นคิด แต่ละผลมีขนาดเท่ากำปั้นของเด็กทารก
โลหิตในร่างเขาพุ่งขึ้นมา สายโลหิตที่มีการเชื่อมต่อกับผลเนี่ยผาน ทำให้จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็เกิดความรู้สึกไม่แน่ใจแวบขึ้นมาเกี่ยวกับวิจารณญาณของตนเอง
“นี่คือผลเนี่ยผานที่แท้จริง พวกมันกำลังกระตุ้นโลหิตที่อยู่ภายในร่างข้าอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่า…พวกมันเป็นผลเนี่ยผานที่ข้าสร้างขึ้นมาจากเมื่อหลายปีก่อนโน้น”
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าข้าคิดมากเกินไปจริงๆ?” เมิ่งฮ่าวถอนหายใจและจากนั้นก็หยิบเอาหนึ่งในผลเนี่ยผานขึ้นมาอย่างช้าๆ ทันทีที่เขาแตะสัมผัสมัน โลหิตก็มีปฏิกิริยารุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่ามันเฝ้ารอที่จะได้ดูดซับผลเนี่ยผานนี้มานาน เขาวางมันอยู่ตรงหน้า และมองไปอย่างละเอียด
“ข้าต้องใช้น้ำยาวิญญาณสกัดเพื่อเปลี่ยนให้ผลเนี่ยผานนี้กลับไปสู่สภาพเดิมของมัน เมื่อถึงตอนนั้นข้าก็สามารถจะดูดซับพวกมันเข้าไปได้…” เมิ่งฮ่าวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง และจากนั้นก็เริ่มวางผลเนี่ยผานกลับเข้าไปในกล่อง ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้น มือของเขาก็หยุดชะงักนิ่ง และแสงอันเจิดจ้าก็ปรากฏขึ้นในดวงตา
“ไม่ถูกต้อง กลิ่นอายแห่งกาลเวลาของผลเนี่ยผานนี้…ไม่ใช่เพียงแค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น!!” เมิ่งฮ่าวหอบหายใจ ค่อยๆ ยกผลเนี่ยผานกลับขึ้นมา และจ้องไปที่มันอย่างละเอียด หลังจากที่ผ่านไปนาน สีหน้าเคร่งขรึมก็เต็มอยู่บนใบหน้า
เมิ่งฮ่าวเคยฝึกฝนเวทแห่งกาลเวลามาก่อนเมื่อในอดีต และได้ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่มีเวลาเป็นหลักสำคัญ ดังนั้นจึงมีน้อยคนนักที่จะสามารถรับรู้ได้ถึงเรื่องของเวลาได้อย่างถูกต้องแม่นยำเช่นเดียวกับเขา ถึงแม้ว่ากลิ่นอายของผลเนี่ยผานนี้จะเจือจางอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่พวกมันก็ถูกเก็บไว้ในกล่องหยกเป็นอย่างดี เนื่องจากเช่นนั้น กลิ่นอายแห่งกาลเวลาก็ยังคงอยู่ที่นั่น และถึงแม้ว่ามันแทบไม่อาจจะตรวจจับได้ แต่เมิ่งฮ่าว…สามารถรับรู้ได้!
นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครจะสามารถคาดคิดได้ แม้แต่ผู้เฒ่าสูงสุดก็ตามที
“ถึงเวลาแล้วที่จะค้นหาว่าผลเนี่ยผานนี้จริงๆ แล้วมีอายุมากเท่าใดกัน!” เมิ่งฮ่าวขยับร่ายเวทด้วยมือขวา ปลดปล่อยเวทกาลเวลาออกมา เขาสร้างเครื่องหมายผนึกขึ้นมา และจากนั้นแสงแห่งการพยากรณ์ก็มองเห็นได้ในแววตา ขณะที่เขาค่อยๆ ลอกชั้นแห่งความลี้ลับที่อยู่รอบๆ ผลเนี่ยผานออกไป
หนึ่งร้อยปี สองร้อยปี สามร้อยปี…
หนึ่งชั่วยามผ่านไป หลังจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็เริ่มสูดหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง
“หนึ่งหมื่นปีแล้ว!” ในตอนนี้ เขาสามารถจะสรุปได้อย่างมั่นใจแล้วว่า ผลเนี่ยผานนี้ไม่ใช่ของเขา แสงอันเย็นชาแวบขึ้นมาในดวงตา หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาก็ใช้เวทกาลเวลาต่อไป เพื่อดูว่าผลเนี่ยผานนี้มีอายุเท่าไหร่กันแน่
หนึ่งหมื่นห้าพันปี สองหมื่นปี สองหมื่นห้าพันปี…
ถ้าเมิ่งฮ่าวไม่ได้มีพลังเซียนแท้แปดในสิบส่วน และมีชีพจรเซียนอยู่ภายในร่างแปดในสิบส่วนด้วยละก็ เขาคงไม่อาจจะใช้เวทกาลเวลาให้ยืดขยายออกไปได้อย่างยาวนานเช่นนี้เป็นแน่ ในที่สุดดวงตะวันก็ตกลงไป และดวงจันทร์ก็ลอยสูงขึ้นมาในท้องฟ้า แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว เขาใช้พื้นฐานฝึกตนไปจนแทบจะหมดสิ้น…อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงอายุที่แท้จริงของผลเนี่ยผานนี้ได้อย่างคร่าวๆ
“มากกว่า…หนึ่งแสนปี!!”
เมิ่งฮ่าวหอบหายใจ ความไม่อยากจะเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้า จากนั้นเขาก็มองไปยังผลเนี่ยผานผลที่สอง จากความรู้สึกของเขา ทั้งสองผลนี้ดูเหมือนกันเป็นอย่างยิ่ง
“พวกมันทั้งสองมีอายุมากกว่าหนึ่งแสนปี!”
“นี่ไม่ใช่ผลเนี่ยผานของข้า! พวกมันเป็นของใคร?” ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น และในตอนนี้เขามีความเชื่อมั่นในวิจารณญาณของตัวเองเพิ่มมากขึ้น ผู้เฒ่าสูงสุดต้องมีเจตนาร้าย ในการส่งมอบผลเนี่ยผานนี้มาให้กับเขาอย่างแน่นอน
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่น้ำยาวิญญาณสกัด หรือว่าคำพูดที่มันกล่าวออกมา แต่…ขึ้นกับสิ่งที่น่าสงสัยน้อยที่สุด…ผลเนี่ยผานนี่เอง!” สีหน้าเขาหมองคล้ำลง
“ตอนนี้เมื่อคิดไปแล้ว มีอยู่สิ่งหนึ่งที่มันเน้นย้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งดูเหมือนจะพูดออกมาด้วยความห่วงใยในตัวข้า อีกส่วนก็บอกว่าข้าต้องดูดซับผลเนี่ยผานนี้ให้รวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่คือ…ส่วนที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง!” รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว ตอนนี้เขาแน่ใจได้ว่าถ้าพยายามจะดูดซับผลเนี่ยผานนี้เข้าไป ก็ต้องพบว่าตนเองกำลังตกอยู่ในจุดวิกฤตอันร้ายแรงอย่างแน่นอน
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา เก็บผลเนี่ยผานกลับเข้าไปในกล่อง จากนั้นก็เดินออกไปที่ลานบ้าน พูดแทรกการต่อสู้ระหว่างฟางซี ผีโต้งและนกแก้วขึ้น
“ฟางซี เคยรู้หรือไม่ว่าในตระกูลมีใครเคยสร้างผลเนี่ยผานขึ้นมาบ้าง?”
“ฟางซีมีท่าทางเหน็ดเหนื่อยโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าประกายแห่งความดื้อรั้นและความตื่นเต้น จะมองเห็นได้จากแววตาของมัน แต่เมื่อได้ยินคำถามของเมิ่งฮ่าว มันก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มีแต่ดอกเนี่ยผานเท่านั้น แต่นั่นเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ คนที่เคยสร้างผลเนี่ยผานขึ้นมาได้คือท่านเท่านั้น…อี๋? ข้าจำได้แล้ว ดูเหมือนจะมีข่าวลือบอกว่าท่านปรมาจารย์รุ่นแรกเคยสร้างผลเนี่ยผานมาก่อน เกิดอะไรขึ้น?”
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น ไม่ยอมตอบคำถามนั้นในทันที แต่เกิดความรู้สึกสงสัยเพิ่มขึ้นมามากกว่าเดิม
“ผลเนี่ยผานของท่านปรมาจารย์รุ่นแรก ต้องถูกถือว่าเป็นของวิเศษอันล้ำค่าอย่างแน่นอน ทำไมผู้เฒ่าสูงสุดถึงได้มอบพวกมันมาให้ข้า? เห็นได้ชัดว่าผลเนี่ยผานนี้เก่าแก่โบราณอย่างน่าเหลือเชื่อ มีอายุมากกว่าหนึ่งแสนปี…” เมิ่งฮ่าวคิดอยู่ภายในใจ
เข้าวันต่อมา เมิ่งฮ่าวเดินไปรอบๆ คฤหาสน์โบราณด้วยความสงสัย แต่ก็มองไม่เห็นร่องรอยความรู้สึกอยู่บนใบหน้า เขาไปพบกับคนในตระกูลไม่น้อย และไปยังอาคารบ้านเรือนที่แตกต่างกัน เขาทำอย่างดีที่สุดให้เหมือนกับคนที่หายจากตระกูลไปนานหลายปี และในที่สุดก็ได้กลับมาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น…เขากระหายใคร่รู้เกี่ยวกับข้อมูลประวัติศาสตร์เมื่อในอดีตของตระกูล
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เมิ่งฮ่าวทำดูเหมือนจะปกติธรรมดาทั่วไป ดูไม่มีพิรุธใดๆ หลายวันผ่านไป หกเจ็ดวันหลังจากนั้น ความสนใจในศาลาประวัติศาสตร์ของตระกูลในตัวเมิ่งฮ่าวดูเหมือนจะยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น
ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของตระกูลจะถูกบันทึกอยู่ที่นั่น และเมิ่งฮ่าวก็มักจะไปปรากฏตัวไล่ดูบันทึกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องแปลกใดๆ มีแผ่นหยกที่เต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อในอดีตอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปรมาจารย์ของตระกูลมากนัก ซึ่งมักจะมีคำอธิบายไว้แค่สองสามประโยคเท่านั้น
ผ่านไปครึ่งเดือน ผู้เฒ่าสูงสุดมักจะเรียกเขาไปพบด้วยความเมตตาอยู่เป็นระยะ และมักจะตักเตือนให้เขาปรุงน้ำยาวิญญาณสกัดออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจากนั้นก็ดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไป ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็สามารถจะรวบรวมชิ้นส่วนของเรื่องราว จากข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดที่เขาพบเจอ ซึ่งได้กระจัดกระจายออกไปให้มารวมกันอย่างค่อนข้างจะครบถ้วน
ตอนนี้เขานั่งขัดสมาธิอยู่ในบ้านพัก หลับตาลงขณะที่ทำการทบทวนข้อมูลทั้งหมดที่ได้รวบรวมมาในหลายวันมานี้
“ปรมาจารย์รุ่นหก มีพื้นฐานฝึกตนที่สูงส่งเป็นอย่างยิ่ง ได้ไปนั่งเข้าฌาณตามลำพังเพียงแค่วันเดียว…และจู่ๆ ก็ตกตายไป!”
“ปรมาจารย์รุ่นสิบก็ไปนั่งเข้าฌาณตามลำพังเช่นเดียวกัน…และตายไปในทันที!”
“เรื่องเช่นเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นกับปรมาจารย์รุ่นที่สิบสามและสิบหก ทั้งคู่ได้ไปนั่งเข้าฌาณตามลำพัง และจากนั้น…ก็ตายไปอย่างฉับพลัน!”
“ไม่เพียงแต่พวกท่านเท่านั้น หนึ่งแสนปีเมื่อในอดีต ยังมีผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ และสมาชิกของตระกูลอีกมากมาย ได้ไปนั่งเข้าฌาณตามลำพัง และจากนั้นก็ตายไปอย่างลึกลับ”
ข้อมูลทั้งหมดนี้ เขาได้ค้นพบอยู่ในแผ่นหยกประวัติศาสตร์ เบาะแสเล็กๆ ที่ไม่ค่อยน่าสนใจนี้ ในตอนแรกก็ดูเหมือนว่าจะเป็นข้อมูลที่ปกติธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง
แต่ถ้ามองในภาพรวมแล้ว ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นข้อมูลที่ไม่ธรรมดา ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่าเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เมื่อได้พบเห็นข้อมูลทั้งหมดนี้และรับรู้ได้ถึงเบาะแสทั้งหมด สุดท้ายความต้องการสังหารอันเข้มข้นก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ
“ประมาณสามหมื่นปีก่อน ความถี่ของการตายอย่างฉับพลันได้ลดน้อยลงไป ทุกวันนี้มันแทบจะไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย” เมื่อเมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา พวกมันก็สาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้าขึ้น
“หลังจากที่ไล่ตามดูข้อมูลมากขึ้น เกี่ยวกับบรรพบุรุษที่ได้ตายไปเหล่านั้น…มีปัจจัยอย่างหนึ่งที่ได้เชื่อมโยงพวกท่านทั้งหมดเข้าด้วยกัน บ้างก็เข้าไปยังเจดีย์วิเศษบรรพบุรุษโดยตรง บ้างก็ได้นำคะแนนความดีไปแลกเปลี่ยนเป็นของรางวัลจากเจดีย์เดียวกันนั้น”
“นั่นคือสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล ตลอดทั้งหนึ่งแสนปีที่ผ่านมา สมาชิกของตระกูลมากมายได้รับของรางวัลจากเจดีย์วิเศษบรรพบุรุษ คนเหล่านั้นคือคนที่ตายไปอย่างฉับพลัน มันดูน่าสงสัยจริงๆ แต่ก็ยากที่จะพิสูจน์ได้”
“จนกระทั่ง…” เมิ่งฮ่าวตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอาแผ่นหยกออกมา ดวงตาเริ่มสาดประกายด้วยความเย็นชาออกมา
“จนกระทั่งข้าได้พบกับข้อมูลเล็กๆ นี้ ที่เกี่ยวกับสมาชิกของตระกูลที่จู่ๆ ก็ตายไปเป็นคนสุดท้ายเมื่อสามหมื่นปีก่อน เป็นข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในสมุดประจำวันของบุตรชายมัน!”
“ก่อนที่จะตายไป มันได้บอกกับบุตรชายว่า จะไปรับสิ่งของที่เป็นของท่านบรรพบุรุษ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเมื่อในอดีตจะเคยทำได้สำเร็จมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ใครก็ตามที่พยายามจะทำสิ่งเดียวกันนี้ให้สำเร็จต้องตายไป แต่ก็มีคำพูดที่ถูกถ่ายทอดมาจากหนึ่งในบรรพบุรุษได้กล่าวไว้ว่า ถ้าใครสามารถจะดูดซับมันได้สำเร็จ ก็สามารถจะแก้ปริศนาสายโลหิตของตระกูลฟางได้!”
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และหลับตาลง หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง และประกายตาก็เยือกเย็นลงอย่างถึงที่สุด ไม่มีคลื่นแห่งความตกตะลึง หรือความประหลาดใจใดๆ ขณะที่มองลงไปยังกล่องหยก
“ถ้าการคาดเดาของข้าถูกต้อง ผู้คนเหล่านั้นถ้าไม่ใช่ทั้งหมดก็เป็นส่วนใหญ่ ได้ตายไปอย่างฉับพลันด้วยเหตุผลเดียวกันอย่างแน่นอน และเหตุผลนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นผลเนี่ยผานทั้งสองผลนี้!”
“ผลเนี่ยผานนี้…เดิมทีก็เป็นของบรรพบุรุษโบราณนั้น!” รอยยิ้มอันเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว
“ผู้เฒ่าสูงสุดกำชับให้ข้าดูดซับพวกมัน เพราะว่าต้องการให้ข้าพบกับความตายอย่างฉับพลันเช่นเดียวกัน!”
“ผู้เฒ่าสูงสุดมอบผลเนี่ยผานให้ข้าต่อหน้าคนทั้งหมด ดังนั้นมันจึงไม่เป็นความลับใดๆ คำพูดทั้งหมดที่มันกล่าวมา แม้แต่คำสาบานนั่น ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจะเปิดเผยและสัตย์ซื่ออย่างถึงที่สุด”
“ดังนั้นถ้าข้าตายไปขณะที่ทำการดูดซับผลเนี่ยผาน ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ทั้งหมดที่พยายามจะทำเช่นนั้นด้วยเช่นกัน มันไม่ต้องทำอะไรนอกจากแนะนำข้าด้วยคำพูดเหล่านั้น ถ้าจะตำหนิเรื่องการตายไปของข้า ก็จะไปลงที่ผลเนี่ยผานเท่านั้น”
“ช่างเป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบไร้รอยต่อใดๆ ข้าก็จะตายไปอย่างไร้ความหมาย และผู้เฒ่าสูงสุดก็แค่จัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ให้กับข้าเท่านั้น…” รอยยิ้มเมิ่งฮ่าวเริ่มเย็นชามากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้