ตอนที่ 1498
เสียงเรียกให้กลับมา
เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ออกไปด้วยความรวดเร็วคล้ายสายฟ้า พุ่งเข้าไปในเขตสุสาน ติดตามร่องรอยของเศษชิ้นส่วนกระจกลงไป
ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งและหงส์เพลิงที่อยู่ในกลางอากาศสีหน้าเปลี่ยนไป จากการใช้ชิ้นส่วนกระจกของเมิ่งฮ่าว ทำให้พวกมันไม่ทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ตอนนี้เมื่อพื้นดินถูกเปิดออก จิตใจพวกมันก็สั่นสะท้านจนไม่มีเวลาให้ขบคิดมากนัก รีบบินลงไปในเขตสุสานเพื่อพยายามจะขัดขวางเมิ่งฮ่าวในทันที
“อย่าปล่อยให้มันได้ของวิเศษนั้นไป!” คนทั้งสองเป็นผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในโลกแห่งนี้ แต่ก็ยังคงรู้สึกวิตกเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่พุ่งลงไปยังเขตสุสานด้วยความรวดเร็วสูงสุด
น่าเสียดายที่พวกมันช้ากว่าเมิ่งฮ่าวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นลำแสงที่พุ่งผ่านลงไปยังด้านล่าง ถึงแม้ว่าสุสานแห่งนี้จะมีอุโมงค์ที่กระจายออกไปอย่างมากมายนับไม่ถ้วน แต่ภายในจิตใจเมิ่งฮ่าว ชิ้นส่วนสุดท้ายของกระจกทองแดง คล้ายกับเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นมาในยามราตรี ให้ความรู้สึกที่แจ่มชัดเป็นอย่างยิ่ง
เขาไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย อุโมงค์ทั้งหมดที่พุ่งผ่านไป จะแยกออกเป็นสองทิศทางเสมอ แต่ก็รู้ว่าจะต้องไปทางไหน ราวกับว่าเคยมายังที่แห่งนี้มาก่อน
ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งและหงส์เพลิงลดขนาดเล็กลง ไล่ติดตามมาทางด้านหลัง จิตใจพวกมันเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ทำให้ยักษ์ต้องแผดร้องคำรามออกมาด้วยโทสะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด
เวลาเลื่อนผ่านไป การไล่ตามดำเนินไปเป็นเวลาหลายเดือน แต่ยักษ์และหงส์เพลิงก็ไม่อาจจะติดตามเมิ่งฮ่าวได้ทัน เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านเส้นทางอุโมงค์ของเขตสุสานไปด้วยความรวดเร็ว จนในที่สุดก็มองเห็นเศษชิ้นส่วนสุดท้ายของกระจกทองแดง!
มันอยู่ในหลุมลึก ที่ครึ่งหนึ่งเป็นน้ำแข็ง อีกครึ่งเป็นลาวา ตรงจุดกึ่งกลางของหลุมนั้นเป็นเศษชิ้นส่วนกระจก ที่แบ่งแยกบริเวณนั้นออกไปคล้ายกับเป็นหยินและหยาง
บริเวณนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ผันผวนไปมาของทั้งเปลวไฟและน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่าชิ้นส่วนสุดท้ายของกระจกเป็นสิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งเกิดขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ
เมิ่งฮ่าวมองลงไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งหวัง ยื่นมือขวาลงไปยังหลุมนั้นและทำท่าคว้าจับออกไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หลุมนั้นสั่นสะท้านไปทั่วในทันที ราวกับว่าแทบจะระเบิดออกไปได้ทุกเมื่อ ชิ้นส่วนกระจกเริ่มสั่นไปมา จากนั้นก็เคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งเดิมของมันอย่างช้าๆ ราวกับว่ากำลังจะลอยตรงมายังเมิ่งฮ่าว
ในตอนนี้เองที่เสียงแผดร้องคำรามที่ทรงพลังก็ดังก้องออกมาจากภายในชั้นน้ำแข็ง ขณะที่มังกรอันดุร้ายพุ่งออกมา มีรูปร่างคล้ายอสรพิษ ที่ประกอบไปด้วยความหนาวเย็นของน้ำแข็ง พลังของมันปะทุขึ้น พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
เวลาเดียวกันนั้น มังกรเปลวไฟอีกตัวก็พุ่งออกมาจากลาวา แผดร้องคำรามออกมาขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา มือขวายังคงทำท่าคว้าจับเหมือนก่อนหน้านี้ ใช้มือซ้ายขยับร่ายเวทจากนั้นก็ชี้นิ้วลงไป เวทผนึกอสูรปะทุขึ้นด้วยพลังโจมตี ปกคลุมไปทั่วทั้งมังกรน้ำแข็งและเปลวไฟ ผลักดันพวกมันให้ห่างออกไป
มังกรทั้งสองลอยไปทางด้านหลังและกำลังจะโจมตีมาอีกครั้ง แต่มือซ้ายเมิ่งฮ่าวก็ร่ายเวทผนึกอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นสองกระแสกลุ่มหมอกก็พุ่งออกไป กลายเป็นร่างมนุษย์ที่คล้ายกับร่างจำแลง พุ่งตรงไปยังมังกรน้ำแข็งและเปลวไฟในทันที คว้าจับพวกมันไว้ และผลักดันให้ถอยกลับไปทางด้านหลัง มังกรทั้งสองถูกตรึงแน่นอยู่ตรงผนังศิลาในทันที
เวลาเดียวกันนั้นร่างจำแลงทั้งสองก็กลายเป็นเครื่องหมายผนึก ที่ตรึงมังกรทั้งสองตัวไว้ ตอนนี้ไม่ว่าพวกมันจะแผดร้องคำรามออกมาอย่างไร ก็ไม่อาจจะขยับตัวเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย
ต่อมากระจกทองแดงก็สั่นสะท้านมากขึ้นกว่าเดิม และจากนั้นก็เริ่มพุ่งขึ้นไปในอากาศ ในตอนนี้เองที่ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งและหงส์เพลิงเริ่มรู้สึกว่าโลกรอบๆ ตัวกำลังสั่นสะเทือน สีหน้าพวกมันสลดลง และเคลื่อนที่ตรงไปด้วยความรวดเร็วกว่าเดิม ภายในช่วงเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ พวกมันก็ร้องตะโกนออกมาจากภายในอุโมงค์
“ยั้งมือด้วย!” พวกมันแผดร้องคำราม แต่ก็ช้าไปแล้ว ขณะที่เศษชิ้นส่วนกระจกทองแดงลอยขึ้นไปในอากาศ ลาวาและชั้นน้ำแข็งระเบิดขึ้น จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือออกไปคว้าจับชิ้นส่วนของกระจกไว้
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า และยังได้หอบหายใจออกมาเล็กน้อยอีกด้วย เขาทำการค้นหาชิ้นส่วนกระจกนี้มานานหลายร้อยปี แต่ในที่สุดก็สามารถรวบรวมได้ครบถ้วนสมบูรณ์
ชิ้นส่วนของกระจกเองก็ดูเหมือนว่ากำลังร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ในชั่วพริบตามันก็ละลายไป กลายเป็นเส้นใยสีดำที่หลอมรวมเข้าไปในชุดเกราะของเมิ่งฮ่าว ตอนนี้ชุดเกราะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม และกลิ่นอายที่กระจายออกมาก็น่าตกใจอย่างถึงที่สุด
สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน โลกแห่งนี้สั่นไหวไปมา เมื่อไม่มีชิ้นส่วนกระจก ลาวาและน้ำแข็งที่อยู่ภายในหลุมก็เริ่มรวมตัวเข้าด้วยกัน และดินแดนทั้งหมดก็สั่นสะเทือน ภูเขาน้ำแข็งเริ่มหลอมละลาย และเปลวไฟก็เริ่มมอดดับลงไป พลังแห่งการทำลายล้างแผ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งสั่นสะท้าน ส่งเสียงแผดร้องแหลมเล็กออกมา หงส์เพลิงมองไป เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะโจมตีไป ก็กัดฟันแน่น และไปยืนขวางอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว!
เสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วในอากาศ ขณะที่ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งร้องตะโกนออกมาด้วยโทสะ “หั่วฟ่ง (หงส์เพลิง) เจ้ากำลังทำอะไร?”
“มันได้ของวิเศษไปแล้ว ท่านคิดว่าต่อให้พวกเราร่วมมือกัน ก็สามารถจะเอาคืนมาได้จริงๆ?” หงส์เพลิงกล่าวตอบ ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งแผดร้องคำรามออกมา และคนทั้งสองก็เริ่มโต้เถียงกันไปมา จากนั้นพวกมันก็หยุดการส่งเสียงพูดคุย และเริ่มใช้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์หารือร่วมกัน
เมิ่งฮ่าวยืนมองไปอย่างเงียบๆ ไม่สอดมือเข้าไป แต่เพ่งสมาธิไปที่พลังการเรียกของชิ้นส่วนกระจกทองแดงแทน ในตอนนี้เขามีความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า สามารถเรียกกระจกทองแดงออกมาได้!
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก่อนที่ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งจะแผดร้องคำรามออกมาอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่ไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่เวลาเดียวกันนั้นก็ยอมแพ้ด้วยเช่นกัน ในที่สุดมันก็ล้มเลิกความตั้งใจเดิมของตนเอง หงส์เพลิงหันหน้ามายังเมิ่งฮ่าว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลายเป็นร่างมนุษย์ จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ
“สหายเต๋า ก่อนหน้านี้พวกเราวู่วามไปบ้าง ขอท่านโปรดอย่าได้ถือสา หวังว่าท่านจะรักษาคำสัญญาก่อนหน้านี้”
เมิ่งฮ่าวมองไปยังนางด้วยสายตาที่เย็นชา ในตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจต่อสถานที่แห่งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่การกระทำของตนเองที่นำเศษชิ้นส่วนกระจกทองแดงไป ก็ทำให้โลกแห่งนี้ทั้งหมดต้องถูกทำลายล้างไป
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ เมิ่งฮ่าวก็ขยับสองมือร่ายเวท ทำให้พลังการฝึกตนปะทุขึ้นปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้น จากนั้นก็ปลดปล่อยเวทผนึกอสูรออกไป เริ่มต้นจากเวทรุ่นแรกจนกระทั่งไปถึงเวทรุ่นแปด ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดออกไป หลอมรวมเวทผนึกทั้งแปดเข้าด้วยกันอีกครั้ง
แต่ในครั้งนี้เขามีเศษกระจกชิ้นที่แปดในรูปแบบของเกราะป้องกัน ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม สีสันแวบขึ้นไป และสายลมก็กรีดร้องระงม สีหน้าของยักษ์ภูเขาน้ำแข็งและหงส์เพลิงเปลี่ยนไปในทันที
“ผนึก!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ผลักสองมือลงไปที่หลุมแห่งนั้น การกระทำนี้ทำให้พลังผนึกอันน่าเหลือเชื่อพุ่งลงไปยังชั้นน้ำแข็งและลาวาในทันที
ทันใดนั้นทั้งลาวาและน้ำแข็งก็หยุดการหลอมรวมเข้าด้วยกัน และหยุดชะงักนิ่งไปอย่างช้าๆ
เสียงแตกร้าวเริ่มดังก้องออกมา เวลาเดียวกันนั้นเหงื่อก็เริ่มไหลลงมาจากหน้าผากเมิ่งฮ่าว พลังการฝึกตนปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และพลังของเครื่องหมายผนึกแห่งการหลอมรวมเวทผนึกทั้งแปดก็กระจายออกไป ปกคลุมไปทั่วทั้งชั้นน้ำแข็งและลาวาโดยสิ้นเชิง ตอนนี้แทนที่พวกมันจะทำลายซึ่งกันและกัน กลับถูกตรึงนิ่งอยู่กับที่ ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้หลอมรวมเข้าด้วยกันอีกต่อไป!
เวลาเดียวกันนั้น พื้นที่ราบน้ำแข็งที่กำลังหลอมละลายก็เริ่มหยุดชะงักนิ่ง ถึงแม้ว่าพวกมันจะอบอุ่นขึ้นมามากกว่าเดิม แต่ก็ยังคงเป็นพื้นที่ราบน้ำแข็ง
อีกด้านหนึ่งของโลกแห่งนี้ในดินแดนแห่งเปลวไฟ เปลวไฟยังคงลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลุกโชนขึ้นมาเหมือนเช่นเคย และความร้อนก็ลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ สำหรับสองชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในโลกแห่งนี้ ถึงแม้ว่าพวกมันจะตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรงอีกต่อไป
“เมื่อเมิ่งโหม่วรับปากแล้ว ก็ต้องทำอย่างแน่นอน ตอนนี้พื้นฐานฝึกตนของข้าไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยการมีผนึกในที่แห่งนี้ โลกนี้ก็จะปลอดภัยเป็นเวลาหนึ่งหมื่นปี” เมิ่งฮ่าวกล่าว
“เมื่อไหร่ที่พื้นฐานฝึกตนข้าแข็งแกร่งเพียงพอ ก็จะกลับมาเคลื่อนย้ายโลกนี้ออกไปจากอันตรายตราบชั่วนิรันดร์” เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังหลุมแห่งนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็มองตรงไปยังยักษ์ภูเขาน้ำแข็งและหงส์เพลิง
ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งแค่จ้องมองมา แต่หงส์เพลิงยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลง
เมิ่งฮ่าวประสานมือและโค้งตัวลงต่ำให้กับคนทั้งสองเช่นเดียวกัน
“ของชิ้นนี้มีความสำคัญต่อเมิ่งโหม่วเป็นอย่างยิ่ง โปรดยกโทษให้ด้วย สักวันหนึ่ง…เมิ่งโหม่วจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน” ถึงแม้เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าพวกมันจะเชื่อถือตนเองหรือไม่ แต่ก็พูดออกมาด้วยความจริงใจเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยเช่นนั้น เขาก็หันหลังและตรงไปยังปากทางออกของเขตสุสาน
ยักษ์ภูเขาน้ำแข็งและหงส์เพลิงที่อยู่ด้านหลัง มองดูซึ่งกันและกันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แต่พวกมันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ในตอนนี้ ได้แต่ถอนหายใจและจากไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ครอบครองเศษชิ้นส่วนสุดท้ายของกระจก ก็สามารถจะบินไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น หลังจากผ่านไปยี่สิบวัน ก็บรรลุถึงปากทางออกของอุโมงค์ และจากนั้นก็บินขึ้นไปในท้องฟ้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองกลับลงไปยังดินแดนด้านล่างชั่วขณะ จากนั้นก็พุ่งออกไปในความว่างเปล่าด้วยความรวดเร็วสูงสุด ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นก็โผล่ออกมาจากบุปผายักษ์
ตอนนี้เมื่อเมิ่งฮ่าวกลับเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต ดวงตาก็สาดประกายขึ้น และจิตใจก็เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ในตอนนี้เขายังไม่เรียกกระจกทองแดงมา แต่พุ่งออกไปยังที่ห่างไกลแทน
เขาพยายามอยู่หลายครั้งที่จะทำการเชื่อมต่อกับชีวิตที่เก้าของร่างจำแลงตนเอง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ได้แต่รู้สึกถึงมันได้อย่างเลือนรางเท่านั้น เขาไม่มีทางรู้ว่าร่างจำแลงกำลังทำอะไรหรือพบเจอกับประสบการณ์ใดบ้างในตอนนี้ ราวกับว่าถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกอย่างแน่นหนา แต่ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันน่ากลัวและคุ้นเคยที่กำลังถูกบ่มเพาะอยู่ภายในร่างจำแลง
“การเกิดใหม่ครั้งที่เก้านี้มีบางอย่างที่แปลกๆ อย่างแท้จริง หรือเป็นเพราะว่ามันกำลังสร้างเครื่องหมายผนึกของเวทรุ่นเก้าชิ้นสุดท้ายขึ้นมา?”
นี่คือข้อสรุปที่เมิ่งฮ่าวคิดขึ้นมาเอง เวทผนึกสวรรค์ เวทรุ่นเก้า ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ จนดูเหมือนว่าไม่สอดคล้องกับโลกแห่งนี้ บางทีด้วยธรรมชาติอันน่าเหลือเชื่อของมัน จึงเป็นเหตุผลให้เกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงขึ้นมา
หลังจากที่ผ่านไปอีกไม่กี่เดือน เมิ่งฮ่าวก็บรรลุถึงพื้นที่อันแห้งแล้งและอยู่ห่างไกลภายในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต ในที่แห่งนั้นสามารถจะมองเห็นดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งปราศจากสิ่งมีชีวิตโดยสิ้นเชิง และเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพังที่แผ่กระจายเหยียดยาวออกไป
เมิ่งฮ่าวเคยผ่านสถานที่แห่งนี้มาแล้วเมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อน และรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งที่แปลกๆ อยู่ในสถานที่แห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าพลังแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตมีความอ่อนแออยู่ในที่แห่งนี้ ด้วยเช่นนั้นเขาจึงเลือกสถานที่แห่งนี้เพื่อใช้เรียกกระจกทองแดงออกมา
เมิ่งฮ่าวเริ่มติดตั้งค่ายกลเวทอยู่ในที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเวทเกราะป้องกัน เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เรียกกระจกทองแดงออกมา แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด ทำให้มั่นใจว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน!
เมิ่งฮ่าวใช้เวลาสิบปีในการเตรียมการทั้งหมด สุดท้ายแล้วสถานที่แห่งนี้ก็ดูเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ความจริงแล้วในตอนนี้มันเป็นสถานที่ที่อันตรายราวกับเป็นถ้ำพยัคฆ์วังมังกร ในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ นั่งลงขัดสมาธิอยู่หน้าก้อนศิลาที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขยับสองมือร่ายเวท และเศษชิ้นส่วนของกระจกทั้งแปดชิ้นก็ลอยออกมา แลเริ่มหมุนวนไปมาในอากาศรอบๆ ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกมันกำลังก่อตัวเป็นรูปแบบค่ายกลเวทอย่างน่าประหลาดใจ
สายตาเพ่งมองไปและเต็มไปด้วยความมุ่งหวังอย่างลึกล้ำ กล่าวขึ้นว่า “กระจกทองแดง นกแก้ว ถึงเวลาที่จะมารวมตัวกันอีกครั้งแล้ว!”
“ข้าขอใช้พลังของเศษชิ้นส่วนกระจกทั้งแปดชิ้นเรียกเจ้ามา กระจกทองแดง! ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหน ให้กลับมาหาข้า!” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ คิดย้อนกลับไปยังทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อในอดีต จากนั้นก็ขยับสองมือร่ายเวทอีกครั้ง ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ออกไป ทำการเชื่อมต่อกับเศษชิ้นส่วนกระจกทั้งแปด ทำให้ค่ายกลเวททำงานขึ้น เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป และชิ้นส่วนกระจกทั้งแปดก็รวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นกระจกบานหนึ่ง แต่ก็หายไปหนึ่งชิ้น!
ดูเหมือนว่ากระจกจะดูดซับพลังสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวเข้าไป จากนั้นก็ระเบิดขึ้น ขณะที่แสงอันเจิดจ้านับไม่ถ้วนเริ่มปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะท้านขึ้นมา
“กระจกทองแดง กลับมา!”
“นกแก้ว กลับมา!”