บทที่ 1000 กังวล เสียใจ เหนื่อยใจ
ในขณะที่เสียงนี้เย็นเยือก ก็นำความหนาวเหน็บอย่างน่าประหลาดมาด้วย ดังขึ้นมาในหู แผ่ไปยังจิตใจ ราวแปรเปลี่ยนเป็นธารน้ำแข็ง
เหมือนว่าในวิญญาณ มีน้ำแข็งก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
น้ำแข็งนี้แผ่ซ่านความเย็นเยียบออกมาเป็นระลอกๆ ส่งผลกระทบต่อประสาทสัมผัสรับรู้ทั้งหมด ทำให้เขาทั้งคนในเสี้ยวขณะนี้เหมือนเสียความอบอุ่นทั้งหมดไป
มีเพียงความเย็นเยือกทะลุทะลวงทุกสิ่ง
ทุกคำในนั้นยิ่งราวกับคำสาป แผ่ระลอกเข้ามาในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิงพร้อมกับความเย็นเยือก พลังต้นกำเนิดเทพทั่วทั้งร่างของเขาในเสี้ยวขณะนี้สูญเสียความมีชีวิตชีวา ราวกับน้ำนิ่ง
ความเย็นภายใต้การเพิ่มระดับเป็นชั้นๆ นี้ราวกับว่าเป็นชั่วนิรันดร์
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ความคิดของสวี่ชิงเกิดการหยุดนิ่ง แต่ในเสี้ยวอึดใจก่อนความคิดจะขาวโพลน สวี่ชิงใช้ความรอบรู้แห่งเทพเส้นสุดท้ายกระตุ้นวิหคทองในร่าง
เสี้ยวขณะต่อมา เสียงร้องคำรามของวิหคทองก็ดังก้องขึ้นมาในจิตใจสวี่ชิง
เสียงนี้เหมือนการเรียกขาน
เรียกให้ดวงอาทิตย์แผ่ออกมาจากในร่างของสวี่ชิง
ดังนั้นร่างของเขาเหมือนโลก ในโลก ดวงตะวันยามรุ่งอรุณลอยสู่ท้องฟ้า สาดส่องวิญญาณ!
เปลวเพลิงสีดำปะทุทันที หลังจากเผาไหม้พื้นที่ทั้งหมด แสงเซียนดวงตะวันทมิฬ 10 กลุ่มก็ลอยขึ้นมา แผ่ประกายแสงและความร้อนอันไร้ขีดจำกัดออกมา
ในเสี้ยวขณะนี้ ดวงอาทิตย์ปรากฏในทะเลความรู้สึก ประกายแสงหมื่นจั้ง
ทันทีที่ปะทะเข้ากับความเย็นเยือกอย่างไร้รูปร่าง เสียงหัวเราะเบาๆ เสียงหนึ่งก็ดังสะท้อนข้างหูสวี่ชิง
“พี่ชายตัวน้อย คำเตือนของข้าท่านต้องจำเอาไว้นะ อีกอย่างหนึ่งสหายของท่านพูดไม่ถูก ข้าไม่ใช่ผีบ้าอะไรสักหน่อย หากเขาด่าข้าอีก ข้าจะพาเขาไปด้วยล่ะนะ”
เสียงนี้ฉายความแปลกประหลาดออกมา เหมือนความหมายล้ำลึก หลังจากดังออกมา ก็ไม่รู้ว่าเป็นพลังดวงอาทิตย์ในร่างสวี่ชิงหรือเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นเปลี่ยนใจ ความเย็นยะเยือกที่แผ่นหลังของสวี่ชิงหายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงหัวเราะข้างหูค่อยๆ จากไปไกล
เสี้ยวขณะต่อมา ความมืดมิดข้างหน้าสวี่ชิง ความหนาวเหน็บในใจ ไฟก็แผดเผามันไปโดยสมบูรณ์
ความเย็นเยือกถูกเผา ประสาทสัมผัสรับรู้กลับมาอีกครั้ง
ทันทีที่ประสาทสัมผัสฟื้นคืนตามกลับมา สวี่ชิงลมหายใจหอบถี่ พลันเงยหน้าขึ้น
ข้างหลังไม่มีอะไรทั้งสิ้น
มีเพียงเอ้อร์หนิวที่ห่างออกไปไม่ไกล ร่างกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็ง นิ่งไม่ไหวติง
แต่กลับมีความร้อนแผ่ออกมาจากร่างของเอ้อร์หนิว แผ่กลิ่นชากลุ่มหนึ่งออกมา ต้านทานกับความหนาวเหน็บ ทำให้มันค่อยๆ ละลายไป
ชานี้มาจากชาที่อวี้หลิวเฉินมอบให้ก่อนหน้านี้
พบว่าศิษย์พี่ใหญ่ทางนั้นตอนนี้ไม่เป็นอะไร สวี่ชิงสะกดระลอกคลื่นในใจ ควบคุมเรือศึกบรรพกาลทะยานไปอย่างเร็วรี่ ในที่สุดหลังจากนั้น 1 ก้านธูป ก็อ้อมไปจากซากปรักหักพังบริเวณนี้ได้
จวบจนกระทั่งหนีไปได้ไกลมาก เขาหน้าซีดขาว หันไปมองซากปรักหักพังที่ประเดี๋ยวเลือนรางประเดี๋ยวปรากฏที่ท่วมจมไปในความมืดที่ไกลๆ ผาดหนึ่งครั้งสุดท้าย
ความระมัดระวังต่อมหาสมุทรนอกของเขายิ่งสูงมากขึ้น
“นั่นคืออะไร…เทพเจ้าอย่างนั้นหรือ”
สวี่ชิงหวาดหวั่น เขาเคยเห็นเทพเจ้ามามากมาย แต่เด็กหญิงตัวน้อยทำให้เขารู้สึกว่าเหมือนจะเกี่ยวกับเทพเจ้า แต่กลับไม่ใช่เทพเจ้า
“ทั้งยังมีช่วงเวลาสุดท้าย แสงเซียนของข้าบางทีอาจจะได้ผลในระดับหนึ่ง แต่เหมือนว่า…นางจะจากไปเองมากกว่า นี่เป็นเพราะอะไร”
“ส่วนที่นางบอกว่าไม่ใช่ผีบ้าที่สหายข้าพูด…”
สวี่ชิงเงียบนิ่ง มองไปยังรูปสลักน้ำแข็งที่นายกองอยู่ผาดหนึ่ง แสงเซียนในร่างสาดออกมากระทบไปบนรูปสลักน้ำแข็ง
ก้อนน้ำแข็งค่อยๆ ละลาย หลังจากนั้น 1 ก้านธูป สุดท้ายก็ละลายโดยสมบูรณ์ ดวงตาทั้ง 2 ของเอ้อร์หนิวพลันลืมตื่นขึ้นมา เรื่องแรกที่ทำคือกลับอ้าปากแล้วพลันสูดไอเย็นที่ละลายจากก้อนน้ำแข็ง
จากการดูดซับนี้ ทั่วร่างเขาสั่นสะท้าน คิ้วและเส้นผมเกิดน้ำค้างแข็งเกาะ
ความเย็นยะเยือกเดิมเป็นวิชาในยามปกติของเขา ส่วนอันตรายครั้งนี้เหมือนว่าจะสะกดความละโมบของเอ้อร์หนิวเอาไว้ไม่ได้ ต่อให้ร่างจะมีสัญญาณว่าจะถูกผนึกแช่แข็งอีกครั้ง ขณะที่ตัวสั่นหงึกๆ เขาก็ยังจะกลืนไปความเย็นนั่นลงไป
แต่เสี้ยวขณะต่อมา เอ้อร์หนิวสีหน้าเปลี่ยนไปแล้วส่งเสียงแหวะออกมา อาเจียนอย่างบ้าคลั่ง
อาเจียนเอาเส้นผมแห้งกรอบเน่าเปื่อยนับไม่ถ้วนออกมา
เส้นผมเหล่านั้นหลังจากที่ร่วงลงมาก็แปรเปลี่ยนเป็นไอเย็นแผ่ลามไปทั่วทุกสารทิศ
จนกระทั่งอาเจียนอยู่นาน ในที่สุดหลังจากที่อาเจียนเอาเส้นผมทั้งหมดออกมา เอ้อร์หนิวในใจหวาดหวั่น นั่งลงเนื้อตัวสั่นเทาหมดแรง
“เสียทีเข้าแล้ว นี่ไม่ใช่ไอเย็น แต่เป็นปราณความตายและปราณศพผสมกัน เหม็นสุดๆ กินเข้าไปไม่มีข้อดีแม้แต่น้อย!”
“ไอ้เจ้าสิ่งนั้นคือผีบ้าอะไรกัน…”
เอ้อร์หนิวกุมท้อง มองไปทางซากปรักหักพังข้างหลัง ยังพูดไม่ทันจบ สวี่ชิงก็รีบพูดทะลุกลางปล้องขึ้นมา
“นางให้ข้าบอกท่านว่า หากท่านยังด่านางอีก นางจะพาท่านไปด้วย”
เอ้อร์หนิวได้ยินประโยคนี้ สูดลงหายใจลึก หุบปากทันที
ในใจนั้นตกใจสงสัย เขานึกถึงว่าก่อนหน้านี้ในตอนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นมองมาทางนี้ ในใจของเขาก็มีคำพูดว่านี่มันผีบ้าอะไรดังขึ้นมาไปตามสัญชาตญาณจริงๆ…
“หรือว่าเป็นเพราะประโยคนั้นในใจของข้า ดังนั้นนางก็เลยมาหรือ”
“คิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้เชียว”
เอ้อร์หนิวลังเล
และในตอนนี้ คนที่ลังเลสงสัยยิ่งกว่าเอ้อร์หนิวคืออวี้หลิวเฉิน
องค์ท่านซ่อนอยู่ในมิติ จ้องมองซากปรักหักพังผืนนั้น สีหน้าเคร่งเครียด
สิ่งที่ปรากฏนดวงตาองค์ท่านไม่ค่อยเหมือนภาพที่สวี่ชิงและนายกองเห็น
ซากปรักหักพังผืนนั้นไม่ใช่ซากปรักหักพัง
แต่เป็นเส้นผมนับไม่ถ้วนขดรวมอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเส้นผม…
ความเน่าเปื่อย แห้งกรอบ กลิ่นเหม็นเน่า แผ่ลามออกมาจากที่นี่
ส่วนเด็กหญิงตัวน้อย นั่นเป็นเส้นผมจำนวนมหาศาลรวมเข้าด้วยกันถักทอออกมา แผ่ความชั่วร้ายมหาศาล กำลังมองอวี้หลิวเฉินอยู่
“ก็ไม่รู้เป็นความพิเศษของสวี่ชิง หรือความพิเศษของเอ้อร์หนิวถึงได้ดึงดูดสิ่งนี้…”
อวี้หลิวเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เลือกที่จะปรองดอง ดังนั้นจึงแบ่งพลังต้นกำเนิดเทพเศษเสี้ยวหนึ่งออกมา แปรเปลี่ยนเป็นถ้วยชา แล้วส่งมาออกไปลอยอยู่ข้างหน้าเด็กหญิง
“เชิญดื่มชา”
เด็กหญิงฉีกยิ้ม ทั่วร่างแผ่เส้นผมจำนวนมหาศาลออกมา หลังจากพันรัดถ้วยชา ถึงได้ผสานไปในกลุ่มเส้นผมซากปรักหักพังอีกครั้ง หายลับไป
เช่นนี้เอง เวลาหมุนไปอีกครั้ง
เอ้อร์หนิวแม้จะอาเจียนออกมามากมาย แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าท้องไม่ดี ในเวลาครึ่งเดือนหลังจากนั้น ทั่วทั้งร่างของเขาล้วนเป็นสีดำ อีกทั้งบนร่างยังมีเส้นผมเน่าเปื่อยงอกออกมาด้วย
ในตอนที่สาหัสที่สุดคือเส้นผมปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง แม้ว่าถอดเสื้อผ้าไปแล้ว แต่ก็ทำให้คนรู้สึกเหมือนว่าใส่เสื้อขนสัตว์อยู่
อีกทั้งจะตัดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด
แต่ต้องพูดถึงจิตใจของเอ้อร์หนิว ช่างเหนือกว่าคนปกติทั่วไปจริงๆ นอกจากทีแรกที่กลัดกลุ้มนิดๆ ในหลายวันนี้หลังจากนั้นเขาก็เหมือนชินแล้ว กระทั่งว่าภาคภูมิใจนิดๆ ด้วย
“อาชิงน้อย ข้ารู้สึกว่าเส้นผมพวกนี้มีพลังการป้องกันที่ไม่ธรรมดาเลย หลังจากปกคลุมทั่วทั้งร่างก็เท่ากับสวมชุดเกราะเส้นผม!”
“อีกทั้งยังอบอุ่นมากๆ อีกด้วย!”
“ไม่เลวๆ รอให้ยาวอีกสักหน่อยค่อยหาวิธีตัด ส่งไปให้เผ่าอาภรณ์ถักทอให้ข้าสักหน่อย ถึงตอนนั้นเอาไปขาย ไม่แน่ว่าอาจจะขายได้ราคามหาศาลเลยก็ได้!”
เอ้อร์หนิวลูบเส้นขนบนร่าง ดวงตาทั้ง 2 เป็นประกาย
“อีกทั้งข้ายังพบว่า ตั้งแต่เส้นผมพวกนี้งอกขึ้นมาบนร่างข้า ตลอดเส้นทางมานี้พวกเราปลอดภัยไปมาก เจ้าดูสิจนถึงตอนนี้ พวกเราไม่เจออันตรายอะไรอีกเลย…”
“น่าเสียดายที่พลังกดดันที่นี่รุนแรงสาหัสมาก ลอยอยู่บนอากาศได้ไม่นานเท่าใด ไม่เช่นนั้นพวกเราบินอยู่ข้างบนจะเดินทางได้เร็วอีกนิดหนึ่ง”
สวี่ชิงขี้เกียจไปสนใจคำพูดพล่ามเพ้อของเอ้อร์หนิว ตัวเองหลับตานั่งสมาธิ ส่วนเอ้อร์หนิวทางนั้นกำลังจะโอ้อวดต่อ
แต่ในตอนนี้เอง ดวงตาทั้ง 2 ของสวี่ชิงพลันลืมตื่นขึ้น เอ้อร์หนิวเองเสียงก็เงียบนิ่งไปเช่นกัน
พวกเขาต่างมองไปทางที่ไกล
ฟ้าดินในที่ไกลลิบจากเรือศึกบรรพกาล แต่เดิมมืดสนิทไปทั้งผืน แต่ตอนนี้กลับมีดวงอาทิตย์ดวงหนึ่ง…ลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ
ดวงอาทิตย์ดวงนั้นยิ่งใหญ่อีกทั้งทรงพลังมหาศาล ทันทีที่ปรากฏขึ้น ท้องฟ้าสว่างไสว ผิวน้ำก็เกิดระลอกคลื่น สะท้อนดวงอาทิตย์มหึมาออกมา ทำให้มหาสมุทรสาดประกายแสง สาดส่องไปทั่วทุกทิศ
แสงนี้เป็นสีเลือดราวดวงอาทิตย์ยามพลบค่ำ
สวี่ชิงในใจสั่นสะท้าน เอ้อร์หนิวก็ดวงตาเบิกกว้าง ไม่นานนักพวกเขาก็พบว่า สิ่งที่ลอยขึ้นบางทีอาจจะไม่ใช่ดวงอาทิตย์
เพราะ…อีกทิศทางหนึ่ง ตอนนี้มีดวงอาทิตย์ดวงที่ 2 ลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ
ยังไม่จบแค่นั้น ที่ไกลออกไป มีดวงที่ 3 ปรากฏขึ้น
จากนั้นดวงที่ 4, 5, 6,…ฟ้าดินสว่างขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย ในเวลา 1 ก้านธูป ก็มีดวงอาทิตย์ 30 กว่าดวง ลอยขึ้นฟ้าทั้งหมด!
ต่างมีแสงในตัว แสงอ่อนแสงแรงกล้าต่างกันไป
อีกทั้งแสงที่สาดออกมาไม่อาจปกคลุมได้กว้างไกลมากนัก ปกคลุมไม่ทั่วทั้งมหาสมุทรนอก ทำได้เพียงสาดส่องพื้นที่บางส่วนเท่านั้น
ส่วนความร้อนที่ส่งมา กลับไม่มีแม้แต่น้อย
สิ่งที่ยิ่งแปลกประหลาดคือดวงอาทิตย์ที่ลอยขึ้นมาเหล่านั้นทยอยกันตกลงมาอย่างรวดเร็ว ผ่านกันไปอย่างไร้กฎเกณฑ์ ประเดี๋ยวลอยขึ้นฟ้า ประเดี๋ยวจมสู่ทะเล
ดังนั้นมหาสมุทรนอกที่อยู่ในบริเวณมัน แสงประเดี๋ยวสว่าง ประเดี๋ยวมืด
ไอพลังประหลาดเข้มข้นขึ้น กลิ่นอายเทพเจ้าเหนียวข้นขึ้นเรื่อยๆ
จวบจนกระทั่งเสี้ยวขณะต่อมา ในตอนที่จิตใจของสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวต่างอยู่ในระลอกคลื่นอารมณ์รุนแรง ในดวงอาทิตย์ 30 กว่าดวง ดวงที่อยู่ใกล้กับพวกเขามากที่สุด บริเวณใจกลางก็พลันปริร้าวเป็นรอยแยกทางหนึ่ง
จากนั้นลอยแยกก็ลามออกไป แล้วลืมขึ้นมา
ราวกับดวงตาดวงหนึ่ง!
พูดให้ถูกต้องคือ นั่นเป็นดวงตาข้างหนึ่งจริงๆ
เหมือนว่าลืมตาขึ้นมาจากห้วงนิทรา ตอนนี้จ้องมายังเรือศึกบรรพกาลที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่
ในพริบตาที่สายตาจับจ้อง เรือศึกบรรพกาลส่งเสียงดังกึกก้อง เริ่มพังทลาย ความบิดเบี้ยวที่แผ่ออกมาจากสายตานี้ส่งผลต่อสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวทันที
ร่างของเขาเกิดการกลายพันธุ์ทันที
ท่ามกลางความหวาดกลัว เอ้อร์หนิวสั่นสะท้านเล็กน้อย เสียงก็แหลมเล็กขึ้นมาเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
“อาชิง รีบระบำบวงสรวงตามข้า นี่เป็นความฝันของเทพเจ้าองค์ใดไม่รู้ เทพองค์นี้น่ากลัวมาก ขนาดฝันยังเป็นจริงไปแล้วครึ่งหนึ่ง!!”
ขณะพูด เอ้อร์หนิวก็ร่ายระบำขึ้นมาทันที เส้นผมทั่วทั้งร่างถูกเขาสะบัดไปมา ร่ายระบำระบำบวงสรวงที่ถวายแด่เทพเจ้าโดยเฉพาะออกมา
ปากยิ่งร่ายพึมพำ ร่ายบทบวงสรวง
สวี่ชิงไม่กล้าชักช้า ลุกขึ้นทันที ระบำบวงสรวงพร้อมกับนายกอง
สำหรับความฝันของเทพเจ้า เอ้อร์หนิวที่ชาติที่แล้วเป็นมหานักร่ายระบำของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา เห็นได้ชัดว่าเชี่ยวชาญยิ่งกว่า ตอนนี้ขณะที่ร่ายระบำ ดวงตาที่เหมือนดวงอาทิตย์ดวงนั้น ก็หยุดนิ่งกลางท้องฟ้า คล้ายว่าถูกดึงดูด
เวลาผ่านไปทีละนิดๆ หลังจากนั้น 3 ชั่วยาม ดวงตามหึมาข้างนั้นก็ค่อยๆ หลับตาลงไป พร้อมๆ กับดวงตาดวงอาทิตย์ดวงอื่นๆ จมลงไปในทะเล หายลับไป
สวี่ชิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย รีบควบคุมเรือศึกบรรพกาลที่พังเสียหาย ออกห่างจากพื้นที่บริเวณนี้อย่างรวดเร็ว จมไปในความมืดมิดอีกครั้ง
นานจากนั้น หลังจากที่สัมผัสได้ว่าไม่มีสิ่งประหลาดอื่นๆ สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวบนเรือศึกบรรพกาลก็ถอนหายใจโล่งอกพร้อมกัน ทั้ง 2 มองหน้ากัน ต่างหัวเราะเสียงขื่นออกมา
“อาชิงน้อย เจ้าว่าอวี้หลิวเฉินนั่นยังอยู่ไหม”
“ที่นี่ข้ารู้สึกว่าอันตรายเหลือเกินแล้ว ข้าเดาว่าอวี้หลิวเฉินน่าจะตกได้ปลาแล้ว ไม่งั้น พวกเรากลับไปดีหรือไม่”
สวี่ชิงครุ่นคิด หลังจากมองไปรอบๆ ก็พยักหน้า
“พวกเราเดินทางกลับไป หากผู้อาวุโสอวี้หลิวเฉินไม่ยอม ก็คงจะปรากฏตัวมาบอก…”
“ใช่แล้ว หากองค์ท่านไม่ปรากฏตัวก็หมายความว่าองค์ท่านอนุญาตให้พวกเราจากไป” เอ้อร์หนิวเห็นด้วยโดยเร็ว ทั้ง 2 คนหลังจากมองหน้ากันอีกครั้ง ก็เปลี่ยนทิศทางของเรือศึกบรรพกาลโดยไม่ลังเล พุ่งไปยังมหาสมุทรใน
และตอนนี้ อวี้หลิวเฉินที่พวกเขาคิดถึงกำลังอยู่ใต้ทะเล…
ใต้ทะเล ดวงอาทิตย์ 30 กว่าดวงที่จมลงไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ฟื้นฟูกลับมาเป็นรูปร่างแบบเดิมแล้ว รวมอยู่ด้วยกันแน่นขนัด
นี่เป็นดวงตามหึมา 30 กว่าดวงจริงๆ อีกทั้งระหว่างพวกมันยังมีเส้นด้ายบางๆ รางเลือนจำนวนหนึ่งเชื่อมต่อกันอยู่
ดูแล้วเหมือนพวงองุ่น
กำลังจ้องมองอวี้หลิวเฉิน
อวี้หลิวเฉินเงียบนิ่ง
ในใจขององค์ท่านเริ่มด่าสาปส่งแล้ว
มหาสมุทรนอก องค์ท่านไม่ได้มาครั้งแรก ก่อนหน้านี้องค์ท่านมาสำรวจอยู่หลายครั้ง
แม้มหาสมุทรนอกจะลึกลับ อีกทั้งหลายๆ พื้นที่ต่อให้เป็นองค์ท่านยังรู้สึกว่าอันตราย แต่มหาสมทุรนอกจะอย่างไรก็กว้างใหญ่ ภายใต้ความยิ่งใหญ่นี้ ทำให้องค์ท่านขอแค่ไม่มุ่งไปยังจุดลึก ก็น้อยนักที่จะพบเจอกับตัวตนที่องค์ท่านจะต้องเชิญให้ดื่มชา
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
เด็กหญิงตัวน้อยพูดได้ว่าบังเอิญ แต่ท่านที่อยู่ข้างหน้านี้ องค์ท่านจำได้ว่าปกติล้วนพักผ่อนอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทรนอก แต่วันนี้กลับมาปรากฏตัวที่นี่
ต้องรู้ว่าที่นี่ห่างจากส่วนลึกไกลโขนัก…
นับได้ว่าเป็นพื้นที่มหาสมุทรใกล้กลางมหาสมุทรนอก
“ข้าพาพวกเขามา แม้จะเพื่อล่อเหยื่อ แต่นี่…ทำไมล่อเหยื่อมามั่วๆ แบบนี้เล่า!”
อวี้หลิวเฉินเอือมระอา ในใจถอนหายใจ ยกมือสะบัด เอาถ้วยชาออกมาส่งออกไป
“เชิญดื่มชา”
ดวงตาที่เหมือนพวงองุ่นต่างหรี่ลง ยืดรยางค์ที่เหมือนกิ่งไม้ออกมา ม้วนรัดไปบนถ้วยชา จากนั้นก็ค่อยๆ จมลึกไปยังใต้ทะเล จากไปไกลหายลับไป
อวี้หลิวเฉินเหนื่อยใจ
สัมผัสได้ว่าพวกสวี่ชิงจากไปไกล องค์ท่านลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปขัดขวาง
“มหาสมุทรใกล้ก็มหาสมุทรใกล้แล้วกัน หวังว่าช่วงเวลาต่อจากนี้จะสุขสงบสักหน่อย ล่อเทพแท้จริงที่กลับมาองค์นั้นได้ ข้าสัมผัสได้ว่า ท่านนั้น…ขยับแล้ว”
“อีกทั้งยังอ่อนแรงเป็นอย่างมาก…”
ในใจอวี้หลิวเฉินเกิดความคาดหวังขึ้นมา
เพียงแต่ความคาดหวังของเขาแตกต่าง มีความแตกต่างไปจากความจริงอย่างมหาศาล คล้ายว่าเทพเจ้าที่มีพลังอำนาจเทพเป็นเรื่องราว อยู่ที่มหาสมุทรนอก เรื่องขององค์ท่านก็ได้รับผลกระทบ บิดเบี้ยวไปเช่นกัน
เหตุผล อาจจะเป็นหลายวันหลังจากนั้น คำพูดประโยคหนึ่งของเอ้อร์หนิวบนมหาสมทุรนอกที่เงียบสงัดก็เป็นได้
“อาชิงน้อย หลายวันนี้ข้าได้ย้อนความจำ เด็กหญิงตัวน้อยทางนั้นเพราะข้าด่าในใจประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นดวงอาทิตย์ทางนั้นก็เหมือนว่าเป็นเพราะข้าบอกว่าพวกเราปลอดภัยมากๆ…”
บนเรือศึกบรรพกาล เอ้อร์หนิวสีหน้าเคร่งเครียด มองไปทางสวี่ชิง
“ข้ารู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล!”
“ที่มหาสมุทรนอกผืนนี้เหมือนว่าคำพูดของข้าก็ก่อเป็นพลังน่าอัศจรรย์!”
“หรือตำนานเก่าแก่โบราณจะเป็นความจริง”
สวี่ชิงมองไปทางเอ้อร์หนิว สีหน้าก็เปลี่ยนมาเคร่งขรึมจริงจัง เพราะตลอดทางมานี้ ความจริงเขาก็มีความคิดคล้ายๆ กัน เพียงแต่สิ่งที่คิดไม่ใช่เพราะศิษย์พี่ใหญ่ แต่เป็นเพราะฐานะของวิหคทองของตน
เขามักรู้สึกว่า หลังจากที่เข้ามาในมหาสมทุรนอกแล้ว มีสายตาเก่าแก่คู่หนึ่ง จ้องมองประเดี๋ยวเลือนรางประเดี๋ยวปรากฏมาที่ตน
ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเอ้อร์หนิว สวี่ชิงถามขึ้นประโยคหนึ่ง “ตำนานอะไรหรือ”
เอ้อร์หนิวสูดลมหายใจลึก “ในตำนาน มหาสมุทรนอกมีเจ้านาย เจ้านายคนนี้รูปโฉมงามสง่า เป็นที่ 1 ในฟ้าดิน บุคลิกท่วงท่าไม่ธรรมดา สนมนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังทรงพลังดั่งปฐมกาลและเก่าแก่ กว้างใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ แต่แล้ววันหนึ่ง องค์ท่านรู้สึกเบื่อหน่ายกับความไร้เทียมทานของตน จึงไปจากมหาสมุทรผืนนี้”
“ก่อนจากไป เขาทิ้งประโยคหนึ่งเอาไว้ ในยามที่ข้ากลับมา เทพไท้ทั้งหลายต้องมาคารวะข้า”
เอ้อร์หนิวกระแอมออกมาทีหนึ่ง
สวี่ชิงทีแรกยังฟังอย่างตั้งใจ แต่ไม่นานนักเขาก็ฟังความไม่ชอบมาพากลออก “ศิษย์พี่ใหญ่ ตำนานที่ว่านี้มาจากไหนหรือ”
“ข้าพูดเองแหละ” เอ้อร์หนิวหัวเราะฮี่ๆ สะบัดๆ เส้นผมบนร่าง
“ก็แค่ล้อเล่นน่า ฮ่าๆ ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เราจิตใจตึงเครียดกันเกินไปแล้ว วางใจๆ ข้าคำนวณเส้นทางในตอนมาแล้ว มหาสมุทรแถบนี้พวกเราก่อนนี้ผ่านมาก่อน ปลอดภัย…”
เอ้อร์หนิวพูดยังไม่ทันจบก็เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงขึ้นทันที!
พื้นที่ที่พวกเขาอยู่แถบนี้พลันมีเสียงระเบิดกึกก้องดังมา ในมหาสมุทรนอกอันเงียบสงัดแห่งนี้ ช่างโดดเด่นและผิดปกตินัก
อีกทั้งผิวน้ำก็ยิ่งมีคลื่นลูกมหึมาซัดขึ้น
ราวคลื่นยักษ์
นี่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเช่นกัน
สวี่ชิงในใจสั่นสะท้าน เอ้อร์หนิวทางนั้นดวงตาเบิกกว้าง สูดลมหายใจลึก
ทั้ง 2 ไม่ลังเลแม้แต่น้อย รีบควบคุมเรือศึกบรรพกาลลอยขึ้นฟ้าชั่วคราว หลบหลีกคลื่นบนผิวน้ำ แต่เสี้ยวขณะต่อมา…ผิวน้ำบริเวณนี้ก็พุ่งขึ้นฟ้ามา!
หากมองลงไปจากท้องฟ้าสูง เช่นนั้นตอนนี้ก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ผิวน้ำพื้นที่บริเวณนี้เป็นวงกลมลอยขึ้นมา พื้นที่กว้างใหญ่ เรือศึกบรรพกาลที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่เป็นเพียงแค่จุดจุดหนึ่งก็เท่านั้น
และทะเลทรงกลมที่ลอยขึ้นมา จากการที่ยกตัวสูงขึ้น จากความชัดเจน ก็ปรากฏเป็นถ้วยใบหนึ่ง!
พื้นที่มหาสมุทรแถบนี้เป็นทะเลกลางถ้วย
ปีศาจทะเลหลายแขนที่มีขนาดเทียบได้กระทั่งมณฑลหนึ่ง ปรากฏเงาร่างบางส่วนออกมาบนทะเล
น่าหวาดหวั่นครั่นคร้าม สั่นสะท้านฟ้าดิน
องค์ท่านใหญ่โตโอฬารเหลือเกิน!
แขนทุกข้างขององค์ท่านล้วนถือวัตถุบางอย่างเอาไว้ วัตถุที่มือข้างหนึ่งในนั้นถือเอาไว้ ก็คือ…ทะเลถ้วยที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่นั่นเอง
ตอนนี้กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า
สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวในใจสายฟ้าฟาดผ่า ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย
และเห็นได้ว่าตัวตนของพวกเขา สำหรับปีศาจทะเลน่ากลัวตนนั้นช่างเล็กจ้อยไร้ค่าที่จะพูดถึง ประดุจฝุ่นธุลี ดังนั้นหลังจากที่ผ่านไปหลายชั่วยาม ปีศาจทะเลตัวมหึมาตนนั้นก็จมลงสู่ทะเลอีกครั้ง หายลับไป
สิ่งที่จมลงไปด้วยยังมีถ้วยใบนั้น
บนเรือศึกบรรพกาล สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวหน้าขาวซีด
ในมิติที่ไกล อวี้หลิวเฉินก็หน้าขาวซีดเช่นกัน
“พวกเขา 2 คนมีปัญหามากๆ ไม่เช่นนั้น เหยื่อล่อเล็กจ้อยแค่นี้ไม่มีทางล่อตัวตนเก่าแก่โบราณแบบนี้ออกมาได้เลย!”
“จริงอยู่ที่ข้าพาพวกเขามาล่อเหยื่อ แต่ไม่ใช่มาตกปลาแบบนี้สักหน่อย!”
อวี้หลิวเฉินรู้สึกว่า หากปล่อยอิสระแบบนี้ต่อไป 2 คนนี้ไม่แน่ว่าอาจจะดึงดูดสิ่งที่น่ากลัวกว่านี้ออกมาก็เป็นได้ ถึงตอนนั้น ปลาของตัวเองไม่มา เหยื่อล่อปลาตลอดจนตนเองที่เป็นคนตกปลา เกรงว่า…จะดับดิ้นไปเสียก่อน
นึกได้ถึงตรงนี้ อวี้หลิวเฉินก็ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ร่างหายไปในพริบตา ในยามที่มาปรากฏตัวขึ้น ก็มาอยู่บนเรือศึกบรรพกาลที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่
หลังจากเห็นอวี้หลิวเฉิน สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวในใจเกิดระลอกคลื่นอารมณ์ ต่างรู้สึกสันหลังหวะ โค้งคารวะทันที
“ไม่ต้องทำความเคารพแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้าไป!”
“เอ๋ ไม่ใช่ให้พวกเราไปเองหรอกหรือขอรับ” เอ้อร์หนิวรีบพูดขึ้นมา
“พวกเจ้าเดินทางไปเองต่อไปเช่นนี้ ข้าเกรงว่าจะเจอตัวตนที่กลืนข้าลงไปในคำเดียว”
อวี้หลิวเฉินไม่อยากจะเสียเวลา ขณะพูดก็ยกมือสะบัด หอบสวี่ชิงและเอ้อนหนิวเหยียบย่างไปในท้องฟ้า
“ผู้อาวุโสล้อเล่นแล้ว มีผู้อาวุโสอยู่ จะไปเจอตัวตนที่กลืนกินลงไปในคำเดียวได้อย่างไร…”
เอ้อร์หนิวเพิ่งพูดถึงตรงนี้ สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก หนังศีรษะชาวาบ เขานึกถึงความน่ากลัวของศิษย์พี่ใหญ่ก่อนหน้านี้ กำลังจะเตือนอวี้หลิวเฉิน
เสี้ยวขณะต่อมา อวี้หลิวเฉินพลันเงยหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล
สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวตอนนี้ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เงยหน้ามองไป
“ฟ้าทำไมเปลี่ยนเป็นสีแดงเล่า”
เอ้อร์หนิวพึมพำ ดวงตาเบิกโพลง ลนลานโดนสมบูรณ์
“คำพูดของข้าอยู่ที่มหาสมุทรนอกเป็นแบบนี้จริงๆ หรือ”
ส่วนสวี่ชิงทางนี้นอกจากหวาดกลัวแล้ว ยังมีความรู้สึกอื่นด้วย
เขาสัมผัสได้ว่า หลังจากที่ตนก้าวเข้ามาในมหาสมุทรนอก สายตาที่ประเดี๋ยวเลือนรางประเดี๋ยวปรากฏทางนั้น ในตอนนี้เหมือนจะชัดเจนยิ่งขึ้น!
เสี้ยวขณะต่อมา ท้องฟ้าร่วงหล่น!
คล้ายว่ามีตัวตนสะท้านฟ้าสะเทือนดินอะไรอ้าปากมหึมาออก…
หรือจะพูดว่า ตัวตนท่านนี้ปากมหึมาได้อ้าไว้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้กลืนกินลงไป
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)



