Skip to content

King of Gods 1093

King Of Gods

บทที่ 1093 ศีรษะร่างเทพ

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งฝ่ายต่างเผ่าพันธุ์กำขวานยักษ์ผุพัง ทำลายการโจมตีร่วมกันของคนทั้งสี่จนแหลกละเอียด

ขวานยักษ์เล่มนี้ของเขาเดิมเป็นอาวุธเทพชั้นรอง เพียงแต่เสียหายไปเล็กน้อยก็เท่านั้น ด้วยเหตุนี้พลานุภาพจึงลดลงไป แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น อานุภาพของขวานยักษ์สีแดงเข้มก็อยู่เหนืออาวุธชั้นนภาชั้นยอดทั่วไป

“สิบแปดฝ่ามือผนึกนภา!”

คุนอวิ๋นฉวยโอกาสนี้ปลดปล่อยสิบแปดฝ่ามือผนึกนภาออกมาอีกครั้ง

พรึ่บ! พรึ่บ!

ทั่วร่างเขาเปล่งแสงสีทองวาววับ กระตุ้นครึ่งเทพพลังที่แข็งแกร่งในร่างกาย ใช้สำนึกรู้น่าอัศจรรย์ประเภทต่างๆ สะบัดเงาฝ่ามือสีทองสิบแปดเส้นสาย บิดเบี้ยวโจมตีรอบครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง

ถึงแม้วิชาฝ่ามือของคุนอวิ๋นจะไม่กระเทือนครึ่งเทพจวี้เหมิ่งแม้แต่น้อย แต่กลับส่งผลจำกัดและพันธนาการหลายอย่าง

สวบ สวบ!

ต่อจากนั้น พวกจ้าวเฟิงทั้งสามและคุนอวิ๋นฉวยโอกาสนี้ถอยหนีไป

จ้าวเฟิงเรียกเซียนหมื่นปรากฏการณ์ออกมาเพื่อเพิ่มความเร็ว

“โลกวายุอัสนีหมื่นปรากฏการณ์!”

ดวงตาสองข้างของเซียนหมื่นปรากฏการณ์เพ่งมอง เปลี่ยนแปลงสภาพฟ้าดินทันที หนำซ้ำยังมอบขุมพลังวายุอัสนีที่บริสุทธิ์ให้กับจ้าวเฟิงไม่หยุด

ฟู่ แซ่ด แซ่ด!

ปีกแสงศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีชาดของจ้าวเฟิงเปล่งประกายแสบตายิ่งขึ้น ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จ้าวเฟิงนำหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยโบยบินหนีไป

สำนึกรู้ของคุนอวิ๋นสูงส่งอย่างมาก ความเร็วจึงไม่ด้อยไปกว่าจ้าวเฟิงแม้แต่น้อย

“ที่แท้แล้วเป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะควบคุมเซียนหมื่นปรากฏการณ์ไว้แล้ว!”

คุนอวิ๋นมองเพียงปราดเดียวก็ดูออก จ้าวเฟิงใช้ตราผนึกดวงใจทมิฬควบคุมเซียนหมื่นปรากฏการณ์เอาไว้ เพราะในตอนแรกเขาก็โดนจ้าวเฟิงควบคุมด้วยเหตุนี้เช่นกัน

ด้วยพรสวรรค์และสายเลือดของเซียนหมื่นปรากฏการณ์

เผ่าพันธุ์มนุษย์ช้างต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งจึงไล่ล่าสังหารจ้าวเฟิงก็เพื่อช่วยเซียนหมื่นปรากฏการณ์

“พวกเจ้าถึงกับกล้าใช้เขา!”

เมื่อครึ่งเทพจวี้เหมิ่งเห็นสถานการณ์เช่นนี้จึงตะโกนกร้าว พลังที่ไร้รูปร่างทำให้ผนังผลึกรอบด้านสั่นน้อยๆ

“แสงศักดิ์สิทธิ์ข้ามมิติ!”

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งสะบัดสองมือ พลังเทพจำนวนเล็กน้อยหมุนวนทั่วร่าง

ฟุ่บ!

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งที่ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมมองข้ามทุกการขัดขวางทั้งหมด ประดุจแสงสว่างเป็นประกายแวววับ เคลื่อนที่ไปในอุโมงค์กำแพงผลึกอย่างรวดเร็ว

“สิบแปดฝ่ามือผนึกนภา!”

คุนอวิ๋นฟาดเงาฝ่ามือสีทองกึ่งโปร่งแสงออกมาเป็นชุดอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ พลังของฝ่ามือผนึกนภาของคุนอวิ๋นโจมตีไปรอบตัวครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง แต่กลับไม่ได้มีผลลัพธ์อะไรมากนัก

“ตายซะ คุนอวิ๋น!”

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งชูขวานยักษ์ผุพังในมือขึ้น ส่งพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับและพลังเทพมหาศาลเข้าไป ก่อนฟันคลื่นแสงสีแดงเข้มสายหนึ่งออกมาทันที

โครม!

กำแพงผลึกด้านบนพลันปรากฏรอยแยก กำแพงผลึกรอบบริเวณก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ระลอกแสงสีแดงเข้มทะลวงมายังเบื้องหน้าทุกคน

“ไม่ได้การ ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งลงมือสุดแรงแล้ว!”

การโจมตีของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งยังไม่ทันมาถึง จ้าวเฟิงที่โคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็พลันรู้สึกถึงพลังน่ากลัวที่มากพอจะทำลายฟ้าทะลวงดิน ผิวกายของเขามีความเจ็บปวดแสบร้อนที่ไร้รูปร่าง

การโจมตีนี้ของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งแฝงด้วยพลังเทพจำนวนมาก อีกทั้งขวานยักษ์สีแดงเข้มในมือของเขาก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง

“เจ้าแก่หนังเหนียว จะต้องมีวันหนึ่งที่ข้าฟื้นฟูกลับคืนสู่ขอบเขตพลังครึ่งเทพให้ได้…”

คุนอวิ๋นก็รู้สึกถึงภัยอันตรายร้ายแรงเช่นกัน

พรึ่บ! คุนอวิ๋นกระตุ้นแสงเทพสีทองในร่าง ส่งเข้าสู่ปลอกข้อมือสีขาวเทาเก่าแก่บนมือซ้ายเขา

“ผนึกนภาคุ้มกาย!”

คุนอวิ๋นก้าวออกมาทันใด ปลอกข้อมือเก่าแก่บนแขนซ้ายเปล่งแสงสีขาวทอง

วูบ ฟึ่บ ฟึ่บ!

รอบกายคุนอวิ๋นค่อยๆ ปลดปล่อยเกราะแสงสีขาวทองที่หมุนโคจรออกมาอย่างช้าๆ อักขระประหลาดนับไม่ถ้วนขยับแสงวิบวับ เคลื่อนย้ายพลังทั้งหมดที่เข้าใกล้เขาออกไป

โครม! การโจมตีของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งปะทะบนเกราะแสงสีขาวทองที่ปกคลุมรอบกายคุนอวิ๋น จนเกิดเสียงดังสนั่น

วู้ม ฟิ้ว ฟิ้ว!

เกราะแสงอักขระรอบกายคุนอวิ๋นหมุนวนเร็วรี่ กำจัดพลานุภาพมหาศาลในการโจมตีของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งไปทีละน้อย แต่การโจมตีของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งยิ่งใหญ่ทรงพลัง ความเร็วในการโคจรเกราะแสงรอบตัวคุนอวิ๋นค่อยๆ ช้าลงไป จนอยู่ในสภาวะเกือบจะหยุดหมุน

“อาวุธเทพชั้นรอง!”

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งจ้องปลอกข้อมือบนแขนคุนอวิ๋นเขม็ง ในแววตาฉายแววละโมบ

ถึงจะเรียกว่าเป็นอาวุธเทพชั้นรอง แต่มีเพียงพลังเทพเท่านั้นถึงจะสามารถกระตุ้นพลังของอาวุธเทพชั้นรองออกมาได้ แต่ขณะนี้คุนอวิ๋นเพิ่งจะแตะขอบเขตพลังราชาเซียนเท่านั้น พลังเทพที่สามารถโคจรได้มีขีดจำกัด ดังนั้นเมื่อไม่ถึงช่วงเวลาสำคัญ เขาย่อมไม่ใช้พลังเทพโดยง่าย

“พิฆาตทะลวงฟ้า!”

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งเรียกสะบัดคลื่นมีดสีแดงเข้มขนาดใหญ่ออกมาอีกครั้ง เขาอยากครอบครองอาวุธเทพชั้นรองของคุนอวิ๋นจนแทบทนไม่ไหว แต่ในเวลานี้ หนานกงเซิ่งที่อยู่ด้านหลังคุนอวิ๋นก็มีโล่สัมฤทธิ์ลายสัตว์ชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ

หนานกงเซิ่งโคจรพลังเทพปีศาจ หลอมรวมเข้ากับโล่ทองคำ

พรึ่บ โครม!

ทันใดนั้นเอง โล่สัมฤทธิ์เก่าแก่พลันส่งเสียงร้องคำรามที่ป่าเถื่อนดึกดำบรรพ์ออกมา เห็นเพียงศีรษะอสูรขนาดใหญ่เกาะกลุ่มขึ้นเป็นรูปร่าง ปกคลุมรอบเกราะแสงของคุนอวิ๋น

โครม ฟุ่บ!

การโจมตีของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งพลันอ่อนลงไปเมื่อเผชิญกับอาวุธเทพชั้นรองป้องกันของหนานกงเซิ่ง จากนั้นจึงถูกต้านเอาไว้จนหมดจากการป้องกันโดยอาวุธเทพชั้นรองของครึ่งเซียนคุนอวิ๋น

“ยังมีอาวุธเทพชั้นรองอีกรึ!”

ใจครึ่งเทพจวี้เหมิ่งสั่นสะท้าน รับแรงโจมตีอย่างหนักหน่วง

เขาผู้เป็นถึงครึ่งเทพยังมีเพียงแค่อาวุธเทพชั้นรองที่เสียหาย แต่ราชาเซียนคนหนึ่งและเซียนชั้นสูงผู้หนึ่งเบื้องหน้า แต่ละคนต่างมีอาวุธเทพชั้นรองป้องกันคนละชิ้น

อาวุธเทพชั้นรองป้องกันทั้งสองต้านทานการโจมตีของเขาเอาไว้ได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

“ถึงพวกเจ้าจะมีอาวุธเทพชั้นรอง แต่วันนี้ก็ไม่มีทางจะหนีรอดไปได้!”

ใบหน้าครึ่งเทพจวี้เหมิ่งฉายแววบ้าคลั่ง ขอแค่สังหารคนพวกนี้ลงได้ เขาก็จะได้อาวุธเทพชั้นรองทั้งสองชิ้นมาครอบครอง

อาวุธเทพชั้นรอง มีเพียงพลังเทพเท่านั้นถึงจะสามารถสำแดงพลานุภาพของมันออกมาได้ แต่พลังเทพที่คุนอวิ๋นและหนานกงเซิ่งใช้ได้มีอยู่อย่างจำกัด ย่อมไม่อาจใช้พลังอาวุธเทพชั้นรองได้โดยไม่มีขีดจำกัด ดังนั้น ถึงพวกมนุษย์เหล่านี้จะมีอาวุธเทพชั้นรอง แต่ก็ดิ้นรนได้เพียงครู่หนึ่งเท่านั้น

แต่ในเวลานี้เอง

แสงเทพสีทองที่แทรกซึมผ่านดวงวิญญาณ ทะลุผ่านเรือนร่างของครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง ทำให้วิญญาณของเขาสั่นสะท้าน

“อะไรกัน?”

ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งตะลึงค้าง มองจ้าวเฟิงผู้อยู่ด้านหลังหนานกงเซิ่งและคุนอวิ๋น

เปรี๊ยะ!

เห็นเพียงเงาลูกศรสีทองขนาดยักษ์ทะลวงผ่านทุกสรรพสิ่ง ลากพายุพลังสีทองเข้มที่น่าสะพรึงพุ่งมาหาเขา

ส่วนคุนอวิ๋นและหนานกงเซิ่งหลบหลีกอาณาเขตการโจมตีของศรสังหารเทพชั้นรองได้ทันจากการเตือนของจ้าวเฟิง

ตูม!

ศรสังหารเทพชั้นรองปะทะไปที่ร่างของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งอย่างพอเหมาะพอเจาะ พายุวิญญาณสีทองที่น่าหวาดกลัวพร้อมกลิ่นอายอัสนีเทวะระเบิดออกมา

“ไป!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเบา เขาไม่คาดหวังว่าศรสังหารเทพชั้นรองจะสร้างอาการบาดเจ็บอะไรมากมายแก่ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งได้

“จ้าวเฟิง คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมีไพ่ตายแบบนี้อยู่อีก!”

คุนอวิ๋นหัวเราะพลางเอ่ย

จะต้องรู้ว่า ในตอนนี้จ้าวเฟิงอยู่ขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้น พลังของธนูเมื่อครู่มากพอที่จะสังหารเทวาเร้นลับชั้นสูงทุกคนและสร้างอาการบาดเจ็บสาหัสแก่ราชาเซียน ด้วยเหตุนี้สำหรับเซียนขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นทั่วไปแล้ว ไพ่ตายใบนี้จึงเป็นท่าไม้ตายที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

จ้าวเฟิงไม่ได้พูดอะไร ปลดปล่อยวิชาปีกอัสนีโบยบิน ม้วนร่างของหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยหนีไปอย่างรวดเร็ว

อันที่จริง คิดจะสลัดการไล่ล่าจากครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง จ้าวเฟิงสามารถใช้ศรสังหารเทพหรือไม่ก็มนตราอากาศ

เพียงแต่ว่าศรสังหารเทพเป็นไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของจ้าวเฟิง หากไม่ถึงช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานย่อมไม่สามารถใช้อย่างง่ายดาย แต่การใช้มนตราอากาศเคลื่อนย้ายหนีไป จะทำให้ผิดเพี้ยนไปจากเป้าหมายของจ้าวเฟิงในตอนนี้

“ตอนนี้พวกเราอยู่ห่างจากส่วนศีรษะของร่างเทพ ที่นั่นน่าจะมีมนุษย์และต่างเผ่าพันธุ์จำนวนมากรวมตัวกันอยู่ พอถึงตอนนั้น ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งก็ไม่กล้าลงมือทำร้ายพวกเราแล้ว!”

จ้าวเฟิงพูดแผนการของเขาออกมา

คุนอวิ๋นก็สังเกตเห็นแล้วว่าพลังของพื้นที่บางส่วนในร่างเทพกำลังค่อยๆ สลายไป ส่วนทิศทางที่ไหลออกไปก็คือส่วนศีรษะของร่างเทพ ทว่าระหว่างที่แห่งนี้ไปจนถึงตำแหน่งส่วนศีรษะของครึ่งเทพยังมีระยะห่างอยู่

“ระหว่าทางถ้าหากเจอครึ่งเทพมนุษย์ที่แข็งแกร่ง น่าจะขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้!”

จ้าวเฟิงเอ่ยซ้ำอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าเขาและครึ่งเทพแห่งราชวงศ์ต้าเฉียนไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแต่อย่างใด แต่ในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์เหมือนกัน พวกเขาย่อมไม่สามารถมองดูพวกจ้าวเฟิงถูกครึ่งเทพต่างเผ่าพันธุ์ไล่ล่าสังหารได้

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงปกคลุมไปด้วยคลื่นสีทองอ่อน กวาดผ่านกำแพงผลึกรอบบริเวณ

พลังในกำแพงผลึกเหล่านี้ค่อยๆ อ่อนจางลง จึงทำให้กำแพงผลึกที่จ้าวเฟิงสามารถมองทะลุผ่านมีจำนวนมากขึ้น

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ จนถึงตอนนี้จ้าวเฟิงก็ยังไม่เห็นครึ่งเทพมนุษย์ที่แข็งแกร่งสักคน กลุ่มมนุษย์ทั่วไปที่พบเจอก็มีอยู่ไม่น้อย แต่กลุ่มมนุษย์เหล่านี้ไหนเลยจะกล้ายื่นมือเข้าช่วยจ้าวเฟิงต้านทานครึ่งเทพต่างเผ่าพันธุ์

อนึ่ง เส้นทางที่จ้าวเฟิงเลือกก็เป็นเส้นทางที่พยายามเลี่ยงผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์

พรึ่บ โครม!

จนถึงตอนนี้ แรงกดดันมหาศาลทะลวงมาจากด้านหลัง เข้าใกล้พวกจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว

……

และเวลาเดียวกัน ณ มุมใดมุมหนึ่งในร่างเทพ

ในดวงตาพร่าเลือนสองข้างผู้เฒ่าชุดเทาผู้หนึ่งปรากฏเส้นสีดำหมุนวนเป็นก้นหอย ทะลักระลอกพลังดวงตาที่น่ากลัวออกมาจากภายใน

ข้างกายเขายังมีคนชุดดำอีกหลายสิบคน คนชุดดำแต่ละคนต่างมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง ล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทวาเร้นลับ มีสองคนในนั้นที่ขอบเขตพลังแตะขั้นราชาเซียนแล้ว

ด้านหน้าคนชุดดำหลายสิบมีปีศาจผลึกเลือดขนาดใหญ่ ในร่างเต็มไปด้วยเลือด ระลอกแสงสีแดงทองแผ่พวยพุ่งไปทั่วร่าง

ในมือของปีศาจผลึกเลือดกำมุกสีทองเปล่งแสงสว่าง สะท้อนริ้วอักษรสีทองของเสวียนอ้าวประหลาดไปมาภายในมุกแสงนั้น

“อาศัยแค่พวกเจ้า คิดจะครอบครองอาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้งั้นหรือ?”

มุกแสงสีทองในเงื้อมมือของปีศาจผลึกเลือด ทะลักแสงสีทองเส้นสายหนึ่ง หมุนวนไปหาคนชุดดำกลุ่มนั้นด้านหน้า

ทันใดนั้นเอง พวกคนชุดดำถูกแสงสีทองที่มีกลิ่นอายเทพสาดซัดออกมาทำลายจนแหลกละเอียดเป็นผุยผง

แต่ในวินาทีต่อมา ณ กลางอากาศ คนชุดดำที่ร่างกายแหลกละเอียด จู่ๆ ก็เกาะกลุ่มรวมตัวกันขึ้นอย่างช้าๆ

ทันใดนั้น ดวงตาซ้ายของผู้เฒ่าชุดเทาเต้นระเร่าเหมือนสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง

“จ้าวเฟิง? เจ้าอย่าตายเร็วไปนักล่ะ!”

ผู้เฒ่าชุดเทาหัวเราะเสียงเย็น มองไปที่ปีศาจผลึกเลือดขนาดยักษ์ด้านหน้า

ในร่างเทพ

ถ้ำผลึกบริเวณศีษระด้านนอกของร่างเทพ มีทะเลสาบสีแดงสุกสว่างแห่งหนึ่ง

ภายในทะเลสาบดังกล่าวมีสัตว์อสูรปลาที่เกิดจากการกระแสน้ำสีแดงรวมตัวกัน

“ตายซะ เจ้าปลาอสูร!”

บริเวณรอบๆ ปลาอสูรสีแดงโปร่งแสงตัวนี้ มีเงาร่างน่ากลัวใบหน้าเย็นชา น่ากลัวเยือกเย็นห้าร่างปรากฏขึ้น

โครม!

ผู้แข็งแกร่งลัทธิมารห้าคนวนรอบปลาอสูร ไม่หยุดกระตุ้นการโจมตีศาสตร์มารที่น่ากลัวออกมา

วี้ด!

ปลาอสูรสีแดงสกาวกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด พลังสำนึกรู้ในวิญญาณที่ทำให้คนหวาดผวาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้แข็งแกร่งลัทธิมารรอบบริเวณอกสั่นขวัญแขวน

“หลบไป!”

ในตอนนี้ บริเวณด้านหลังคนทั้งห้าปรากฏผู้ชราที่ทั่วร่างปกคลุมด้วยเพลิงมาร เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ผู้อาวุโสสูงสุด!”

“ผู้อาวุโสโยวไห่!”

ผู้แข็งแกร่งลัทธิมารทั้งห้าคนถอยร่นไปทันที

“แสงมารเก้านิรย!”

ครึ่งเทพโยวไห่แค่นเสียงเย็น เรียกพลังเทพสีดำสนิทกลุ่มหนึ่งออกมา ฟาดมือออกไปในอากาศ

ทันใดนั้นจึงเห็นลำแสงสีดำขนาดใหญ่ราวน้ำหมึก มันหอบเอาพลังศาสตร์มารที่รุนแรงน่ากลัวทะลวงผ่านไปในอากาศ ทะลุผ่านทุกสรรพสิ่ง พุ่งไปหาปลาอสูรและทะลวงผ่านไป

เหล่าผู้แข็งแกร่งศาสตร์มารทั้งห้าใจสั่น เมื่อมองปลาอสูรแดงตัวนั้นดำดิ่งลงไปใต้ทะเลสาบ พวกเขามองครึ่งเทพโยวไห่อย่างเลื่อมใส

“เดินตรงไปที่ตำแหน่งศีรษะของร่างเทพได้แล้ว!”

แววตาของครึ่งเทพโยวไห่เปล่งประกายแสงเย็นชาดำมืด

“ไม่เจอจ้าวเฟิง นับว่าเสียดายอย่างยิ่ง หวังว่าพวกเขาจะมีชีวิตมาจนถึงส่วนศีรษะของร่างเทพ!”

ครึ่งเทพโยวไห่ยิ้มเย็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!