ตอนที่ 1115
กบฏสายลม!
ในทันทีที่เสียงนั้นดังก้องออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็สั่นสะเทือน สีหน้าตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งหมดที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น คงต้องกล่าวย้ำว่าในอาณาจักรสายลม ของรางวัลมักจะเกี่ยวข้องกับกระแสลมปราณ ไม่เคยมีของวิเศษถูกประทานให้เป็นของรางวัลมาก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาวุธเวทนี้กลับเป็นของวิเศษโบราณ!!
ของวิเศษโบราณคืออาวุธเวทที่ถูกใช้ในอาณาจักรโบราณ ถึงแม้ว่าสิ่งของเช่นนั้นจะพบเห็นได้ทั่วไปมากกว่าของวิเศษอาณาจักรเต๋า แต่พวกมันก็ยังคงถูกถือว่าเป็นสิ่งของที่ยากจะพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างเช่น ในฐานะที่เป็นนายน้อยแห่งตระกูลฟาง เมิ่งฮ่าวมีของวิเศษโบราณในรูปแบบของจี้หยกหนึ่งชิ้น ซึ่งสามารถใช้ยืนยันตัวตนของเขาได้
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากอย่างแท้จริง ที่จะพบเห็นของวิเศษโบราณได้สักหนึ่งชิ้น
ดังนั้นเมื่อคำพูดที่บอกว่าของรางวัลคือของวิเศษโบราณดังก้องออกไปทั่วทั้งอาณาจักรสายลม คนทั้งหมดที่ได้ยินต่างก็ประหลาดใจไปตามๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกตนลำดับขั้น ซึ่งมีดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
นอกจากนั้น ตลอดทั้งการแข่งขันนี้ก็มุ่งเน้นไปที่ลำดับขั้น โดยไม่มีเป้าหมายให้พวกมันถูกสังหารไป แต่ให้พวกมันปรับปรุงและพัฒนาตนเอง ผ่านการดิ้นรนและความขัดแย้งต่างๆ
แน่นอนว่าคงมีโอกาสที่หนึ่งในพวกมันจะบังเอิญถูกสังหารไป แต่การที่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นมีหลายชีวิตก็เปิดเผยให้เห็นถึงความเป็นจริงของเรื่องนี้
ไห่เมิ่งจื้อจุนไม่ปรารถนาให้สมาชิกของลำดับขั้นถูกสังหารไปอย่างถาวร!
เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้กันได้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาและแน่นอนว่าอาจจะมีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ แต่เหตุผลที่นางให้ผู้ฝึกตนลำดับขั้นมีหลายชีวิต ก็เพื่อให้มั่นใจว่าพวกมันจะไม่ถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นจากขุนเขาแรก, เต้าเทียน ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ และด้วยเช่นนั้นเมื่อต้องต่อสู้กับผู้คน มันจึงไม่ทุ่มออกมาจนสุดตัวด้วยความตั้งใจเข่นฆ่าสังหาร แต่พยายามทำลายจิตวิญญาณของคู่แข่งไป
มันตระหนักดีว่าไห่เมิ่งจื้อจุนไม่ยอมรับการสังหารผู้ฝึกตนลำดับขั้นคนอื่นๆ ไปจริงๆ ดังนั้นมันจึงไม่พยายามจะกระทำเช่นนั้น เว้นแต่ว่าจะมีประโยชน์กับมันโดยตรง หรือว่ามันเกลียดชังคนผู้นั้นอย่างแท้จริง
“ดูเหมือนว่าอาณาจักรสายลมจะแตกต่างไปจากอดีตตามบันทึกของสำนัก…” ลำดับขั้นอันดับหนึ่งเต้าเทียนพึมพำ ตอนนี้มันอยู่ในชนเผ่าที่สี่ กำลังมองขึ้นไปในท้องฟ้า
“เป็นตงชิงที่ตายไปแล้ว ถูกสังหารโดยเมิ่งฮ่าว…คาดไม่ถึงว่าการสังหารผู้ฝึกตนลำดับขั้นในครั้งนี้ จะได้รับรางวัลเป็นของวิเศษโบราณ!”
“สังหารไปหนึ่งคน ได้รางวัลเป็นของวิเศษโบราณ ถ้าสังหารไปสองคน, สามคน หรือสังหารไปทั้งหมด จะได้รางวัลเป็นของวิเศษเต๋าหรือไม่?!”
เมื่อมันพูดประโยคสุดท้ายจบ ก็เริ่มหอบหายใจออกมา และดวงตาก็เต็มไปด้วยแสงแห่งความโลภ รังสีสังหารหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัว มันแหงนหน้าขึ้นและหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา
“ข้าชอบสิ่งที่แตกต่างไปนี้จริงๆ!” กลิ่นอายอันน่ากลัวปะทุออกมาจากร่างมัน เห็นได้ชัดว่าถูกเก็บกดไว้เป็นเวลานาน ตอนนี้เมื่อมันสามารถปลดปล่อยออกมาได้ ก็หมุนตัวและมุ่งหน้าตรงไปยังที่ห่างไกล พร้อมกับรังสีสังหารที่ระเบิดออกมา
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นคนอื่นๆ มองไปยังภาพที่ปรากฏขึ้นมานี้ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ความทะเยอทะยานพุ่งขึ้นมาในจิตใจพวกมัน แต่ในเวลาเดียวกันนั้นความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงก็พุ่งขึ้นมาด้วยเช่นกัน พวกมันทั้งหมดเริ่มหอบหายใจออกมา
ยกเว้นบุรุษวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนยอดเขากั๋วยิ่นในชนเผ่าที่สามเท่านั้น มันยิ้มน้อยๆ ออกมา
“ถึงเวลาแล้ว คาดไม่ถึงว่าเมิ่งฮ่าวจะได้ประโยชน์ไปเล็กน้อย แต่มันก็ไม่อาจจะรอดพ้นจากหายนะที่ใกล้เข้ามานี้”
ขณะที่สมาชิกลำดับขั้นคนอื่นๆ และผู้ฝึกตนจากอาณาจักรขุนเขาทะเลที่เหลือ ต่างก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วยความตกใจ มีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ที่ด้านนอกของอาณาจักรขุนเขาทะเล ในถ้ำแห่งเซียนที่อยู่ในเศษซากเซียน
หญิงสาวในชุดสีขาวกำลังนั่งขัดสมาธิเข้าฌานอยู่ ที่ด้านข้างนางคือหลี่หลิงเอ๋อร์ ซึ่งนั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่ด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นเอง หญิงสาวชุดขาวก็ลืมตาขึ้นมา และดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่งประกายขึ้นด้วยแสงอันน่ากลัว
“จักรพรรดิแห่งอาณาจักรสายลม เจ้ากล้า!?”
ในทันทีที่นางพูดจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
ในเก้าอาณาจักรแห่งท้องทะเล ซึ่งอยู่ในเก้าทะเลต่างๆ เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่คล้ายกับเป็นเสียงระเบิดได้ดังขึ้นมา เป็นเสียงที่คล้ายกับว่ามีโครงสร้างขนาดใหญ่บางอย่างกำลังพังทลายลงไป และเสียงนั้นก็ทำให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมายังทะเลทั้งหมด
เสียงนั้นดังก้องออกไปทั่วทั้งอาณาจักรแห่งท้องทะเล ทำให้ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าทั้งหมดมีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที ซึ่งตอนนี้คนทั้งหมดกำลังเฝ้ารอคอยที่จะให้อาณาจักรสายลมเปิดออกมาอีกครั้งด้วยความอดทน
“เกิดอะไรขึ้น? นี่…นี่…”
“จู่ๆ ข้าก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงอาณาจักรสายลมได้อีก!!”
“แย่แล้ว!!”
เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นมาจากอาณาจักรแห่งท้องทะเลต่างๆ ทั้งเก้าโดยไม่มีข้อยกเว้น จิ่วผอและผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าคนอื่นๆ รวมทั้งเสินซือซ่างเหริน และปรมาจารย์กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรทั้งสอง
ต่างก็เริ่มสั่นสะท้าน ในที่สุดคนทั้งหมดก็ไม่อาจจะอดทนได้อีกต่อไป และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของทุกคน
ขณะที่ดวงตาของคนทั้งหมดเบิกกว้างขึ้น เสาแห่งแสงที่พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าก็แตกกระจายไป และการเชื่อมต่อกับอาณาจักรสายลมของทุกคนก็ถูกทำลายไป
“เป็นไปไม่ได้!!” สีหน้าของเสินซือซ่างเหรินสลดลง ลุกขึ้นมายืนและมองขึ้นไปในท้องฟ้า “อาณาจักรสายลม…เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ขึ้น!! บัดซบ! การเชื่อมต่อของพวกเราถูกตัดขาดไปแล้ว!!”
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านนอกในความมืดมิดอันกว้างใหญ่ของความว่างเปล่าที่อยู่รอบๆ อาณาจักรขุนเขาทะเล ดินแดนขนาดใหญ่ของอาณาจักรสายลมกำลังสั่นสะเทือนอยู่เล็กน้อย เสียงที่คล้ายกับเสียงแตกร้าวหรือแตกกระจายดังก้องออกไป ขณะที่วงโคจรก่อนหน้านี้ของอาณาจักรทั้งหมดจู่ๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไป และเริ่มลอยตรงขึ้นไปยังสามสิบสามสวรรค์ที่ด้านบน แน่นอนว่าผู้คนที่อยู่ในอาณาจักรนี้ทั้งหมดไม่อาจจะรับรู้ได้!
ไห่เมิ่งจื้อจุนลุกขึ้นมายืนในทันที กลิ่นอายอันน่ากลัวหมุนวนไปมารอบๆ ร่าง “จักรพรรดิอาณาจักรสายลม เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!?”
นางโบกสะบัดมือขวาออกไป และทันใดนั้นถ้ำแห่งเซียนก็หายไปในทันที เมื่อปรากฏขึ้นมาใหม่ ก็ไปอยู่ในความว่างเปล่าของอาณาจักรขุนเขาทะเล จากนั้นก็เหลืออยู่เพียงแค่ภาพซ้อนทับกันเท่านั้น
ขณะที่ถ้ำแห่งเซียนได้พุ่งออกไปจากอาณาจักรขุนเขาทะเล มุ่งหน้าตรงไปยังดินแดนแห่งอาณาจักรสายลม
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นที่อยู่ในอาณาจักรสายลมต่างก็สั่นสะท้านกันทั้งหมด สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป ขณะที่จู่ๆ ก็มองเห็นรอยแตกปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่ด้านบน ลำแสงสีดำพุ่งออกมา ภายในนั้นคือขวานนักรบอันน่าตกใจ!
ขวานนักรบนั้นกระจายกลิ่นอายการฆ่าฟันอย่างไร้ขอบเขตออกมา และถูกห้อมล้อมด้วยภาพที่หมุนวนไปมาของวิญญาณอาฆาต ซึ่งส่งเสียงกรีดร้องอย่างไร้เสียงออกมา พวกมันถูกผูกมัดไว้กับขวานนักรบ และไม่อาจจะเข้าไปสู่วงจรแห่งการเกิดใหม่ได้
แรงกดดันอันน่าตกใจกระจายออกมาจากขวานนักรบ และขณะที่มันตกลงมา พื้นดินก็สั่นสะเทือน และแสงอันเจิดจ้าก็แวบขึ้นไปในท้องฟ้า
นี่คือของวิเศษโบราณ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถจะถือได้ว่า มีคุณสมบัติที่สูงเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ในท่ามกลางของวิเศษโบราณด้วยกันเอง!
ขวานเซียนเทพสวรรค์!
มันลอยลงมาอย่างช้าๆ มาอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว จนเกิดเป็นเสียงหึ่งๆ ขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น และลำคอก็แห้งผาก ขณะที่จ้องมองไปยังขวานสีดำสนิทนั้น ในที่สุดเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ยื่นมือออกไปคว้าจับมันไว้
ในทันทีที่มือของเขาเข้าไปใกล้ได้ประมาณครึ่งทาง พลังอันมหาศาลก็พุ่งขึ้นมา ร่างกายเขาสั่นสะท้าน และเส้นผมก็ลอยพลิ้วไปมาอยู่รอบๆ ตัว จากนั้นเขาก็บินขึ้นไปในอากาศ ด้วยพื้นฐานฝึกตนที่กำลังพุ่งขึ้นมา
เขากวัดแกว่งขวานไปมา และลำแสงสีดำก็พุ่งออกไปจากตัวขวาน กระแทกลงไปบนพื้นดิน ทำให้เกิดเป็นร่องลึกที่ยาวถึงสามพันจ้าง ภูเขากั๋วยิ่นของชนเผ่าที่เจ็ดซึ่งอยู่ตรงกลางของร่องลึกนั้น ถูกตัดออกจนกลายเป็นสองส่วน!
เกราะป้องกันที่อ่อนแออยู่แล้วของมัน ไม่อาจจะต่อต้านกับพลังเช่นนั้นได้ ทำให้เห็นได้ชัดถึง…พลังอันน่ากลัวของขวานเล่มนี้!
จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันน่าเหลือเชื่อ ซึ่งอยู่ภายในขวานนักรบนี้
อวี่เหวินเจียนยังคงนั่งอยู่บนยอดเขากั๋วยิ่น ที่เพิ่งจะถูกตัดออกไปเป็นสองส่วน หนังศีรษะของมันเริ่มด้านชา ขณะที่จ้องมองไปยังหน้าผาทั้งสองข้างที่ด้านล่าง มันรู้สึกราวกับว่าศีรษะกำลังจะระเบิดออกไป และรับรู้ได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรงที่พุ่งขึ้นมาอยู่ในจิตใจ
เวลาผ่านไปชั่วครู่ก่อนที่สายลมอันรุนแรงจะเงียบสงบลง เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือและขวานนักรบก็หายไป แสงแปลกๆ ปรากฏขึ้นในแววตา ขณะที่เริ่มคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เขาได้รับรางวัลเป็นขวานนักรบนี้มา
“เมื่อครู่นี้มีอยู่สองเสียง ไม่ใช่เสียงเดียว! เสียงแรกคือเสียงเดียวกันกับก่อนหน้านี้ เป็นเสียงที่เย็นชาและไร้ความรู้สึก
อาจจะเป็นไปได้ว่าเพราะมันกำลังทำตามคำสั่ง ซึ่งเป็นผลมาจากกฎธรรมชาติที่ถูกกำหนดไว้โดยอาณาจักรขุนเขาทะเล ในอาณาจักรสายลมแห่งนี้!”
“ข้าสังหารผู้ฝึกตนลำดับขั้นไปหนี่งคน และจากเสียงแรกนั้น ได้บอกว่าเป็นการละเมิดกฎ แต่…หลังจากเสียงที่สองพูดขึ้นมา ข้าก็ได้รับของวิเศษเป็นรางวัลตอบแทนจริงๆ!”
“หรือว่ามีใครบางคนมาช่วยให้กำลังใจ ผู้ฝึกตนลำดับขั้นกำจัดคนอื่นๆ ออกไป?”
จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ถ้าการคาดเดาของเขาถูกต้อง ก็กลายเป็นว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิธีที่เจี้ยนเต้าจื่อและคนอื่นๆ มองมายังกลุ่มคนจากอาณาจักรขุนเขาทะเล ในตอนที่มาถึงอาณาจักรนี้เป็นครั้งแรก รวมทั้งแผนการเล็กๆ น้อยๆ ที่เจี้ยนเต้าจื่อพยายามจะใช้ออกมา ยิ่งไปกว่านั้นเมิ่งฮ่าวก็ได้ยินคนอื่นๆ เคยบอกว่า อาณาจักรสายลมในครั้งนี้แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ทำให้เขาต้องหอบหายใจขึ้นมาในทันทีเมื่อคิดไปว่า
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า อาณาจักรสายลมนี้กำลังมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น?”
ใบหน้าเขาหมองคล้ำลง ในเวลาเดียวกันนั้น ในที่สุดอวี่เหวินเจียนก็ได้รับความรู้แจ้งของแก่นแท้ทั้งสามร้อยจากตราประทับ จากนั้นมันก็ลุกขึ้นมายืนและร้องตะโกนไปยังเมิ่งฮ่าว
“เมิ่งฮ่าว เจ้า เจ้า เจ้า…เจ้าเกือบจะผ่าบิดาออกเป็นสองส่วนด้วยขวานนั้นแล้ว!”
เสียงของมันดังก้องออกมาคล้ายกับเป็นเสียงฟ้าคำราม ไปขัดจังหวะความคิดของเมิ่งฮ่าวในทันที
เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังอวี่เหวินเจียน และกล่าวเสียงราบเรียบว่า
“ข้าแค่พลั้งมือเท่านั้น แต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่เจ้าได้รับความรู้แจ้งแล้ว อีกอย่างเจ้าเคยบอกว่าก่อนหน้านี้ได้สังหารไห่ตงชิงไปแล้วหนึ่งครั้ง ใช่หรือไม่?”
“ข้าพูดเช่นนั้น?” อวี่เหวินเจียนกล่าวตอบ ด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย แต่ทันใดนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นมีโทสะขึ้นมา
“ไม่ต้องพูดไปถึงเรื่องนั้น เมื่อครู่นี้เจ้าเกือบจะสังหารข้าไปด้วยขวานเล่มนั้นแล้ว! ข้าไม่เคยไปทำอะไรให้เจ้ามาก่อน! แค่พลั้งมือ? ข้าแทบจะเสียชีวิตไป! บิดาท่องทะยานไปทั่วทั้งขุนเขาที่เจ็ด ผ่านภูเขาดาบทะเลเปลวไฟมานับไม่ถ้วนอย่างง่ายดาย แต่แทบจะต้องมาตายเพราะเจ้าพลั้งมือ? เจ้าเป็นหนี้ข้าเพราะเรื่องนี้…”
เมิ่งฮ่าวไม่สนใจมันแต่อย่างใด คิดไปว่า “ทะเลเปลวไฟ ทะเลเปลวไฟ…ข้าจำได้แล้ว! เต้าฟาง! ที่ด้านล่างของทะเลสาบเต๋าโบราณในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน การทดสอบด่านสุดท้ายที่ถูกควบคุมดูแลโดยสัตว์อสูรที่แปลกๆ เหล่านั้น คือโลกของแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์…”
“มีดวงตาแห่งเปลวไฟในที่แห่งนั้น ได้ร้องตะโกนบางอย่างขึ้นมา รวมทั้งนามเต้าฟาง!!” จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ในที่สุดเขาก็นึกขึ้นได้ถึงข้อมูลที่กำลังค้นหาอยู่
ทันใดนั้น ดวงตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้นและเปล่งแสงอันเจิดจ้าออกมา เป็นแสงที่ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าจากมุมมองของอวี่เหวินเจียน มันเพิ่งจะพูดออกมาเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องเงียบลงไปในทันที และจากนั้นก็จ้องมองมาที่มันด้วยสายตาที่น่ากลัว ทำให้มันต้องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง และคิดขึ้นได้ถึงความแข็งแกร่งของเมิ่งฮ่าว ในตอนที่เขาเข่นฆ่าสองผู้ฝึกตนไปก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็สังหารไห่ตงชิงไปด้วยความโหดเหี้ยม
มันยังคิดไปถึงความน่ากลัวของขวานเล่มนั้นอีกด้วย และจากนั้นใบหน้าของอวี่เหวินเจียนก็บิดเบี้ยวขึ้น เมื่อตระหนักได้ว่ามันช่างวู่วามเป็นอย่างยิ่งที่ไปก่นด่าเมิ่งฮ่าวเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวคือดาวเพชฌฆาตที่มันไม่ควรจะไปตอแยด้วย เหงื่อเท่าเม็ดถั่วเริ่มไหลลงมาจากหน้าผากของอวี่เหวินเจียน และใบหน้ามันก็ฉีกยิ้มจนกว้างออกมา รีบประสานมือและโค้งตัวลงอยู่หลายครั้ง
“ฮา ฮา ฮา! พี่เมิ่ง เรื่องที่แล้วมาก็ให้แล้วไป ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ถ้าท่านพี่ต้องการจะผ่า ก็ผ่าข้าเป็นสองส่วนได้เลย…ไม่มีปัญหา ข้ายังมีวิญญาณเหลืออยู่ ดังนั้นถ้าท่านสังหารข้า ข้าก็จะฟื้นคืนชีพกลับมาใหม่” จากนั้นก็หัวเราะเป็นเสียงดังออกมา