Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1152

ตอนที่ 1152

เล่นละครตบตา

คำตอบของไห่เมิ่งจื้อจุน สำหรับคำพูดของเมิ่งฮ่าวคือใบหน้าที่เย็นชา นางไม่พูดจาและจริงๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าแทบจะไม่แยแสสนใจใดๆ

“บางทีประตูเซียนอาจจะพังทลายลงไป อันเนื่องมาจากพลังของหลุมดำนั้น” เมิ่งฮ่าวกล่าว มองไปยังไห่เมิ่งจื้อจุนอย่างเยือกเย็น

“แต่ในตอนที่มันพังทลายลงไป พลังจากแสงฉุดดึงของท่านกลับแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม” เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวไม่มีเจตนาที่จะอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย นี่คือบุคลิกส่วนตัวของเมิ่งฮ่าว เขาไม่สนใจว่าจะถูกหลอกใช้หรือไม่ แต่เมื่อหลอกใช้แล้วก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมา!

“อันที่จริง เมื่อข้าตัดสินใจไล่ตามตำราผู้ทรยศกบฏเต๋า เจตนาหลักของท่านก็คือขัดขวางข้า!”

“ขณะที่เกิดการกบฎขึ้นในอาณาจักรสายลม ถ้าไห่เมิ่งจื้อจุนท่านบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อน เมิ่งโหม่วไม่เชื่อแม้แต่น้อย!”

“บางทีการกบฏของจักรพรรดิอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่อย่าบอกข้าว่าราชันจักรพรรดิสายลมก็เป็นกบฎด้วยเช่นกัน!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว ซึ่งสามารถตัดตะปูเฉือนเหล็กกล้าได้ และดวงตาก็แวบแสงที่คล้ายสายฟ้าออกมา แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงสังเกตดูสีหน้าของไห่เมิ่งจื้อจุนอย่างละเอียด ถึงแม้เขาจะพูดจาออกมาอย่างเฉียบขาด แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก มีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่มากมาย อันที่จริงเต้าเทียนก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะจากไป เมื่อมันมองมายังเมิ่งฮ่าว คนทั้งสองต่างก็เข้าใจถึงความหมายในสายตาที่ลึกล้ำนั้นได้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด

“ไร้สาระ!” ไห่เมิ่งจื้อจุนกล่าว ยื่นมือขวาออกไป ทำให้สายลมอันรุนแรงพัดพาร่างเมิ่งฮ่าวขึ้นไป และนำพาเขามุ่งหน้าตรงไปยังกระแสน้ำวนเคลื่อนย้ายทางไหล เห็นได้ชัดว่านางต้องการจะส่งให้เขาจากไป

เมิ่งฮ่าวต่อสู้กลับไป แสงสีฟ้าพุ่งขึ้นมา และดวงตาก็สาดประกายขึ้น พื้นฐานฝึกตนปะทุเป็นพลังออกมา ขณะที่เขาต่อสู้กลับไป แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า เมื่อต้องมาต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

ขณะที่เขาถูกม้วนกวาดให้เข้าไปใกล้กระแสน้ำวนมากขึ้น ก็แผดร้องคำรามออกมา และกระตุ้นโลหิตของจิ่วเฟิงจื้อจุนขึ้นมา อาณาจักรขุนเขาทะเลสั่นสะเทือน ตะวันและจันทราสั่นสะท้าน เมิ่งฮ่าวหยุดชะงักนิ่งอยู่ตรงริมชายขอบของกระแสน้ำวน แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เขาก็พยายามไม่ยอมให้ตนเองต้องถอยไปทางด้านหลัง

“ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้นที่ไม่เชื่อแม้แต่น้อย แม้แต่สามสิบสามสวรรค์ก็อาจจะไม่เชื่อด้วยเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำไม ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด พวกมันเพียงแค่เฝ้ามองดู ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะขยับตัวเคลื่อนไหว”

“จนกระทั่งตำราผู้ทรยศกบฏเต๋าปรากฏขึ้น ทำให้พวกมันตื่นเต้นขึ้นมา นั่นคือตอนที่พวกมันเริ่มมีความโลภเกิดขึ้น เมื่อพิจารณาถึงพื้นฐานฝึกตนและความเฉลียวฉลาดของพวกมันแล้ว อาณาจักรสายลมจะต้องถูกควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดเป็นแน่”

อย่างไรก็ตามไห่เมิ่งจื้อจุนก็หมุนตัวมุ่งหน้ากลับเข้าไปในถ้ำแห่งเซียนของนางแล้ว ราวกับมั่นใจว่าการโบกสะบัดชายแขนเสื้อของนางจะส่งให้เมิ่งฮ่าวเข้าไปในกระแสน้ำวน และนำเขาไปจากสถานที่แห่งนี้ ราวกับว่าสำหรับเขาแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่จะยังอยู่ต่อไปได้อีก

นางเห็นเขาเข้าไปใกล้กับกระแสน้ำวนมากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกได้ว่าพลังการเคลื่อนย้ายทางไกลกำลังก่อตัวขึ้นมา ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น

“อาวุธสงคราม!” เขากล่าวขึ้น ตบไปที่ถุงสมบัติ ทำให้กระจกทองแดงลอยออกมา ถึงแม้จะดูเหมือนว่ากระจกทองแดงนี้จะดูธรรมดาไปโดยสิ้นเชิง แต่ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวก็โคจรหมุนเวียนพื้นฐานฝึกตน ทำให้แสงสีฟ้าไหลเข้าไปในกระจก ทันใดนั้นกระจกก็เริ่ม…หลอมละลายไป!

มันกลายเป็นหยดของเหลวสัมฤทธิ์ ซึ่งจากนั้นก็เริ่มลอยไปปกคลุมมือของเมิ่งฮ่าวไว้ หยดของเหลวนั้นดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณของตนเอง มันขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งไปถึงข้อศอกของเขา ในชั่วพริบตา ปลายแขนและมือทั้งหมดของเขาก็กลายเป็นใบมีดที่ยาวสามฉื่อ! (1 ฉื่อ ยาวประมาณ 1 ฟุต)

ใบมีดนั้นเป็นสัมฤทธิ์และกระจายบรรยากาศที่เก่าแก่โบราณออกมา ราวกับว่ามันได้คงอยู่มานานหลายปีนับไม่ถ้วน อย่างช้าๆ มันเริ่มกระจายเป็นแสงดาวออกมา แทบจะคล้ายกับเป็นอัญมณี ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในโลกนี้!

พื้นผิวของใบมีดนั้นเงาวาวราวกับเป็นกระจก และส่องประกายด้วยแสงอันเย็นชาออกมา จนดูเหมือนว่าจะสามารถกรีดเฉือนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ มันยังกระจายเป็นกลิ่นอายอันลี้ลับอย่างน่าเหลือเชื่อออกมาอีกด้วย

กลิ่นอายที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ปะทุออกมาจากแขนของเมิ่งฮ่าว เป็นกลิ่นอายที่ละเอียดอ่อนจนทำให้กระแสน้ำวนเคลื่อนย้ายทางไกลนั้นเกิดเป็นเสียงแตกร้าวออกมา ราวกับว่ามันกำลังจับตัวเป็นน้ำแข็งและไม่อาจจะทำงานต่อไปได้

กฎธรรมชาติและแก่นแท้ทั้งหมดในความว่างเปล่าใกล้บริเวณนั้นแตกกระจายไป ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นเริ่มกระจายออกมา โดยมีใบมีดที่คมกริบนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง ราวกับว่าไม่ว่าระลอกคลื่นนั้นจะพุ่งผ่านไปยังที่แห่งใด ความว่างเปล่าก็ยังคงเป็นความว่างเปล่า แต่ก็ไม่ได้เป็นความว่างเปล่าอีกต่อไปแล้วเช่นกัน!

สิ่งแปลกๆ ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ทำให้ไห่เมิ่งจื้อจุนต้องหยุดชะงักนิ่งในทันที แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง และนางก็หันหลังกลับมามองไปยังแขนขวาของเมิ่งฮ่าว สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย

“เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า เจ้าบรรลุถึงขั้นที่สองแล้ว!”

คำพูดของนางทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นจนแทบจะมองไม่เห็น ถึงแม้เขาจะสงสัยมานานแล้วว่านางรู้เรื่องเกี่ยวกับกระจกทองแดงนี้จริงๆ ก็ตามที

ดวงตาหลี่หลิงเอ๋อร์เบิกกว้างขึ้นราวกับเป็นลูกหนัง และค่อยๆ ถอยไปทางด้านหลังอย่างช้าๆ ใบมีดอันคมกริบบนแขนขวาของเมิ่งฮ่าว ทำให้นางเต็มไปด้วยความตกใจ ราวกับว่ากำลังมองไปยังดวงดาวนับไม่ถ้วนที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ได้ยินเสียงแผดร้องด้วยโทสะเต็มอยู่ในสองหู

แขนขวาของเมิ่งฮ่าวได้กลายเป็นใบมีดอันคมกริบ พร้อมกับฟันปลาเก้าซี่ที่ดูคล้ายกับเป็นคลื่น ช่างดูน่าตกใจเป็นอย่างยิ่งที่ใบมีดนั้นมีปลายแหลมอยู่เก้าชิ้น!

นี่คือกระจกทองแดงรูปแบบที่สองของเมิ่งฮ่าว อาวุธสงคราม!!

เช่นเดียวกับที่นกแก้วเคยพูดไว้ เมื่อไหร่ที่เมิ่งฮ่าวบรรลุถึงอาณาจักรเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า เขาสามารถทำให้กระจกทองแดงบรรลุถึงรูปแบบที่สองได้ ตอนนี้เมิ่งฮ่าวได้บรรลุถึงขั้นนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าการหลอมรวมกับผลเนี่ยผานของเขาจะสมบูรณ์เพียงแค่ห้าในสิบส่วนเท่านั้น ไม่ใช่สิบส่วนเต็มก็ตามที!

ความรู้สึกที่ระเบิดออกมาจากแขนขวาของเมิ่งฮ่าว เป็นสิ่งที่แทบจะเกินการควบคุมของตนเอง เขาเริ่มหอบหายใจออกมา ขณะที่ทันใดนั้นก็ตระหนักขึ้นว่าตอนนี้เขาสามารถจะกรีดเฉือนสามสิบสามสวรรค์ให้เปิดออกมาได้!

เป็นความรู้สึกอันรุนแรงและเต็มไปด้วยพลังอย่างน่าตกใจ เป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาต้องสั่นสะท้าน และทำให้รู้สึกว่าตนเองกำลังสูญเสียการควบคุม เขาบังคับให้ตัวเองถอยห่างออกมาจากกระแสน้ำวน และจากนั้นอาวุธสงครามก็หายไป กลายเป็นกระจกทองแดงขึ้นอีกครั้ง และตกลงมาอยู่ในมือเมิ่งฮ่าว

เขารู้ว่าถึงแม้จะสามารถเปลี่ยนกระจกทองแดงให้กลายเป็นอาวุธสงครามได้ในตอนนี้ แต่ยังคงไม่อาจจะปลดปล่อยการโจมตีออกไปจากใบมีดนั้นได้แม้แต่ครั้งเดียว บางที…มันอาจจะเกิดขึ้นเมื่อเขากลายเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นเขาอาจจะสามารถใช้ใบมีดนี้ได้!

บางทีการตวัดใบมีดนี้อาจจะทำให้พลังการฝึกตนของเขาลดลงไปอย่างรวดเร็ว แต่การตวัดนั้นจะต้องทำให้สวรรค์ทั้งหมดสูญเสียแสงสว่างของพวกมันไป และอาจจะกำจัดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไปได้ สามารถทำลายกฎธรรมชาติและบดขยี้แก่นแท้ได้อย่างง่ายดาย

เมิ่งฮ่าวแทบไม่อาจจะทนรอให้ถึงช่วงเวลานั้นได้ หอบหายใจออกมา โบกสะบัดมือเก็บกระจกทองแดงไว้ และมองไปยังไห่เมิ่งจื้อจุน ซึ่งมีสีหน้าที่ซับซ้อนและสับสนอยู่

ไห่เมิ่งจื้อจุนกำลังจ้องมองมายังกระจกทองแดง หลังจากที่เขาเก็บมันไว้ นางก็ยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ต่อไป

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ไห่เมิ่งจื้อจุน ข้ายังกล่าวไม่จบ ตอนนี้เมื่ออาณาจักรสายลมผ่านเข้าไปในสามสิบสามสวรรค์ บุคคลที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คือราชันจักรพรรดิสายลม อันที่จริงข้าเกรงว่ามันจะสูญเสียอิสรภาพทั้งหมดไป สำหรับมันแล้ว การที่อาณาจักรสายลมได้กลายเป็นสวรรค์ที่สามสิบสี่คือ…การเดิมพันอันยิ่งใหญ่!”

“จริงๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าการเดิมพันนั้นจะล้มเหลว แต่มันก็ยังคงจะดำเนินต่อไป!”

“และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนั้นกลายเป็นการเล่นละครตบตา!”

“เป็นไปได้ว่า เหตุผลที่ท่านไม่นำเสวี่ยเอ๋อร์กลับมา เป็นเพราะว่านางคืออาวุธลับของท่าน!”

ไห่เมิ่งจื้อจุนมองดูกระจกทองแดงหายไป จากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนแปลกๆ เวลาผ่านไปนานในที่สุดนางก็กล่าวว่า

“ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าต้องทำสิ่งทั้งหมดเหล่านั้นด้วย?” นี่เป็นครั้งแรกที่นางกล่าวตอบคำถามเขาโดยตรง!

ดวงตาเมิ่งฮ่าวหรี่เล็กลงเล็กน้อย และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ

“เหตุผลที่ท่านกระทำเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วต้องเกี่ยวข้องกับแผนการที่ท่านเคยกล่าวไว้อย่างแน่นอน ข้าค่อนข้างเชื่อมั่นว่าอาณาจักรสายลม และเสวี่ยเอ๋อร์ ถูกส่งออกไปเพื่อจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น!”

“เพื่อสร้างประตูเคลื่อนย้ายทางไกล!”

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ไห่เมิ่งจื้อจุนกล่าวว่า “ที่เจ้าพูดมาทั้งถูกและผิด”

นางไม่ได้บ่งชี้ว่าส่วนไหนที่เขากล่าวมาถูกต้อง และสิ่งไหนผิด แต่จากการที่นางกล่าวตอบมาด้วยประโยคนี้ ก็ยังคงแสดงให้เห็นว่าเมิ่งฮ่าวได้บังคับให้นางต้องกล่าวคำอธิบายออกมา

นางไม่อาจจะไม่แยแสต่อการคงอยู่ของเมิ่งฮ่าวได้ ไม่ว่าจะเนื่องจากศักดิ์ฐานะของเขาที่เป็นผู้สืบทอดของจิ่วเฟิงหรือไม่ หรือเพราะว่าเขาคือราชันในอนาคตของอาณาจักรขุนเขาทะเล หรือเพราะว่า…อาวุธสงครามที่ปรากฏขึ้น สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดทำให้นางต้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาอันลึกล้ำ

ถึงแม้ว่านางจะไม่สนใจเขามากนักในแง่ของพื้นฐานฝึกตน แต่ก็มีกรรมมากมายบนตัวเขาที่บังคับให้นางต้องกล่าวคำอธิบายออกมา

เมิ่งฮ่าวไม่มีคำถามใดๆ อีก เขาไม่ต้องการอยากรู้ว่าส่วนไหนที่เขากล่าวถูกต้อง และส่วนไหนที่ผิดไป

ดวงตาสาดประกายขึ้น ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับไห่เมิ่งจื้อจุน

เมิ่งฮ่าวกระแอมไอออกมา มีท่าทางเขินอายและลำบากใจอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวว่า “ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่การคาดเดาบางส่วนของข้าเท่านั้น ผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้ข้าแค่เสแสร้งมีโทสะขึ้นมาเล็กน้อย และกล่าวคำพูดที่ก้าวร้าวออกมา ขอให้ท่านไห่เมิ่งจื้อจุนโปรดอย่าได้ถือสา แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะว่าข้าเกือบจะต้องตายไปแล้วหลายครั้ง และสิ่งเช่นนี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ ผู้เยาว์ต้องพบเจอกับเหตุการณ์อันร้ายแรงเป็นตายเท่ากันมาหลายครั้งในอาณาจักรสายลม และแต่ละครั้งก็มีความรู้สึกเสียใจแวบขึ้นมาถึงสิบเก้าครั้ง ทุกครั้งที่ผู้เยาว์คิดไปถึงความเสียใจทั้งสิบเก้าครั้งเหล่านั้น ก็รู้สึกราวกับว่าจิตใจกำลังถูกกรีดแทงด้วยคมมีด ความเสียใจครั้งแรกก็คือว่าไม่อาจจะได้ชิ้นส่วนของเศษซากเซียนมาไว้กับตัว ถ้าข้ามี แม้จะต้องตายไปในอาณาจักรสายลมก็จะไร้ซึ่งความเสียใจใดๆ” ตอนนี้เขามีสีหน้าที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

ราวกับว่าเขาเพิ่งจะอ้อมเป็นวงกว้าง ราวกับว่าที่เขาเพิ่งจะแสดงโทสะ, ความไม่พอใจ และยังทำให้พลังของตนเองพุ่งขึ้นมา ทั้งหมดนั้นก็เพื่อช่วงเวลานี้เท่านั้น ที่ผ่านมาทั้งหมดก็เพื่อกลายเป็นคำพูดที่เพิ่งจะเอ่ยไปเมื่อครู่นี้

ไห่เมิ่งจื้อจุนมีสีหน้าแปลกๆ ปรากฏขึ้น ขณะที่กล่าวว่า “ชิ้นส่วนของเศษซากเซียน?”

เมิ่งฮ่าวกระแอมไอ รู้สึกอึดอัดใจอยู่เล็กน้อย ถอนหายใจออกมา

“จื้อจุน (ท่านผู้ยิ่งใหญ่) ขอให้ช่วยเติมเต็มความเสียใจแรกของข้าด้วย ทุกครั้งที่ผู้เยาว์เห็นเศษซากเซียน ก็อดจะคิดไปถึงความงดงามของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่เมื่อในอดีตขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็จะเริ่มคิดไปว่า ถ้าผู้เยาว์มีชิ้นส่วนของเศษซากเซียนเหมือนกับเป็นของที่ระลึก คงจะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้เยาว์ทำการฝึกตนอย่างไม่ย่อท้อ จนมีความก้าวหน้าขึ้น และ…” ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะทันได้กล่าวจบ ไห่เมิ่งจื้อจุนก็โบกสะบัดมือนางออกไปในอากาศ ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นรอยแตกขนาดใหญ่ก็เปิดออกในกลางอากาศ

รอยแตกนั้นปรากฏให้เห็นเป็นโลกอื่นขึ้น

มันคือหนึ่งในเศษซากเซียน เศษซากเซียนมีขนาดใหญ่มหาศาล และกระจัดกระจายไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่ละส่วนของมันเต็มไปด้วยความลี้ลับ ในตอนนี้ชิ้นที่เมิ่งฮ่าวกำลังจ้องมองไปแทบจะดูคล้ายกับเป็นทวีป ทันใดนั้นบนมุมหนึ่งของมัน ราวกับว่าหัตถ์ยักษ์กำลังฉีกส่วนหนึ่งออกมา เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ชิ้นส่วนพื้นดินซึ่งมีความยาวหนึ่งหมื่นจ้างค่อยๆ แยกตัวออกไปอย่างช้าๆ และจากนั้นก็ลอยตรงมายังรอยแตกนั้น

กลิ่นอายอันเก่าแก่โบราณพุ่งกระจายออกไป ตามมาด้วยระลอกคลื่นแห่งกาลเวลา ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีเจตจำนงเซียนที่เป็นหนึ่งไม่มีสองอยู่อีกด้วย ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องเต้นรัวขึ้นด้วยความตื่นเต้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!