Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1252

ตอนที่ 1252

โจมตี

เมิ่งฮ่าวยังคงนั่งอยู่ในห้องท้องเรือ เฝ้ามองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ด้วยดวงตาที่หดเล็กลง ขมวดคิ้วหันหน้าไปมองยังบุรุษที่ยังคงสวมใส่หน้ากากผู้นั้น

“ภายใต้หน้ากากของมัน ต้องเป็นใบหน้าของเมิ่งเต๋ออย่างแน่นอน” เมิ่งฮ่าวพึมพำ

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น บุรุษที่สวมใส่หน้ากากก็ยกมือขึ้นและดึงหน้ากากลงมาอย่างช้าๆ เหมือนกับที่เมิ่งฮ่าวคาดคิดไว้ ใบหน้าของมัน…รวมทั้งรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ดูเหมือนกับ…เมิ่งเต๋อ!

คนทั้งสองดูเหมือนกันโดยสิ้นเชิง!!

ดวงตาเมิ่งเต๋อเบิกกว้างขึ้น ตัวแข็งทื่อ ชี้นิ้วที่สั่นเทาตรงไปยังบุรุษชุดดำ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง จากนั้นก็เริ่มหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา เมื่อตระหนักว่ามันกำลังจะตายไป!

“สังหารมัน จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย พวกเรากำลัง…กลับไปยังตระกูลเมิ่ง” บุรุษที่มีใบหน้าเหมือนกับเมิ่งเต๋อกล่าวขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ

เมื่อมันพูดจบ หนึ่งในผู้ฝึกตนเหล่านั้นที่เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้ดูเหมือนกับกลุ่มผู้ติดตามของเมิ่งเต๋อก็ยิ้มออกมา และพุ่งออกไปเพื่อปลิดปลงสังหารเมิ่งเต๋อ

แต่ในตอนนี้เองที่เสียงถอนหายใจก็ดังก้องออกมา กระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว บุรุษที่มีใบหน้าเหมือนเมิ่งเต๋อมีท่าทางตกใจ เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่เริ่มมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวังตัวในทันที

“ใครแสร้งทำเป็นภูตผี ให้เสนอหน้าออกมา!” เมิ่งเต๋อตัวปลอมกล่าวขึ้น ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้แพร่กระจายออกไป และกลิ่นอายแห่งอาณาจักรเต๋าก็ระเบิดขึ้นมาในทันที ถึงแม้ว่ามันจะมีเพียงแค่หนึ่งแก่นแท้เท่านั้น แต่สำหรับเมิ่งเต๋อแล้ว ก็ยังคงน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

เสียงถอนหายใจนี้ดังมาจากเมิ่งฮ่าว แน่นอนว่าเขาต้องทำเช่นนี้อย่างไร้ทางเลือก ถ้าขืนปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านี้สังหารเมิ่งเต๋อไป การแทรกซึมเข้าไปในตระกูลเมิ่งของเขาก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าพวกมันคงไม่ปล่อยให้เขาเข้าร่วมด้วย และถ้าเขาสังหารพวกมันไปทั้งหมด แล้วกลับไปยังตระกูลเมิ่งตามลำพัง ก็คงจะอธิบายได้ยากเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มคนตระกูลเมิ่งคงจะเกิดความสงสัยจนทำให้เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้น

จุดประสงค์หลักของเมิ่งฮ่าวก็คือปลดปล่อยสายโลหิตของท่านตาให้เป็นอิสระ อันดับแรกก็คือเข้าไปในตระกูลเมิ่งให้ได้ก่อน จากนั้นเมื่อเข้าใจถึงสถานการณ์โดยรวมได้ทั้งหมดแล้ว ค่อยตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไป

“ช่างน่ารำคาญนัก” เมิ่งฮ่าวคิดส่ายหน้าไปมา ก้าวเดินออกไปพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้น และใบหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที เมื่อเมิ่งฮ่าวไปปรากฏกายขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงด้านนอก ไม่มีใครรู้ว่าเขาเพิ่งจะโผล่ออกมาจากภายในตัวเรือ ราวกับว่าเขาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจากภายในอากาศที่ว่างเปล่า ไปอยู่ตรงเบื้องหน้าของบุรุษชุดดำเหล่านั้น

บุรุษที่มีใบหน้าเหมือนเมิ่งเต๋อถอยไปทางด้านหลัง ดวงตาเบิกกว้างขึ้น ออกคำสั่งในทันที

“สังหารมัน!” บุรุษชุดดำอีกเก้าคนรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็รีบปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว พลังการฝึกตนของพวกมันพุ่งขึ้นมา ขยับมือร่ายเวท ทำให้ขวานสงครามอันน่ากลัวปรากฏขึ้น จากนั้นก็สับลงมายังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งเต๋อหดตัวไปอยู่ที่มุมด้านหลัง มองไปด้วยความตื่นเต้นและวิตกกังวล

สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ตอนนี้พื้นฐานฝึกตนทุกส่วนของเขาถูกตันหลางเพิ่มให้สูงขึ้น เขาไม่ต้องโจมตีไปแม้แต่น้อย แค่มองไปยังขวานสงครามที่กำลังสับลงมา แทนที่เขาจะหลบเลี่ยงออกไป กลับชี้นิ้วตรงไปยังขวานเล่มนั้น

เมิ่งฮ่าวไม่ได้ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์หรือวิชาเวทใดๆ เขาพึ่งพาพลังจากกายเนื้อของตนเองเท่านั้น ในทันทีที่นิ้วแตะสัมผัสไปโดนขวานสงคราม เสียงระเบิดก็ดังก้องขึ้น บุรุษชุดดำต่างก็มีใบหน้าที่ดุร้าย เชื่อมั่นในพลังที่พวกมันร่วมมือกันโจมตีไปอย่างเต็มที่ เมื่อพวกมันรวมพลังกันใช้เวทแห่งเต๋านี้ออกมา ก็แข็งแกร่งทรงพลังจนทำให้แม้แต่อาณาจักรเสมือนเต๋าก็ยังต้องสั่นสะท้าน มีข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือ สามารถจะใช้ออกมาได้แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังเป็นที่ชื่นชมจากผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าเมื่อในอดีตที่ผ่านมา ทำให้คนทั้งเก้ามีความเชื่อมั่นโดยสิ้นเชิง

แต่ในตอนนี้สีหน้าพวกมันกลับนิ่งแข็งไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกโพลงขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อและหวาดกลัว สามคนในพวกมันยังได้ร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจอีกด้วย

“นี่…”

“เป็นไปไม่ได้!”

“มัน…”

สำหรับความประหลาดใจของพวกมัน เมื่อนิ้วเมิ่งฮ่าวแตะสัมผัสไปโดนขวานเล่มนั้น เมิ่งฮ่าวไม่ได้สั่นสะท้านขึ้นแม้แต่น้อย ทั้งสีหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น รวมทั้งเสียงแตกร้าวมากมาย เสียงเหล่านั้นทั้งหมดดังออกมาจาก…ขวานสงคราม!

เวทแห่งเต๋าที่รวมพลังกันของคนทั้งเก้า ขวานสงครามที่ทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ปกคลุมไปด้วยรอยแตกร้าวจากการที่นิ้วเมิ่งฮ่าวแตะสัมผัสมาเท่านั้น รอยแตกร้าวแพร่กระจายออกไป เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มไปทั่วทั้งตัวขวาน จนกระทั่งมันแตกกระจายไป…

พลังสะท้อนกลับกระแทกไปยังผู้ฝึกตนทั้งเก้า ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก จากนั้นพวกมันก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัวและตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้แต่ดวงตาของบุรุษที่หน้าเหมือนเมิ่งเต๋อ ก็ยังต้องเบิกกว้างขึ้น

นิ้วเมิ่งฮ่าวไม่มีริ้วรอยเกิดขึ้นแม้แต่น้อย กายเนื้อของเขาแข็งแกร่งกว่าขวานสงคราม จนมันไม่มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบใดๆ ต่อเขาแม้แต่น้อย

เมิ่งฮ่าวยิ้มน้อยๆ ออกมา ค่อนข้างจะพึงพอใจต่อพลังกายเนื้อของตนเอง มองขึ้นไปยังผู้ฝึกตนทั้งเก้า ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร จากนั้นก็หายตัวไปอย่างฉับพลัน ทำให้จิตใจของคนทั้งเก้าระเบิดขึ้นด้วยความรู้สึกที่วิกฤตอย่างน่ากลัว โดยไม่ลังเลใดๆ พวกมันเริ่มหลบหนีจากไป

อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเมิ่งฮ่าว เขาไปปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าบุรุษที่อยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ และใช้ร่างตนเองกระแทกเข้าไปในร่างมันเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่เมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปในร่างบุรุษผู้นั้นอย่างเรียบง่าย ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากมัน จากนั้นร่างกายมันก็ระเบิดออก แรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของมันไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนีจากไป และถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนั้น แค่กระแทกเข้าไปเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น!

บุรุษที่หน้าเหมือนเมิ่งเต๋อรู้สึกประหลาดใจ หนังศีรษะด้านชา ถอยไปทางด้านหลัง กลายเป็นเงาอันเลือนรางขณะที่พยายามจะหลบหนีจากไป แต่เมิ่งฮ่าวก็แค่แค่นเสียงออกไปเท่านั้น

เสียงนั้นกลายเป็นระลอกคลื่นที่ระเบิดออกไป ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน เกิดเป็นลมพายุพุ่งขึ้นมา ม้วนกวาดออกไปยังทุกสรรพสิ่ง

ร่างของบุรุษชุดดำแปดคนที่กำลังหลบหนีจากไป แตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ รวมทั้งกระดูก อวัยวะภายในและแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ โดยที่ไม่ต้องพูดถึงกายเนื้อของพวกมัน เกิดเป็นเสียงปะทุดังขึ้น ขณะที่พวกมันกลายเป็นกลุ่มหมอกโลหิตพุ่งกระจายออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

“ราชันเต๋า!!” บุรุษที่มีใบหน้าเหมือนเมิ่งเต๋อแผดร้องขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะสงสัยว่าเมิ่งฮ่าวจะมีความแข็งแกร่งน่ากลัวมากแค่ไหน แต่เมื่อได้เห็นผลลัพธ์จากการทำลายล้างของเสียงแค่นแค่ครั้งเดียวของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้มันไร้ข้อสงสัยใดๆ อีกต่อไป ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะดูเหมือนกับอะไรก็ตามที แต่พลังการต่อสู้ของเขา…คือสิ่งที่มีแต่ราชันเต๋าเท่านั้นที่สามารถจะปลดปล่อยออกมาได้

จิตใจมันกำลังสั่นสะท้าน ไม่เคยคาดคิดว่าเพิ่งจะเริ่มทำภารกิจ ก็ต้องมาพบเจอกับราชันเต๋าอันน่ากลัวอย่างกะทันหันเช่นนี้ นอกจากนี้ในอาณาจักรขุนเขาทะเล ราชันเต๋าคือผู้ที่มีผลกระทบต่ออาณาจักรทั้งหมดด้วยการกระทืบเท้าลงไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!

บุรุษชุดดำจ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง กลายเป็นภาพอันเลือนลางขณะที่พยายามจะหลบหนีจากไป ในชั่วพริบตาร่างมันก็หายไป และระลอกคลื่นจากเสียงที่เมิ่งฮ่าวโจมตีมาก็พุ่งผ่านตำแหน่งที่มันเพิ่งจะอยู่เมื่อครู่นี้

เมื่อมันปรากฏกายขึ้นใหม่ ก็อยู่ห่างออกไปไกล โดยที่ไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง มันเริ่มหลบหนีจากไป

“ช่างเป็นแก่นแท้ที่แปลกประหลาดนัก” เมิ่งฮ่าวคิดด้วยความสนใจ เดินไปหนึ่งก้าวและหายตัวไป เมื่อปรากฏร่างขึ้นใหม่ ก็ไปอยู่ที่ด้านหลังของบุรุษที่หลบหนีจากไป เมิ่งฮ่าวยื่นมือออกไปทำท่าคว้าจับ ใช้เวทปลิดดาวออกมา

ทันใดนั้น แรงดึงดูดอันน่าตกใจก็ดังกระหึ่มขึ้น กระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่มือของเมิ่งฮ่าวกลายเป็นหลุมดำ ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวไปมา ฝุ่นละอองนับไม่ถ้วนพุ่งตรงมาที่เขา และรอยแตกก็กระจายออกไป

จิตใจบุรุษชุดดำกำลังสั่นสะท้าน และรู้สึกประหลาดใจจนถึงที่สุด ขณะที่ร่างกายลอยไปทางด้านหลังตรงไปยังเมิ่งฮ่าว มันไม่อาจจะควบคุมร่างกายตนเองได้โดยสิ้นเชิง ความรู้สึกถึงวิกฤตอันน่ากลัวพุ่งขึ้นมาในจิตใจ ทำให้มันต้องปลดปล่อยพลังแก่นแท้ทั้งหมดออกมาอย่างไม่อดออมไว้แม้แต่น้อย เพื่อให้หลุดพ้นเป็นอิสระจากการคว้าจับของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นภาพซ้อนทับก็พุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัวมัน

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่เงาร่างชุดดำนับร้อยเริ่มปรากฏขึ้นมาในทันที ทั้งหมดนั้นหลบหนีจากไปในทิศทางที่แตกต่างกัน มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ตกอยู่ในมือเมิ่งฮ่าวซึ่งก็คือผิวหนังหนึ่งชิ้น

“ร่างจำแลง?” เมิ่งฮ่าวพึมพำ มองไปรอบๆ ยังเงาร่างที่กำลังหลบหนีไปทั้งหมด ดวงตาเริ่มสาดประกายขึ้น เห็นได้ชัดว่าร่างจำแลงที่มากมายเหล่านี้ และวิธีการตบตาเช่นนี้ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกสนใจขึ้นมา

เขารู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกัน จากพื้นฐานฝึกตนของตัวเองในตอนนี้ แม้แต่ราชันเต๋าก็ไม่อาจจะต่อสู้กับเขาได้ แต่ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้ กลับสามารถจะหลบหนีไปจากเขาได้ถึงสองครั้งด้วยกัน

แน่นอนว่าเป็นเพราะเมิ่งฮ่าวยังไม่ได้ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างเต็มกำลัง ตอนนี้เขากำลังจะโจมตีไปจนทำให้ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้ไม่อาจจะหลบหนีไปได้อย่างง่ายดายอีกแล้ว

ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะรู้สึกประหลาดใจ แต่บุรุษชุดดำก็ตกใจกลัวแทบตาย มันพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะหลบหนีออกมาได้สองครั้ง

แต่กระนั้นก็ยังเกิดเป็นพลังสะท้อนกลับ ทำให้มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายที่มันแยกร่างจำแลงออกไปนับร้อย ทำให้แก่นแท้ของมันเสียหายอย่างร้ายแรง

“บัดซบ มันไม่ใช่ราชันเต๋าธรรมดาทั่วไป! มันต้องอยู่ในขั้นสูงสุดของอาณาจักรราชันเต๋า พวกเราเคยจดบันทึกไว้แล้วว่ามีราชันเต๋าอยู่ในขุนเขาทะเลที่แปดมากน้อยเท่าใด แต่มันก็ไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้นอย่างแน่นอน!!” ขณะที่บุรุษผู้นั้นหลบหนีจากไปด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงสีเทา

เขาร้องตะโกนออกมาในทันที ทำให้ศีรษะของสุนัขป่าขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง นี่คือหนึ่งในวิชาเวทของตันหลาง แต่เมื่อมาอยู่ในมือเมิ่งฮ่าวมันก็มีหน้าตาเหมือนกับสุนัขป่ามากขึ้น และตะกละน้อยลง สุนัขป่าปรากฏขึ้นในท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กระจายความกระหายเลือดออกมา มีท่าทางสะกดข่มโดยสิ้นเชิง ขณะที่อ้าปากกว้างขึ้นและเริ่มสูดลมหายใจเข้าไป

ตูมมมมมมม…

ทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้านและเริ่มแตกกระจายไป

โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง ราวกับว่า…ทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้น รวมทั้งกฎธรรมชาติและพลังแห่งฟ้าดิน กำลังถูกเมิ่งฮ่าวดูดเข้าไปอยู่ในตอนนี้!

ร่างจำแลงนับร้อยแผดร้องออกมา ขณะที่พวกมันถูกกวาดล้างไป และจากนั้นก็เริ่มระเบิดขึ้น ในชั่วพริบตาหยดพิรุณโลหิตนับไม่ถ้วนก็กระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ในที่สุดก็เหลืออยู่เพียงเงาร่างเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ระเบิดไป ซึ่งจากนั้นก็หมุนคว้างตรงมายังเมิ่งฮ่าว เขาคว้าจับไปที่ลำคอของมัน ผนึกร่างมันไว้ และโยนเข้าไปในถุงสมบัติ

ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าอันทรงพลังถูกปฏิบัติราวกับเป็นลูกไก่ในกำมือ!

เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้ว่าตนเองมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน หลังจากที่ถูกตันหลางชุบร่างขึ้นมาใหม่ ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่…แข็งแกร่งมากกว่าราชันเต๋าซะอีก

“เมื่อไหร่ที่ข้าก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณ…ข้าก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกาย หมุนตัวมองกลับไปยังเรือตระกูลเมิ่งและเมิ่งเต๋อที่กำลังอ้าปากค้างมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างในที่ห่างไกลออกไป เมิ่งฮ่าวค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวทั้งหมดเงียบกริบไปโดยสิ้นเชิง ใบหน้าเมิ่งเต๋อซีดขาว ขณะที่มันจ้องมองออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยความงุนงง จากนั้นก็มองไปรอบๆ ยังซากศพที่อยู่บนเรือ ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ภายในใจ และตอนนี้ก็เริ่มเสียใจขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะมีอายุเท่านี้แล้ว แต่นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของมันเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ เนื่องจากจิตใจมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสับสน ทำให้ไม่ได้สังเกตเห็นว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการสอดมือเข้ามาของเมิ่งฮ่าว สิ่งที่เคยปิดกั้นการสื่อสารถูกทำลายไปแล้ว ทำให้สามารถจะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้อีกครั้ง

เมิ่งเต๋อเริ่มร้องไห้ แต่จู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ หลังจากที่มองไปยังซากศพรอบๆ บริเวณนั้น มันก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องท้องเรือ มันเพิ่งจะพบว่า…ยังมีผู้รอดชีวิตอีกคนอยู่บนเรือลำนี้

ในตอนนี้ ใครก็ตามที่มีชีวิตอยู่บนเรือลำนี้ ก็คล้ายกับเป็นญาติของมัน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!