Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1159

ตอนที่ 1159

ถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า

ก่อนที่จะหลอมรวมเข้ากับผลเนี่ยผานลูกที่สาม เมิ่งฮ่าวใช้เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตเรียกได้แต่ศีรษะออกมาเท่านั้น หลังจากที่เขาผ่านประสบการณ์ทั้งหมดมาจากอาณาจักรสายลม เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตก็ก้าวหน้าขึ้นไปจนถึงระดับที่น่าประหลาดใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพราะผลเนี่ยผานลูกที่สาม ขณะที่ความว่างเปล่าถูกฉีกเปิดออก อสูรโลหิตก็แผดร้องคำรามโผล่ออกมาอย่างเต็มตัว

มันยื่นมือที่เป็นกรงเล็บอันแหลมคมราวกับใบมีดตรงไปยังเทียนอวิ๋นซ่างเหริน และกระจายแสงสีโลหิตอันไร้ขอบเขตออกมา ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าโลหิตของเทียนอวิ๋นซ่างเหรินจะเริ่มเดือดพล่านขึ้นมา ทำให้สีหน้ามันเปลี่ยนไป ขณะที่ชี้นิ้วตรงไปยังอสูรโลหิต

เมื่อนิ้วของมันชี้ตรงไปในอากาศ หน้าผากของมันก็แยกออกจากกัน ทำให้หยดโลหิตสีดำลอยออกมาหนึ่งหยด ดิ้นและบิดเบี้ยวไปมาขณะที่พุ่งฝ่าอากาศไป กระจายเสียงแหลมเล็กที่คล้ายกับเสียงเด็กทารกออกมา ขณะที่มันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นยุงหนึ่งตัว!

ยุงตัวนั้นมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่กระจายกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา ขณะที่ส่งเสียงหึ่งๆ ฝ่าอากาศตรงไปยังอสูรโลหิต

หนึ่งมีขนาดเท่ายักษ์ อีกหนึ่งมีขนาดเล็กกระจ้อยร่อย แต่เมื่อพวกมันกระแทกเข้าหากัน เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกมา เห็นได้ชัดว่าทั้งสองไม่อาจจะเอาชนะซึ่งกันและกันได้

สีโลหิตที่อยู่รอบๆ ตัวอสูรโลหิตกลายเป็นทะเลแห่งโลหิตไป แต่ยุงตัวนั้นก็ว่องไวปราดเปรียว มันหลบเลี่ยงไปด้านข้าง และจากนั้นก็ใช้ปากของมันเริ่มดูดโลหิตเข้าไป

“น่าสนใจนัก” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับหัวเราะหึๆ เขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรที่คล้ายกับยุงตัวนี้มาก่อน ยกมือขวาขึ้นมาและขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ชี้ตรงไปยังทิศทางของเทียนอวิ๋นซ่างเหริน

ภูเขาเซียนจำนวนมากตกลงมา หมุนคว้างไปรอบๆ บริเวณนั้น และบดขยี้ลงมายังเทียนอวิ๋นซ่างเหริน แค่ภาพนี้ก็ทำให้ดวงดาวทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา

ถ้ามองดูให้ละเอียด ก็จะเห็นว่าตรงจุดบนสุดของภูเขาเซียนมีเงาร่างนั่งขัดสมาธิเข้าฌานอยู่ เงาร่างเหล่านั้นดูเหมือนกับเมิ่งฮ่าวเป็นอย่างยิ่ง!

นี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงออกมา อันเนื่องมาจากเมิ่งฮ่าวได้หลอมรวมเข้ากับผลเนี่ยผานลูกที่สาม และบรรลุถึงอาณาจักรเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า

จิตใจเทียนอวิ๋นซ่างเหรินเริ่มเต้นรัว การคุกคามที่เพิ่มขึ้นมาของเมิ่งฮ่าว ทำให้ต้องตระหนักขึ้นมาในทันทีว่าก่อนหน้านี้มันได้ทำเกินไป อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง

พร้อมกับเสียงแค่นเย็นชา มันโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้ลำแสงกระบี่ลอยออกไป ภายในนั้นคือกระบี่บินสีดำที่มีหยดพิษอันร้ายแรง ขณะที่กระบี่เล่มนั้นแหวกฝ่าอากาศจนเป็นเสียงแหลมเล็ก กระบี่สีดำก็แยกส่วนออกมาเป็นภาพทับซ้อนจำนวนมาก ลำแสงกระบี่นับร้อยพุ่งตรงไปยังภูเขาเซียน แต่ละเล่มเต็มไปด้วยพลังอันน่าประหลาดใจของพื้นฐานฝึกตนวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณของ

เทียนอวิ๋นซ่างเหริน

เสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่กระบี่แสงเข้าไปใกล้ภูเขาเซียน เกิดเป็นภาพบิดเบี้ยวกระจายออกไป และขณะที่ภูเขาเซียนเริ่มแตกกระจายไป ภาพของเมิ่งฮ่าวที่อยู่บนภูเขาเซียนก็ลืมตาขึ้นมาและมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เย็นชา

พวกมันคล้ายกับเป็นร่างจำแลงของเมิ่งฮ่าว ทั้งหมดลุกขึ้นมายืนและพุ่งตรงไปยังกระบี่แสง เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังเต็มอยู่ในอากาศ

“ข้าอยากเห็นว่าเจ้ามีของวิเศษซุกซ่อนอยู่มากน้อยแค่ไหน!” เมิ่งฮ่าวขยับมือร่ายเวทและชี้นิ้วออกไป ทำให้ลำแสงสีม่วงพุ่งขึ้นไปในอากาศ และก่อตัวเป็นภาพของดวงจันทร์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!

มันคือ…ดวงจันทร์สีม่วง!

ดวงจันทร์กลายเป็นเงาภาพลวงตา ขณะที่พุ่งตรงไปยังเทียนอวิ๋นซ่างเหริน หดเล็กลงไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งตกลงไปบนหน้าผากของมัน และจมลงไปที่ด้านใน ไม่นานต่อมา เครื่องหมายดวงจันทร์สีม่วงก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาบนหน้าผากของมัน!

ในตอนนี้เองที่เวทของดวงจันทร์สีม่วงก็ระเบิดขึ้น!

ความรู้สึกถึงอันตรายพุ่งขึ้นมาในจิตใจของเทียนอวิ๋นซ่างเหรินอย่างรุนแรง ทำให้มันต้องหอบหายใจออกมา ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะขบคิด บางสิ่งภายในร่างกำลังบอกกับมันว่า ต้องไม่ปล่อยให้ดวงจันทร์สีม่วงนี้ก่อตัวอยู่บนหน้าผากของมันอย่างสมบูรณ์ มันพุ่งถอยไปทางด้านหลังในทันที โบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้ธวัชสีขาวคลี่กระจายออกมาอยู่รอบๆ ตัว

ธวัชผืนนั้นกลายเป็นมังกรเมฆาหลายตัว ส่งเสียงแผดร้องอย่างดุร้ายขณะที่พุ่งตรงไป ไม่ได้พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว แต่ตรงไปยังหน้าผากของเทียนอวิ๋นซ่างเหรินเอง

ก่อนที่ดวงจันทร์จะทันได้ก่อตัวโดยสมบูรณ์ มังกรเมฆาเก้าตัวก็กลายเป็นพลังป้องกัน ที่ระเบิดตรงไปยังดวงจันทร์สีม่วง เกิดเป็นเสียงกึกก้องขนาดใหญ่ดังขึ้น ขณะที่มังกรผู้พิทักษ์ทั้งเก้าทำให้เวทจันทร์ม่วงค่อยๆ จางหายไปในที่สุด

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ ขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอกับใครบางคนที่สามารถใช้ของวิเศษในการต่อสู้พร้อมกับความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางส่วน เขาเดินตรงไปข้างหน้า ทำท่าคว้าจับ ทำให้ความว่างเปล่าสีดำสนิทก่อนหน้านี้ในบริเวณนั้น ปะทุขึ้นมาด้วยลำแสงสีขาวในทันที

ลำแสงอันเข้มข้นนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากพื้นของดวงดาว และน่าตกใจยิ่ง แม้แต่ดวงตะวันที่อยู่ห่างไกลออกไปก็ยังมีลำแสงลอยออกมาด้วยเช่นกัน!

ลำแสงเหล่านั้นมารวมตัวกันกลายเป็นภาพของดวงตะวันที่มีขนาดเท่ากำปั้นอย่างรวดเร็ว!

นี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวเอง…เวทระเบิดดวงตะวัน!

เขาโยนดวงตะวันออกไป ส่งผลให้แสงลูกทรงกลมอันเจิดจ้าพุ่งตรงไปยังเทียนอวิ๋นซ่างเหริน ขณะที่แสงลูกทรงกลมนั้นพุ่งเข้าไปใกล้ มันก็ทำการดูดซับแสงเข้าไปมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีขนาดใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มส่งระลอกคลื่นอันน่าตกใจออกมา ทำให้สีหน้าของเทียนอวิ๋นซ่างเหรินต้องสลดลง

เมิ่งฮ่าวอยากรู้เป็นอย่างยิ่งว่าการต่อสู้ที่ใช้ของวิเศษจำนวนมาก จะเทียบเท่ากับความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่มากมายของเขาได้หรือไม่

“ทำไมมันถึงมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์และเวทแห่งเต๋ามากมายเช่นนี้!? แต่ละเวทแห่งเต๋าก็ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาโดยสิ้นเชิง!” เทียนอวิ๋นซ่างเหรินคิดพร้อมกับสีหน้าที่สลดลง ในตอนนี้มันไม่กล้าจะดูถูกเมิ่งฮ่าวอีกต่อไป ขณะที่แสงลูกทรงกลมพุ่งลงมายังร่างมัน ความรู้สึกถึงวิกฤตก็เต็มอยู่ในใจมันอย่างเข้มข้นอีกครั้ง ทันใดนั้นมันจึงยกเท้าขวาขึ้นมา และเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่หลัวผาน (เข็มทิศจีน) ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น หมุนคว้างอยู่ในอากาศและกระจายเป็นแสงอันไร้ขอบเขตออกมา อย่างน่าตกใจยิ่งภาพภูติผีจำนวนมากปรากฏขึ้นอยู่ภายในแสงนั้น ส่งเสียงกรีดร้องอย่างดุร้ายออกมา ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปยังแสงของเวทระเบิดดวงตะวัน

“ผู้เยาว์ เหล่าฟูมีของวิเศษมากกว่าที่เจ้าคิด!” เทียนอวิ๋นซ่างเหรินกล่าว ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและดุร้าย

สิ่งที่มันกล่าวมาเป็นความจริง นอกจากนี้มันยังเป็นเจ้าของตลาดเมฆาสวรรค์มาหลายปี ทำให้มีทรัพยากรในการฝึกตนและของวิเศษที่ไม่ธรรมดาอยู่มากมาย

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่แสงของหลัวผานกระแทกเข้าไปในเวทระเบิดดวงตะวันของเมิ่งฮ่าว เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกมา และลมพายุขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้นมาอยู่ระหว่างกลาง สนามดวงดาวทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และผู้ฝึกตนในบริเวณนั้นต่างก็อ้าปากค้างและรีบล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

“เมิ่งฮ่าว!!” เทียนอวิ๋นซ่างเหรินแผดร้องออกมา โบกสะบัดมือซ้ายเพื่อทำให้รูปปั้นศิลาจำนวนมากลอยออกมาจากชายแขนเสื้อ การปรากฏขึ้นของพวกมันช่างแปลกประหลาดไปโดยสิ้นเชิง พวกมันดูคล้ายกับเป็นชายชรา หลังจากที่ลอยขึ้นไปในอากาศ ก็ลืมตาขึ้นมาและเริ่มสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า

ขณะที่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้าย ดวงตาเทียนอวิ๋นซ่างเหรินแวบขึ้น และมันก็ตบไปที่ถุงสมบัติ ฝุ่นสีแดงเข้มปรากฏขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าถูกกลั่นสกัดมาจากโลหิต ฝุ่นนั้นบิดเบี้ยวไปมา ทำให้จู่ๆ ก็มีโลหิตพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

แต่เทียนอวิ๋นซ่างเหรินก็ยังไม่เสร็จสิ้นแต่เพียงเท่านี้ มันถอยไปทางด้านหลัง โบกสะบัดชายแขนเสื้ออีกครั้ง ทำให้เม็ดยาสีม่วงลอยออกไปสามเม็ด กระจายแรงกดดันอันไร้ขอบเขตออกมา ขณะที่พุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาในการอธิบาย แต่จริงๆ แล้ว เทียนอวิ๋นซ่างเหรินก็กระทำเรื่องทั้งหมดนี้ในช่วงเวลาแค่กระพริบตาเท่านั้น ฉับพลันนั้นใบหน้าเมิ่งฮ่าวก็เต็มไปด้วยโทสะและกลิ่นอายอันน่ากลัว แสงจากของวิเศษทั้งหมดประสานเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นคลื่นแสงหลากสี

“เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเปิดตลาดเช่นนี้อยู่ในท่ามกลางดวงดาวจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมสำนักและตระกูลต่างๆ ไม่ต้องการจะมีเรื่องกับเจ้า…เจ้ามีของวิเศษมากมายนัก ตอนนี้ข้ากำลังอยากเห็นว่าเจ้ามีเวทแห่งเต๋ามากน้อยแค่ไหน”

เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ ก้าวเท้าตรงไป และศิลาดวงดาวในดวงตาก็หลอมละลาย ในชั่วพริบตาเขาก็กลายเป็นดาวตกไป!

หนึ่งรำพึงกลายเป็นดวงดาว!

เขาพุ่งฝ่าอากาศไปในทันที ความว่างเปล่าแตกกระจายออกไป ทำให้เกิดเป็นสีสันแปลกๆ แวบขึ้นไป เสียงระเบิดได้ยินมาขณะที่ของวิเศษทั้งหมดที่มาขวางกั้นเส้นทางของเขา ถูกบดขยี้ไปอย่างง่ายดายราวกับเป็นหญ้าแห้งหรือกิ่งไม้ผุ!

เริ่มจากเก้ารูปปั้นของชายชรา ที่แผดร้องออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน และพยายามจะขัดขวางเมิ่งฮ่าวที่อยู่ในรูปแบบของดวงดาว ขณะที่เขาเข้าไปใกล้พวกมัน พวกมันก็เริ่มสั่นสะท้าน และรอยแตกร้าวก็กระจายออกมาจากทั่วทั้งร่าง ในชั่วพริบตาพวกมันก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป

จากนั้นก็เป็นฝุ่นสีโลหิตซึ่งกลายเป็นทะเลแห่งโลหิต ที่ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ส่งผลให้ไม้เลื้อยโลหิตจำนวนมากพยายามจะผูกมัดเขาไว้ แต่ในทันทีที่ไม้เลื้อยเหล่านั้นปรากฏขึ้น เสียงแตกร้าวก็ได้ยินมาและพวกมันก็แตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ

พวกมันไม่อาจจะทำให้เมิ่งฮ่าวต้องหยุดชะงักลงแม้แต่ครึ่งก้าว!

สำหรับเม็ดยาทั้งสาม พวกมันระเบิดขึ้นด้วยประจุไฟฟ้า กลายเป็นสายฟ้าสีม่วงสามสาย แต่เมื่อพวกมันฟาดลงมายังเมิ่งฮ่าวในรูปแบบของดวงดาว ผลที่เกิดขึ้นคือดวงดาวหดเล็กลงไปและในที่สุดก็หายไป เผยให้เห็นถึงตัวเมิ่งฮ่าวเอง ซึ่งสาดประกายด้วยแสงสีฟ้า ขณะที่กลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีฟ้า พร้อมกับร่างที่แวบขึ้น เขาพุ่งตรงไปถึงเบื้องหน้าของเทียนอวิ๋นซ่างเหรินในทันที!

ความรวดเร็วของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ยากที่จะบรรยายออกมาได้

“ยังมีของวิเศษอีกหรือไม่?” เมิ่งฮ่าวถาม กำมือเป็นหมัดจนแน่นและต่อยหมัดทำลายล้างชีวิตออกไป

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา และสวรรค์ก็สั่นสะเทือน ความว่างเปล่าแตกกระจายไป และหมัดทำลายล้างชีวิต ที่มีพลังจากพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวหนุนหลังอยู่ ก็ทำให้เทียนอวิ๋นซ่างเหรินเกิดความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงขึ้นมาในทันที

แต่มันก็ไม่ได้ล่าถอย ดวงตากลับเริ่มสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า

“เหล่าฟูประเมินเจ้าต่ำเกินไปแล้ว…” มันกล่าวขึ้น จากนั้นก็หายใจออกมาอย่างแรง มองไม่เห็นปฏิกิริยาจากการหายใจออกมานี้ของมัน แต่กฎธรรมชาติที่อยู่รอบๆ ตัวมัน ทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป และแก่นแท้รอบๆ ตัวมันก็ค่อยๆ ก่อตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นเวทแห่งเต๋าของมันเอง

หนึ่งลมหายใจทำลายสวรรค์!

ตูมมมมมมม!

หมัดทำลายล้างชีวิตของเมิ่งฮ่าว กระแทกเข้าไปในลมหายใจนั้น ทำให้เกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนอย่างน่าตกใจขึ้น ฉับพลันนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันดุร้าย ขณะที่เขาไม่ยอมล่าถอยด้วยเช่นกัน กลับอาศัยพลังสะท้อนกลับที่โจมตีมา เดินตรงไปอีกหนึ่งก้าว

ตูม!

เขาส่งแรงโจมตีสะท้อนกลับนั้นให้หมุนคว้างกลับไปอีกครั้ง ตรงไปยังเทียนอวิ๋นซ่างเหริน ซึ่งมีสีหน้าสลดลงขณะที่รีบถอยไปทางด้านหลังในทันที

ทุกก้าวที่มันถอยหลังไป เมิ่งฮ่าวก็จะเดินตรงไปอีกหนึ่งก้าว ผู้หนึ่งถูกบังคับให้ถอยหลังไปครั้งแล้วครั้งเล่า อีกผู้หนึ่งก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าว!

ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะควบคุมการต่อสู้ได้ทั้งหมด! เขาสามารถสะกดข่มได้โดยสิ้นเชิง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!