ตอนที่ 1278
แก่นแท้ที่ห้าแห่งความจริง
สี่แก่นแท้แรกของเด็กชายเริ่มต้นด้วยความแปลกประหลาด แก่นแท้แห่งต้นไม้ใบหญ้าของมันไม่ธรรมดา และแก่นแท้แห่งสายฝนก็มีสีดำอย่างคาดไม่ถึง เป็นการบ่งบอกว่าประกอบไปด้วยพิษร้าย แก่นแท้ทั้งสองนี้ยากที่จะพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
จากธรรมชาติของแก่นแท้เหล่านี้ สามารถจะคาดคิดได้ว่าแค่สี่แก่นแท้ของมัน ก็สามารถจะอยู่ในจุดสูงสุดของจักรพรรดิเต๋าสี่แก่นแท้ได้แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงแก่นแท้ที่ห้าของมัน ซึ่งเป็นแก่นแท้แห่ง…
ความจริง!
แก่นแท้ที่ห้านี้สามารถจะเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ทั้งสี่ของมัน ให้มีพลังที่แม้แต่สวรรค์ยังต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน ตอนนี้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมา และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็กำลังสั่นไหวไปมา พลังจากพื้นฐานฝึกตนอันไร้ขอบเขตปะทุขึ้นมาจากแก่นแท้ที่เด็กชายเรียกมา
“ในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง มีผู้ฝึกตนเพียงแค่สี่คนเท่านั้นที่เป็นจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้!” เด็กชายกล่าวขึ้น
“ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดคือตี้จ้างต้าจุนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่ ซึ่งอยู่ในขั้นสูงสุดหกแก่นแท้ มีข่าวลือว่ามันอยู่ห่างจากการเป็นผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้แค่ครึ่งก้าวเท่านั้น สำหรับอีกสามคน พวกมันคือสามจุนเจ่อ (อารยะ) แห่งสามคัมภีร์เต๋าดั้งเดิม!”
“เมื่อพูดถึงจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ ก็มีมากกว่าจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้แค่เล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้แต่ในจิ่วต้าซานไหน (เก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่) ทั้งหมด ก็มีไม่มากไปกว่าสิบห้าคน ในท่ามกลางสิบห้าคนเหล่านั้น ข้าอาจจะไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าราชันขุนเขาทะเล!”
“ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าเจ้าจะก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณในฐานะที่เป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า หรือว่ามีสายโลหิตของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ก็ตาม…เจ้าก็ยังไม่อาจจะสู้กับข้าได้!”
ดวงตาเด็กชายสาดประกายเย็นเยียบ ขณะที่ส่งเสียงดังก้องออกมา แก่นแท้ของมันสั่นสะท้าน ขณะที่ปกคลุมไปรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว ต้นไม้ใบหญ้าอันไร้ขอบเขตเติบโตขึ้นด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จนเกิดเป็นพลังแห่งต้นไม้ใบหญ้าพุ่งกระจายออกไป จากนั้นก็ดูเหมือนว่าหยดน้ำฝนสีดำได้กระจายเป็นแรงกดดันอันน่าประหลาดใจไปบนร่างเมิ่งฮ่าวด้วยเช่นกัน
สำหรับความมืดมิด ก็ยิ่งน่ากลัวมากไปกว่านั้น ปกคลุมไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง เปลี่ยนให้ร่างเขาเป็นสีดำสนิท ราวกับว่ากำลังหลอมรวมเข้ากับยามราตรี
จากนั้นก็เป็นแก่นแท้แห่งแสงสว่าง เป็นพลังที่สามารถจะขจัดความมืดมิดไปได้อย่างแท้จริง มันเริ่มทำให้เมิ่งฮ่าวระเหยกลายเป็นไอไปอย่างช้าๆ ในขณะที่ก่อนหน้านี้มันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่ด้วยแก่นแท้แห่งความจริง ทำให้ตอนนี้มันสามารถจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างแท้จริง
ตูมมมมมมม!
ผู้ฝึกตนตระกูลเมิ่ง รวมทั้งผู้รุกราน ต่างก็ตกตะลึงต่อสิ่งที่พวกมันกำลังมองเห็นอยู่นี้ จนลืมไปว่าพวกมันกำลังต่อสู้และสังหารซึ่งกันและกันอยู่
สายตาทั้งหมดต่างก็จ้องนิ่งไปยังการต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวและเด็กชาย!
“จักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้…เด็กชายนั่น…เป็นจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้จริงๆ!” ห้าปรมาจารย์ตระกูลเมิ่งกำลังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวและประหลาดใจ ถึงแม้ว่าพวกมันทั้งหมดจะอยู่ในอาณาจักรเต๋าก็ตาม แต่นี่คือครั้งแรกที่พวกมันได้เห็นใครบางคนปลดปล่อยห้าแก่นแท้ออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกมันจะเคยต่อสู้กับเมิ่งฮ่าว แต่พลังการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมาก็ทำให้พวกมันต้องคาดเดาไปถึงขีดจำกัดของพลังที่แท้จริงของเขาเท่านั้น แต่ในตอนนี้เมื่อได้เห็นห้าแก่นแท้จริงๆ ก็ยากที่จะอธิบายได้ว่าพวกมันรู้สึกสั่นสะท้านมากแค่ไหนกันแน่
อาณาจักรขุนเขาทะเลในปัจจุบันนี้ ตี้จ้างต้าจุนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่คือจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้ แต่ราชันขุนเขาทะเลอีกแปดคน ต่างก็อยู่ในขั้นห้าแก่นแท้กันทั้งหมด ผู้ที่อ่อนแอมากที่สุดในกลุ่มพวกมันก็คือราชันจี้แห่งขุนเขาทะเลที่เก้า ซึ่งยังไม่บรรลุถึงระดับห้าแก่นแท้!
ด้วยเช่นนั้น จึงสามารถจะกล่าวได้ว่าผู้ฝึกตนห้าแก่นแท้คือผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากที่สุดในอาณาจักรขุนเขาทะเล ใครก็ตามในกลุ่มคนเหล่านี้ต่างก็แข็งแกร่งอย่างเพียงพอที่จะทำลายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอันกว้างใหญ่นี้ได้
ในขุนเขาทะเลที่เจ็ด บุคคลที่แข็งแกร่งมากที่สุดคือจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ หนึ่งในนั้นคือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด และอีกคนก็คือเด็กชายผู้นี้ เซียวอี้หาน!
มีแต่ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังเช่นมัน ถึงจะสามารถเป็นผู้นำกองทัพหน้ามารุกรานขุนเขาทะเลที่แปด เพื่อเริ่มทำสงครามขุนเขาทะเล!
อีกเหตุผลที่ทำให้มันกล้าบุกรุกเข้ามาก็คือว่า…ข่าวกรองที่ขุนเขาทะเลที่เจ็ดได้รับมาตลอดช่วงหลายปีมานี้ ได้บอกกับพวกมันว่าในขุนเขาทะเลที่แปด มีผู้แข็งแกร่งที่บรรลุถึงระดับห้าแก่นแท้แค่คนเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปด นอกจากมันแล้วผู้แข็งแกร่งมากที่สุดก็อยู่ในระดับสี่แก่นแท้เท่านั้น!
ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากที่สุดต่อจากราชันขุนเขาทะเลที่แปด คือหัวหน้าผู้พิทักษ์เต๋าแห่งเทียนเสินเต้า ซึ่งตามหลักการแล้วก็อยู่ในระดับห้าแก่นแท้
แต่ในความคิดของเซียวอี้หาน ห้าแก่นแท้ของมันจริงๆ แล้วก็ขอยืมมาจากราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปด ไม่ใช่สิ่งที่มันรู้แจ้งมาด้วยตนเอง ดังนั้นเซียวอี้หานจึงไม่วิตกกังวลต่อมันแม้แต่น้อย
“ยังไม่ตายอีก!?” เซียวอี้หานร้องตวาดขึ้น ดวงตาแวบประกายเย็นเยียบ การปรากฏตัวขึ้นของเมิ่งฮ่าว ทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างกองกำลังของขุนเขาทะเลที่แปด เป็นสิ่งที่มันไม่อาจจะยอมรับได้ เพื่อให้มั่นใจว่าสงครามขุนเขาทะเลจะเป็นไปตามแผนการที่มันวางไว้ ทำให้ตอนนี้เซียวอี้หานต้องการกำจัดเมิ่งฮ่าวไปมากขึ้นกว่าเดิม
“ถ้าข้าไม่สังหารมันไปในตอนนี้ และมันสามารถจุดตะเกียงวิญญาณขึ้นมาได้ต่อไป พลังการต่อสู้ของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะสูงเกินกว่าระดับของราชันขุนเขาทะเล!”
“นี่คือเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า…ในอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่น่ากลัวและแข็งแกร่งมากที่สุดก็คือ…เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า!”
“โชคดีที่ในสมัยโบราณจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ ไม่เคยมีเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าแม้แต่คนเดียวจะเคยก้าวเข้าไปในเต๋า พวกมันทั้งหมดตายไปในขั้นตอนของการดับตะเกียงวิญญาณช่วงที่อยู่ในอาณาจักรโบราณ คนผู้นี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่ถ้าข้าไม่สังหารมันไปในตอนนี้ มันก็จะต้องกลายเป็นอุปสรรค์ของพวกเราในภายหลัง!” ดวงตาเซียวอี้หานสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา ขณะที่มองไปยังแก่นแท้ของมันที่บดขยี้ลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นโม่บดหิน เพื่อกำจัดเขาไปโดยสิ้นเชิง!
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะเทือน เมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้านด้วยเช่นกัน รู้สึกได้ว่าต้นไม้เหล่านั้นพยายามจะดูดเอาพลังชีวิตของตนเองออกไปเพื่อเติบโตขึ้น และพิษที่อยู่ในหยดน้ำสีดำก็กำลังกัดกินวิญญาณของเขาไป
ที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือพลังแห่งความมืด ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่สนใจต่อความแข็งแกร่งของกายเนื้อและพื้นฐานฝึกตนของเขา ขณะที่เริ่มย่อยสลายพวกมันไป เมื่อให้มั่นใจว่าเมื่อพลังแสงสว่างของเด็กชายปกคลุมมาบนร่างเมิ่งฮ่าว ก็จะคล้ายกับเป็นกระบี่นับหมื่นเล่มที่กำลังแทงเข้ามาในจิตใจ ทำให้เกิดเป็นความเจ็บปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง เมิ่งฮ่าวรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกกวาดออกไปโดยอุทกภัย ราวกับว่าพลังแห่งห้าแก่นแท้กำลังกวาดเขาออกไปจากการคงอยู่!
เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำรามอยู่ภายในใจ แก่นแท้เหล่านี้กดดันได้แค่ร่างกายของตนเองเท่านั้น ไม่อาจจะกดดันตะเกียงวิญญาณของเขาได้!
ในช่วงวิกฤตนี้ เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ภายในร่าง ขณะที่พื้นฐานฝึกตนพุ่งทะยานขึ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่า! ในช่วงอันตรายที่ร้ายแรงนี้ ตะเกียงวิญญาณยี่สิบแปดดวงของเมิ่งฮ่าว ลอยขึ้นไปเหนือศีรษะราวกับเป็นบุปผาที่กำลังเบ่งบาน!
แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น! ในตอนนี้เองที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่ยี่สิบเก้าได้ปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน!
จากนั้นก็ดวงที่สามสิบ! มีตะเกียงวิญญาณที่จุดติดขึ้นมาแล้วทั้งหมดสามสิบดวง กำลังหมุนวนไปรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว เกิดเป็นแสงเจิดจ้าออกไป ทำให้ความมืดมิดจางหายไป แสงสว่างถูกผลักออกไป สายฝนสีดำถูกตัดขาด และต้นไม้ใบหญ้าก็ล้มตายลง
โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากเมิ่งฮ่าว ขณะที่ร่างกายฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เขามองขึ้นไปยังเซียวอี้หานที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ในตอนนี้อย่างฉับพลัน
“เจ้าอาจจะแข็งแกร่ง ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่ช่วยให้ข้าเข้าใจว่า…จักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้คืออะไร!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับกวาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก ตอนนี้เขายิ่งมีความมั่นใจต่อระดับพลังการต่อสู้ของตนเองมากขึ้น
“ข้าอยากรู้นักว่า ชายชราจากเทียนเสินเต้าที่มีพลังการฝึกตนห้าแก่นแท้ ทำไมถึงได้แตกต่างกับเจ้าเป็นอย่างมาก?” เมิ่งฮ่าวถามขึ้น
ถ้าคนอื่นมาถามเซียวอี้หานเช่นนี้ มันคงจะไม่ยอมตอบ แต่เมิ่งฮ่าวมีความน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าพื้นฐานฝึกตนของเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับมัน แต่พลังต่อสู้ของเขาก็เทียบเท่ากับมัน จากความน่ากลัวที่ว่าเขาคือเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า ทำให้เซียวอี้หานต้องครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็กล่าวว่า “เจ้าหมายถึงหัวหน้าผู้พิทักษ์เต๋าแห่งเทียนเสินเต้า? จริงๆ แล้วมันอยู่ที่สี่แก่นแท้ แก่นแท้ที่ห้าของมันถูกยืมมา”
“เข้าใจแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ พร้อมกับพยักหน้าให้
ก่อนที่จะเอาชนะทัณฑ์นี้ เมิ่งฮ่าวเชื่อว่าพื้นฐานฝึกตนของตัวเองเพียงพอที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ แต่ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าความเข้าใจของตนเอง อ้างอิงมาจากหัวหน้าผู้พิทักษ์เต๋าในคำถามนี้
ถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องก็คือ ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะเอาชนะทัณฑ์โบราณ พลังการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับขั้นสูงสุดของระดับสี่แก่นแท้ ซึ่งอยู่ห่างจากระดับห้าแก่นแท้ที่แท้จริงอยู่ครึ่งก้าว ดังนั้นในช่วงของการเอาชนะทัณฑ์โบราณ เมื่อเมิ่งฮ่าวไปเผชิญหน้ากับบุรุษไร้หน้าห้าแก่นแท้ เขาจึงสามารถจัดการได้แค่หนึ่งคนเท่านั้น นอกจากนี้พวกมันก็ไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่แท้จริง และอ่อนแอ่กว่าผู้ฝึกตนห้าแก่นแท้อยู่เล็กน้อย เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับใครบางคนเช่นเด็กชายผู้นี้ เขาก็ไม่อาจจะเอาชนะได้
เมื่อเอาชนะทัณฑ์โบราณ และจุดตะเกียงวิญญาณขึ้นมา
พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไป พลังเซียนถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นฐานโบราณ และผลเนี่ยผานก็กลายเป็นผลไม้เต๋า ในตอนนี้ ทำให้พร้อมที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ได้อย่างแท้จริง
“ในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง มีจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้แค่สิบห้าคนเท่านั้น…รวมทั้งราชันขุนเขาทะเลทั้งหมด…สำหรับราชันเหล่านั้น พวกมันส่วนใหญ่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับห้าแก่นแท้ ห่างจากหกแก่นแท้แค่เส้นใยเดียวเท่านั้น…เห็นได้ชัดว่าข้ายังคงอยู่ห่างจากกลุ่มคนเหล่านั้นครึ่งก้าว ต้องเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน เพราะดูเหมือนว่าเซียวอี้หานและข้า…ใกล้เคียงกัน” เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว รากเหง้าของปัญหาขึ้นอยู่กับตะเกียงวิญญาณ นอกจากนี้ตะเกียงวิญญาณจริงๆ แล้วก็เป็นตัวแทนของพลังที่อาจจะมีได้ในอนาคต
“ถ้าข้าเข้าใกล้ระดับราชันแห่งขุนเขาทะเล เมื่อข้าดับตะเกียงวิญญาณลงไปได้สำเร็จ ข้าก็สามารถจะปิดช่องว่างนั้นได้อย่างรวดเร็ว!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่เริ่มก้าวเดินตรงไปยังเซียวอี้หาน
ดวงตาเซียวอี้หานเบิกกว้างขึ้น มันเริ่มมองเมิ่งฮ่าวในฐานะที่เป็นคู่ต่อสู้อันแข็งแกร่งแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเขาก้าวเดินมาเช่นนี้ ก็ทำให้ต้องรีบถอยไปทางด้านหลังในทันที ขยับสองมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้แก่นแท้ของมันพังทลายลงไป
ขณะที่เกิดขึ้นเช่นนั้น ชิ้นส่วนแก่นแท้ก็ก่อตัวเป็นมือทั้งห้า มือแต่ละข้างสร้างขึ้นมาจากแก่นแท้ และพวกมันก็คว้าจับไปยังร่างเมิ่งฮ่าว ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่จู่ๆ กระจกทองแดงก็แวบขึ้นมาในมือขวา แผ่กระจายออกไปปกคลุมมือข้างนั้น กลายเป็นอาวุธสงคราม ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้มือซ้ายขยับร่ายเวท ทำให้สุดยอดสะพานส่งเสียงดังกระหึ่มออกมาต่อต้านหัตถ์ยักษ์ทั้งห้า
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หัตถ์ยักษ์และสุดยอดสะพานกระแทกเข้าหากัน เห็นได้ชัดว่าเกิดการหยุดชะงักนิ่งไป สีหน้าเซียวอี้หานเปลี่ยนไป และทันใดนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวและแผดร้องคำรามออกมา
เสียงแผดร้องคำรามนั้นทำให้ความว่างเปล่าที่เบื้องหน้าเซียวอี้หานแตกกระจายไป ชั้นแล้วชั้นเล่า และจากนั้นก็ม้วนกวาดตรงไปยังเมิ่งฮ่าว เมื่อคลื่นเสียงกระแทกมาที่เขา เมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้าน และเห็นได้ชัดว่าไม่อาจจะเคลื่อนที่ตรงไปข้างหน้าได้อีกต่อไป
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา ปลดปล่อยพลังการฝึกตนให้ระเบิดออกไป ขณะที่ตะเกียงวิญญาณสามสิบเอ็ดดวงปรากฏขึ้นที่ด้านบนศีรษะ เวลาเดียวกันนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมา และตวัดสับลงไปยังเซียวอี้ซาน