Skip to content

A Will Eternal 1024

บทที่ 1024 หนึ่งเนตรผลึกน้ำ

ค่านกงของประตูแห่งเต๋ามาจากเก้าซวี! (ซวีแปลว่าความว่างเปล่า คือหนึ่งในกลุ่มดาวทั้ง 28 ของจีน ตรงกับกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำของสากล)

น้ำจากเก้าซวีเปี่ยมล้นไร้ที่สิ้นสุดอยู่ในค่านกง!

บัดนี้น้ำทะเลที่จำแลงออกมารอบกายป๋ายเสี่ยวฉุนส่งเสียงดังครืนครั่นไปทั่วแปดทิศ จำนวนของมันมหาศาลไร้ขอบเขตสิ้นสุด พลังทำลายล้างที่อยู่ด้านในไม่ได้พลุ่งพล่านรุนแรง แต่ในความทอดยาวของมันมีความนุ่มนวลยืดหยุ่นคล้ายเป็นการบีบอัดที่มากพอจะทำให้สรรพชีวิตซึ่งอยู่ด้านในหลอมละลายกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของน้ำทะเล

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอ่อนนุ่มที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับยังคงร่ายใช้หมัดจักรพรรดิมิดับสูญ อาศัยหมัดจักรพรรดิที่แข็งแกร่งและเผด็จการอย่างถึงที่สุดมารวมรวบพลังกล้ามเนื้อและพลังตบะไว้ภายใน ก่อนจะเหวี่ยงโครมออกไป!

หมัดนี้ไม่ใช่แค่ห้าเท่าอีกต่อไป แต่เป็นกี่เท่ากันแน่นั้น ป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็ไม่ได้คิดคำนวณ ความคิดเดียวของเขาในเวลานี้ก็คือต้องการต่อยให้น้ำแห่งค่านกงที่ทอดยาวไร้ที่สิ้นสุดสายนี้แตกกระจาย!

ท่ามกลางเสียงเกริกก้อง เมื่อหมัดหนึ่งของป๋ายเสี่ยวฉุนเหวี่ยงลงมา

เงาจักรพรรดิที่อยู่ด้านหลังของเขาเองก็ยกหมัดแล้วต่อยออกไปเช่นกัน!

ฟ้าดินเปลี่ยนสีในฉับพลัน ลมกระโชกแรง ชั้นเมฆสั่นสะเทือน ไอน้ำที่รายล้อมก็ยิ่งแผ่คลื่นออกไปนับหมื่นจั้ง คลื่นนี้แผ่ขยายอย่างต่อเนื่อง ยิ่งนานก็ยิ่งกว้างใหญ่ ยิ่งนานก็ยิ่งรวดเร็ว!

ในดวงตาทั้งคู่ของป๋ายเสี่ยวฉุนเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย คำรามกร้าวดังตามมา

“เพิ่มขึ้นอีกเท่า!!” ท่ามกลางเสียงคำราม หมัดจักรพรรดิมิดับสูญที่เดิมทีก็แข็งแกร่งเกินทัดทานอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่ภายใต้ความบ้าคลั่งของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยิ่งระเบิดพลังออกไปอีกคำรบ ประหนึ่งพยัคฆ์ติดปีก ดั่งหงส์กระโจนเข้ากองไฟเผาไหม้ตัวเองให้ยิ่งแกร่งกล้า!

ตูมๆๆ!

ยากที่จะบรรยายได้ว่าในหมัดนี้ซ่อนแฝงพายุที่บ้าระห่ำถึงระดับไหน ซึ่งเมื่ออยู่ภายใต้คลื่นการโจมตีที่รุนแรงอย่างถึงที่สุดนี้ น้ำทะเลที่มาจากไอน้ำทอดยาวนุ่มนวลแต่อึมครึมซึ่งเกิดจากค่านกงก็คล้ายเจอเข้ากับขีดจำกัดสูงสุดจนมิอาจแบกรับได้ไหว เสียงอื้ออึงดังซัดเป็นระลอก ครั้นจึงระเบิดออกโดยตรง!

กลายมาเป็นไอน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนที่แผ่กระจายราวกับพลิกภูเขาคว่ำมหาสมุทรไปสี่ทิศ มองไกลๆ ไอน้ำที่อบอวลอยู่บนท้องฟ้าเหนือน้ำทะเลก็ราวกับเป็นมหาสมุทรขนาดมหึมาผืนหนึ่งที่ถูกทำให้ระเหย!

โลกทั้งใบ…บัดนี้นอกจากขอบเขตของมหาสมุทรทงเทียนแล้ว พื้นที่อื่นๆ ล้วนได้รับผลกระทบ ท่ามกลางการแผ่กระจายของไอน้ำ จู่ๆ ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา!

แดนทุรกันดารเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น บริเวณโดยรอบนครจักรพรรดิขุยมีสายฝนเทกระหน่ำ หัวใจของคนนับไม่ถ้วนสั่นสะเทือนไปพร้อมกับการสั่นไหวของโลกทั้งใบ

บนมหาสมุทรทงเทียน นักพรตทงเทียนหรี่ตาทั้งคู่ลง ในใจของเขามีความเคร่งเครียดเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งของป๋ายเสี่ยวฉุนทำให้ในหัวใจเขามีความกระวนระวายผุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

“ประตูแห่งเต๋า เกิ้นกง!” (เกิ้นหรือพระราชวังเกิ้น พระราชวังเกิ้นคือหนึ่งในพระราชวังทั้งเก้า พระราชวังทั้งเก้าก็คือการที่นักดาราศาสตร์ของจีนสมัยโบราณแบ่งพระราชวังสวรรค์ออกเป็นตำแหน่งตามรูปอักษรตัวจิ่ง (井)เกิ้นเป็นตัวแทนของภูเขา รูปของแผนภูมิเกิ้นก็คือ☶)

เมื่อเห็นว่าค่านกงของประตูแห่งเต๋าถูกป๋ายเสี่ยวฉุนคลี่คลายไปได้อย่างง่ายดาย นักพรตทงเทียนก็แค่นเสียงเย็น ครั้นจึงโบกมือหนึ่งครั้งอย่างไม่ลังเล ทันใดนั้นกระบี่บินหกเล่มเบื้องหน้าเขาก็ตัดสลับกันอีกครั้ง

คราวนี้ไม่รอให้กระบี่ของนักพรตทงเทียนตัดสลับกันเป็นรูปสัญลักษณ์ของเกิ้นกงได้สำเร็จ ป๋ายเสี่ยวฉุนที่ร่างกายก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังต่อยหมัดจักรพรรดิมิดับสูญพลันกระโจนออกไป กลายร่างมาเป็นรุ้งยาวเส้นหนึ่ง ทั้งยังคล้ายดาวตกที่พุ่งเข้าหานักพรตทงเทียนด้วยเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น

และวินาทีที่ป๋ายเสี่ยวฉุนขยับเข้ามาใกล้นั้นเอง นักพรตทงเทียนก็หัวเราะหยัน มือขวายกขึ้นทำมุทรา กระบี่บินทั้งหกเล่มตัดสลับเรียงตัวกัน ยังคงเป็นสามแถวเหมือนเดิม แต่รูปภาพกลับแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้!

วินาทีที่ภาพนี้ปรากฏ ชั่วขณะที่ป๋ายเสี่ยวฉุนพุ่งวูบเข้าไปใกล้

จู่ๆ ภูเขาลูกหนึ่งก็โผล่พรวดออกมาจากความว่างเปล่าอย่างกะทันหัน แล้วดิ่งลงมากระแทกใส่ป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างแรง!

ภูเขาลูกนี้ใหญ่เกินไป ขนาดของมันหลายพันจั้ง พลังอำนาจสะท้านฟ้า ขณะที่ร่วงลงมากระแทกก็เกิดเป็นเสียงแหลมดังสะเทือนจนแก้วหูแทบดับ ป๋ายเสี่ยวฉุนหน้าเปลี่ยนสี ร้องคำรามแล้วเหวี่ยงหมัดชกออกไปอีกครั้ง หมายจะต้านทานเอาไว้ ทว่าทันใดนั้นบนท้องฟ้ากลับมีภูเขาใหญ่ลูกแล้วลูกเล่าทยอยกันจำแลงออกมา ซ้ำยังกระแทกลงเบื้องล่างอย่างพร้อมเพรียงกัน!

ภูเขาแต่ละลูกที่กระแทกลงมาใหญ่ขึ้นทุกขณะ พริบตาเดียวก็มีภูเขานับร้อยลูก กินพื้นที่ทั้งท้องฟ้า ลูกที่ใหญ่ที่สุดมากพอหลายหมื่นจั้งซึ่งทุ่มกระแทกลงมาไม่หยุดยั้ง ไม่เปิดโอกาสให้ป๋ายเสี่ยวฉุนได้หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย!

โดยเฉพาะมหาสมุทรทงเทียนเบื้องล่างที่หลังจากน้ำทะเลส่งเสียงร้องคำรามก็ถึงกับมียอดเขาหลายลูกผุดออกมาจากด้านใต้ อีกทั้งสี่ทิศก็ยังมีภูเขาปรากฏ ภูเขาที่ดูเหมือนจะเป็นสมบัติอาคมของนักพรตทงเทียนนี้ล้วนตรงดิ่งเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุน

ซ้ายขวาหน้าหลัง แปดทิศของฟ้าดิน ทุกอณูพื้นที่มีแต่ภูเขา!

ป๋ายเสี่ยวฉุนสามารถต่อยให้ภูเขาลูกหนึ่งพังทลาย แต่ชั่วพริบตากลับมีภูเขาปรากฏขึ้นมาอีกสิบลูก ร้อยลูก ต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด ยิ่งนานยิ่งขยายใหญ่ ยิ่งนานยิ่งหนักอึ้ง ยิ่งนานยิ่งแข็งแกร่ง!

ป๋ายเสี่ยวฉุนหน้าเปลี่ยนสีอย่างต่อเนื่อง ความแกร่งกร้าวของประตูแห่งเต๋าที่นักพรตทงเทียนร่ายใช้ล้วนเผยตัวออกมาหมดอย่างไร้ข้อกังขา! วิชาแห่งเต๋าในทำนองเดียวกันนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนแค่เคยเห็นจากวิชาห้าธาตุของคนเฝ้าสุสานซึ่งเอาออกมาใช้ในศึกไร้เทียมทานของแดนทุรกันดารเท่านั้น!

ป๋ายเสี่ยวฉุนสีหน้าเคร่งเครียด เลือดคงกระพันในร่างพลันเผาไหม้ เมื่อเลือดเผาไหม้ นอกร่างของเขาก็มีปราณเลือดเป็นชั้นๆ ระเบิดออกมา พริบตาเดียวปราณเลือดนี้ก็เข้มข้นจนกลายมาเป็นหมอกเลือด ในหมอกนั้นดวงตาของป๋ายเสี่ยวฉุนฉายความบ้าคลั่งและกระหายเลือด ทว่าสติของเขากลับไม่ได้หายไปอย่างในเวลาปกติ!

สำหรับวิชาพิฆาตเทพนี้ เขาสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว!

เมื่อพิฆาตเทพปรากฏ ปราณเลือดพวยพุ่งเทียมฟ้า ป๋ายเสี่ยวฉุนที่ร้องคำรามเบาๆ พลันระเบิดความเร็วสูงถึงขีดสุด หมอกเลือดก็ยิ่งแผ่กระจายเสียงดังครืนครั่นต่อเนื่อง ไม่ว่าภูเขาใหญ่เหล่านั้นจะเยื้องกรายลงมามากแค่ไหน หมอกเลือดของเขาที่อยู่ภายใต้การเผาไหม้ของเลือดคงกระพันก็ยังสามารถกลบทับพวกมันไว้ได้อย่างมิดเม้นในชั่วพริบตา

และภูเขาทุกลูกที่ถูกหมอกเลือดกลบทับก็ล้วนแตกกระจายไปในเสี้ยววินาที ประหนึ่งถูกดูดซับพลังงานทั้งหมดไป จึงสลายกลายมาเป็นเถ้าธุลีโดยตรง…

เมื่อเห็นว่าหมอกเลือดยิ่งเข้มข้นและยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่ว่าเมื่อมองไป แปดทิศของโลกใบนี้ล้วนถูกอาบย้อมให้เป็นสีชาด ส่วนภูเขาทั้งหมดก็พากันพังทลายอยู่ท่ามกลางหมอกเลือด หัวคิ้วของเทียนจุนก็ขมวดเข้าหากันน้อยๆ สะบัดปลายแขนเสื้อเป็นวงกว้างพลางแค่นเสียงเย็นชาในลำคอ

“ประตูแห่งเต๋า เจิ้นกง!” (เจิ้นหรือพระราชวังเจิ้น พระราชวังเจิ้นคือหนึ่งในพระราชวังทั้งเก้า พระราชวังทั้งเก้าก็คือการที่นักดาราศาสตร์ของจีนสมัยโบราณแบ่งพระราชวังสวรรค์ออกเป็นตำแหน่งตามรูปอักษรตัวจิ่ง (井)เจิ้นเป็นตัวแทนถึงทิศตะวันออก)

เสียงอสนีบาตระเบิดสะเทือนเลือนลั่นราวแหวกฟ้าผ่าดิน อสนีสวรรค์สีดำหลายเส้นจำแลงออกมาบนนภากาศแล้วตรงดิ่งเข้าฟาดป๋ายเสี่ยวฉุน!

เมื่อมองไกลๆ สายฟ้านั้นมีจำนวนมากจนเหมือนไม่มีขอบเขตสิ้นสุด

เหนือเกินกว่าทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมด ราวกับว่าการเปิดออกของประตูแห่งเต๋าครั้งนี้ทำให้นักพรตทงเทียนกลายมาเป็นเจ้าแห่งสายฟ้า!

วิชาแห่งเต๋าเช่นนี้ ประตูแห่งเต๋าเช่นนี้ก็คือวิชาเทียนจุนที่นักพรตทงเทียนสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง และก็เพราะวิชาประตูแห่งเต๋านี้ที่ทำให้เมื่อครั้งคนเฝ้าสุสานพูดถึงนักพรตทงเทียนต่อหน้าป๋ายเสี่ยวฉุนจึงถึงกับเคยใช้คำว่ายอดเยี่ยมเลิศล้ำมาพรรณนา!

และก็เพราะมานะคลำทางจนค้นพบวิชาเทียนจุนอันเป็นวิถีที่ยิ่งใหญ่นี้ ถึงทำให้นักพรตทงเทียนล้มล้างทั้งราชวงศ์จักรพรรดิขุยได้อย่างราบคาบ และยิ่งทำให้เขามีความมั่นใจว่าขอแค่เดินออกไปจากโลกใบนี้ได้ เมื่ออยู่ข้างนอก ตนจะต้องกลายมาเป็น…เทียนจุนที่แท้จริง ทั้งยังสามารถฝ่าทะลุไปถึงขั้นของ…บุพกาลอันสูงศักดิ์…ที่ต่อให้อยู่นอกโลกก็ยังเป็นตำแหน่งสูงสุดซึ่งหาได้ยากยิ่งกว่าขนหงส์เขากิเลน!

“ข้ามีพรสวรรค์ถึงเพียงนี้ ย่อมต้องกลายมาเป็นบุพกาลได้สำเร็จแน่นอน เหตุใดต้องมาถูกกักขังให้ใช้ชีวิตอย่างกระเสือกกระสน รอวันที่อายุขัยจะหมดสิ้นอยู่ในโลกแคบๆ ใบนี้ด้วย…ข้า…จะยอมได้อย่างไร!!” เทียนจุนคำรามกร้าว สีหน้าที่ดุร้ายของเขามีความบ้าคลั่ง พอเดินออกมาหนึ่งก้าว ท้องฟ้าก็มีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา สายฟ้าหนึ่งแสนเส้น หนึ่งล้านเส้น จนกระทั่งถึงสิบล้านเส้นล้วนระเบิดเปรี้ยงออกพร้อมกัน

ต่อให้ป๋ายเสี่ยวฉุนมีวิชาพิฆาตเทพ ต่อให้เขาฝึกตนโดยการกลืนกินสายฟ้า แต่ตอนนี้…ก็ยังมิอาจต้านทานสายฟ้าจากวิชาแห่งเต๋าของเทียนจุนได้อยู่ดี

มองอสนีสวรรค์ไร้ที่สิ้นสุดที่พุ่งเข้ามาพร้อมเสียงสะเทือนเลือนลั่น

ลมหายใจของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันหอบหนัก ความบ้าคลั่งในดวงตาเขาไม่น้อยไปกว่านักพรตทงเทียน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เก็บเอาปราณเลือดทั้งร่างกลับคืนมา แล้วจึงพลันระเบิดพลังอมตะออกมาในเสี้ยววินาที

“คาถาเช่นนี้…ข้าก็มีเหมือนกัน!” ไอสังหารในใจของป๋ายเสี่ยวฉุนรุนแรง เสียงนี้ของเขาเริ่มเปลี่ยนมาเป็นแหบพร่า เมื่อดังก้องไปสี่ทิศ มือทั้งคู่ของเขาก็ทำมุทราแล้วโบกไปรอบด้านอย่างแรง!

บทมิวางวายมีวิชาอภินิหารห้าอย่าง ส่วนบทอมตะก็มีวิชาแห่งเต๋าห้าอย่างเช่นกัน!

ป๋ายเสี่ยวฉุนในเวลานี้พลันร่ายใช้วิชาแห่งเต๋าเขย่าโลกที่เป็นของบทอมตะ ที่เป็นของตัวเขาเองออกมา…เป็นครั้งแรก!

“หนึ่งเนตรผลึกน้ำ!” เสียงของป๋ายเสี่ยวฉุนที่ดังออกมาก็ได้กลายมาเป็นเวทคาถา เสียงที่เป็นดั่งเสียงแห่งฟ้าดินคล้ายระฆังแห่งเต๋าถูกกระแทกชน จนก่อให้เกิดเป็น…เสียงสวรรค์ของวิชาแห่งเต๋า!

พริบตาเดียวมหาสมุทรทงเทียนทั้งผืน น้ำทะเลทั้งหมด…บัดนี้ล้วนเสียงส่งลั่นเปรี๊ยะๆ แล้วก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามันกลายมาเป็นทะเลผลึกใส!

ลูกคลื่นทั้งหมดเหมือนถูกปิดผนึกด้วยน้ำแข็ง กลายมาเป็นผลึกใส ทุกพื้นที่ของมหาสมุทรทงเทียนที่กว้างใหญ่ทั้งในและนอก…ล้วนเปลี่ยนมาเป็นโปร่งใสแวววาว!

ขอบเขตของมันกว้างใหญ่มากจนมองไปไม่เห็นปลายทาง เห็นเพียงว่าแผ่นดินทั้งพื้นล้วนกลายมาเป็นทะเลผลึก แสงหลากสีที่สาดสะท้อนออกมางดงามระยิบระยับ พร่างพราวจนน่าตะลึง!

แม้แต่สายฟ้าที่เยื้องกรายลงมาจากท้องฟ้าก็ยังถูกทะเลผลึกบนพื้นสะท้อนจนเกิดแสงหักเห พริบตาเดียวแสงสว่างไสวก็พร่างพราวไปหมื่นจั้ง…เสียงลั่นเปรี๊ยะๆ ระเบิดออกมาอีกครั้ง ครั้นจึงเห็นว่า…จู่ๆ ทะเลผลึกทั้งผืนกลับปริแตกแล้วกลายมาเป็นกระบี่ผลึกใสล้านเล่ม สิบล้านเล่มหรืออาจมากถึงหลายร้อยล้านเล่มที่พุ่งทะยานออกมาจากพื้นดิน!

แสงเจิดจ้าพร่างพราวส่องประกายปราณกระบี่อันแหลมคมที่คล้ายกับจะสามารถแหวกทะลวงทุกความว่างเปล่า กระบี่ผลึกใสทั้งหมดที่โผล่ออกมาจากใต้ดินพลันมารวมตัวกัน ก่อกลายเป็นพลังอำนาจน่าคร้านคร้ามที่ทำให้แปดทิศของโลกสะเทือนเลือนลั่น ซึ่งห้อตะบึงเข้าหา…นักพรตทงเทียน!!

สีหน้าของนักพรตทงเทียนแปรเปลี่ยน ไปในบัดดล!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!